Saturday, June 3, 2023

Gucci พาเราออกเดินทางสู่จักรวาลการสร้างสรรค์เรือนเวลาชั้นสูง High Watchmaking Collection

ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ….นี่คงเป็นหนึ่งในเหตุผลให้แฟชั่นเฮ้าส์อย่าง Gucci ยืนยงมานาน 102 ปีพร้อมกับการก้าวไปในทิศทางใหม่อย่างโลกของนาฬิกาชั้นสูง…แถมยังจริงจังเสียด้วย ดังจะเห็นได้จากผลงานใหม่ที่นำมาเปิดตัวในเจนีวาปีนี้ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นในธีมอวกาศ 

หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าประวัติศาสตร์นาฬิกาของ Gucci เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1972 ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นแบรนด์แรกๆ ที่ก้าวเข้าสู่ตลาดนาฬิกาด้วยตระหนักดีว่าไลฟ์สไตล์นั้นไม่ได้หมายถึงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น  นาฬิกาของ Gucci จะถูกออกแบบที่อิตาลี แต่นำมาพัฒนาและผลิตที่สวิตเซอร์แลนด์ตามมาตรฐานสวิสเมดอันเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ปัจจุบัน โรงงานผลิตนาฬิกาของ Gucci ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเนอชาเตล และมีโรงงานผลิตหน้าปัดอยู่ที่เมืองทิชิโน ซึ่งไม่ไกลจากอิตาลี 

จากนาฬิกาแฟชั่นที่หลายคนคุ้นเคย Gucci ได้เริ่มสร้างสรรค์นาฬิกาชั้นสูง หรือ Gucci High Watchmaking collection  นับตั้งแต่แบรนด์ครบรอบหนึ่งศตวรรษเมื่อสองปีก่อน และนับวันก็ยิ่งจริงจังขึ้นเรื่อยๆ ดังเช่นผลงานเหล่านี้ซึ่งจะผลิตแบบตามสั่งจากลูกค้าพิเศษเท่านั้น 

G-Timeless Planetarium 

ขออธิบายก่อนว่าฟังก์ชั่นที่สลับซับซ้อนในภาษานาฬิกาเรียกว่า complication ส่วนการเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนที่ไร้ฟังก์ชั่นนั้นเรียกว่า animation สำหรับคอลเลกชั่นนี้มีครอบทั้งสองอย่าง ตรงกลางหน้าปัดคือทูร์บิญง Dancing Hours Flying Tourbillon ประดับเพชร ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไก GGC.1976.DS. ซึ่งตั้งชื่อตามเนบิวล่า NGC 1976 ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า รอบทูร์บิญงซึ่งดูราวกับดวงอาทิตย์ล้อมด้วยอัญมณี 12 เม็ดแทนหลักชั่วโมง อัญมณีแต่ละเม็ดสามารถหมุนรอบตัวเองได้ภายในเวลา 9 วินาที และเคลื่อนที่รอบหน้าปัดได้จนครบรอบภายในเวลา 90 วินาทีเพียงแค่กดปุ่มสตาร์ต-สต็อปที่เม็ดมะยม ผลงานใหม่นี้มีทั้งเวอร์ชั่นที่ประดับโอปอลเอธิโอเปีย รุ่นที่ประดับอัญมณีในเฉดสีพาสเทล รุ่นประดับอัญมณีเฉดสีซันเซ็ต และรุ่นประดับเพชร 

G-Timeless Dancing Bees

คอลเลกชั่นนี้โดดเด่นด้วยโมทีฟรูปผึ้ง 12 ตัว สัญลักษณ์ของกุชชี่ที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ผึ้งทองตัวจิ๋วนี้สร้างสรรค์ด้วยมือและสามารถขยับไหวได้เพียงแค่ขยับข้อมือ  (ด้วยเทคนิค ball bearing ซึ่งติดตั้งอยู่ปลายก้านของตัวผึ้ง) สำหรับปีนี้ G-Timeless Dancing Bees โดดเด่นด้วยหน้าปัดประดับฮาร์ดสโตน ทั้งเทอร์ควอยซ์ และกรีนโอปอลด้วยเทคนิคมาร์เก็ตทรี โดยนำสโตนมาตัดและขัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กขนาดบาง (0.45 มม.)  และนำมาเรียงต่อกันบนหน้าปัดเป็นลวดลายงดงาม ขับให้ทูร์บิญองประดับเพชรที่ติดตั้ง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกายิ่งโดดเด่น 

G-Timeless Moonlight 

หน้าปัดอันงดงามนี้เกิดจากการนำเอาอาเวนเจอรีนกลาสมาประดับลงบนพื้นหน้าปัดมาเธอร์ออฟเพิร์ล และแสดงฟังก์ชั่นมูนเฟสที่กลางหน้าปัดด้วยแผ่นดิสก์แทนดวงจันทร์สองวง นาฬิการุ่นนี้พิเศษตรงที่สามารถ  customize ได้โดยใช้สถานที่ เวลา และวันที่มากำหนดการตกแต่งบนหน้าปัด โดยสามารถใช้ราศีและตำแหน่งของดาวประจำวันเกิดกำหนดชนิดของอัญมณี 6 เม็ดที่ประดับบนขอบตัวเรือนด้านในได้ซึ่งสามารถหมุนได้ด้วยการหมุนเม็ดมะยม ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกา ทั้งยังสามารถพิมพ์ตัวอักษร 5 ตัวที่วงแหวนด้านใน ทั้งยังสามารถเลือกสลักรูปกลุ่มดาวประจำตัวที่โรเตอร์และเลือกสายหนังจระเข้แบบที่ต้องการได้ 

Gucci 25H

ตัวเรือนไวท์โกลด์ของนาฬิกาขนาด 40 มม. นี้งดงาามราวกับโครงสร้างสถาปัตยกรรมก็ไม่ปาน นาฬิกา Gucci 25H Skeleton Tourbillon  แสดงให้เห็นทุกชิ้นส่วนของกลไกที่ดูราวกับลอยอยู่บนบริดจ์ที่พาดผ่านด้านหลัง จักรกลฟลายอิ้งทูร์บิญงอันทันสมัยหมุนครอบรอบทุกๆ  1 นาที ในส่วนของก้านที่ทำหน้าที่ไขลานสไมารถ personalize สามารถสลักตัวอักษรได้ข้างละ 8 ตัว

Grip

คอลเลกชั่นนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 โดยนำแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมสเกตบอร์ดในยุค 1970s สำหรับเวอร์ชั่นนาฬิกาชั้นสูง กุชชี่เลือกแสดงเวลาด้วยฟังก์ชั่น jumping hour ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุค 1920s ทั้งยังเพิ่มความวินเทจด้วยการใช้ฮาร์ดสโตนอย่างแจสเปอร์และคริสโซเพรสในการตกแต่ง 






Other Articles