Thursday, April 18, 2024

คุยเพลินๆ กับทะเล สงวนดีกุล และ 5 คำตอบสุดจินตนาการ

กำลังเดินเรื่องอย่างเข้มข้นสำหรับ War Of Y ทาง AISPLAY ซีรีส์ที่ถูกอกถูกใจคนดูด้วยเนื้อหาล้วงลึก เล่าเรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผ่าน 4 เรื่องราวที่เฉือดเชือนอารมณ์ (คู่จิ้นใหม่ สงครามผู้จัดการ วายไอดอล และเมีย) หลังจากเริ่มออนแอร์ไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ากระแสยังแรงต่อเนื่อง รวมทั้งบทบาทการแสดงของตัวละครแต่ละคนก็ไม่มีใครยอมใคร หนึ่งในนั้นที่ทุกคนคุ้นหน้าและถูกพูดถึงต้องมีชื่อ ‘เล-ทะเล สงวนดีกุล’ รวมอยู่ด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้

เล่าคาแร็กเตอร์ในเรื่องให้ทราบหน่อย

ผมรับบทเป็นพี นักแสดงที่ประสบความสำเร็จในวงการซีรีส์วาย คู่จิ้นผมก็คือ ดิว (รับบทโดย มิวซ์-ณัฐวิทย์) แต่ว่าดิวเข้าช่องแล้ว ส่วนผมยังอยู่ตรงนี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างสูงสุด หลายคนมองว่าเป็นไอดอล แต่พีก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองอยู่บนท็อปให้ได้ ซึ่งจะไปเกี่ยวกับคนโน้นคนนี้ มีการวางแผนโน่นนี่นั่น

มีความทะเยอะทะยานสูงว่างั้น

ใช่ครับ พีเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม บางครั้งอาจจะเป็นการใช้งานคนอื่นบ้าง คือเขาเป็นคนที่อยู่กับโลกตรงนี้ได้ รู้ว่าแฟนคลับต้องการอะไร รู้ว่าคนอยู่ได้ด้วยกระแสหรือว่าอะไร ด้วยความที่อยู่ตรงนี้มานาน ทำให้สามารถควบคุมคนอื่นได้ 

ง่ายหรือยากสำหรับการสวมบทนี้

มีทั้งสองอย่างเลยครับ ความง่ายคือเรารู้เรื่องโปรดักชั่น เพราะตัวพีทำงานเหมือนเราคือเป็นนักแสดง แต่ที่ยากคือทัศนคติ ความคิดความอ่านที่ผมต้องมานั่งเวิร์กช็อปว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ซึ่งถ้าเป็นตัวเราจะคิดว่า เฮ้ย! ทำแบบนี้มันผิดว่ะ ไม่ควรทำ แต่พอเราพยายามเข้าใจเขา เราจะรู้ว่าเขาทำทุกอย่างมีเป้าหมาย เขาไม่ได้คิดร้ายกับใคร แต่บางอย่างเขาต้องแลกเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย คือ War of Y ทุกตัวละครจากทุกเรื่องจะไม่ใช่เป็นคนดีไปเลย แต่มีทั้งขาวและดำ ทุกตัวละครมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน และจะมีวิธีที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไป 

เล่าถึงความสัมพันธ์กับคู่จิ้นในเรื่องสักนิด

พีกับดิวเป็นคู่จิ้นกันมาก่อน เรียกว่าเป็นคู่จิ้นในตำนาน ถึงแม้จะแยกกันไปแล้วก็ยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันอยู่ เวลาพีทำอะไรลงไปจนเป็นกระแสหรืออะไรก็ตาม ดิวจะเป็นคนที่ดูปุ๊บรู้เลยว่าพีคิดอะไรอยู่ 

เป็นการร่วมงานครั้งแรกกับมิวซ์ใช่ไหม

ใช่ครับ ตอนแรกๆ เจอกันน้องเขาจะมีความตื่นเต้น เพราะว่าซีนแรกที่เข้าก็คนเยอะเลย และด้วยความที่น้องเล่นเป็นซูเปอร์สตาร์ ทุกคนในซีนต้องมองเขาแบบไอดอล ซึ่งแต่ละคนเป็นนักแสดงที่เล่นด้วยกันมาอยู่แล้ว แต่น้องเขาเป็นมือใหม่มาเลย ก็อาจจะทำให้กดดันตัวน้อง แต่พอมาคิวท้ายๆ ความกดดันตรงนั้นกับความตื่นเต้นหายไป มันจะเห็นการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่ามิวซ์มีความพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เขามีงานประจำด้วย และมาเล่นซีรีส์ด้วย จะเห็นเลยว่าเวลาเข้ากอง ไอแพดเขาจะแบบอ่านบทไปด้วยทำงานไปด้วย ขณะที่เพื่อนมานั่งเฮฮาปาร์ตี้ เขาจะหามุมนั่งทำงาน

เลชอบเรื่องไหนมากที่สุดจากทั้งหมด 4 เรื่อง

ชอบ ‘เมีย’ เรื่องสุดท้ายครับ

เพราะว่า

ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเพราะผมไปเล่นเรื่องนั้นเยอะสุดเลยมั้ง รู้สึกผูกพัน และน้องๆ นักแสดงก็รู้จักผม เราเคยเล่นกันมาอยู่แล้ว ประเด็นของเรื่องนี้มันเชื่อมกับเรื่องวายไอดอลด้วย แทบจะเป็นตัวละครเดียวกันทั้งสองเรื่องเลย ซึ่งผมว่าต้องเป็นเรื่องที่ดูต่อกัน สำหรับผมคิดว่าสเกลมันค่อนข้างใหญ่กว่าเรื่องอื่น เพราะนักแสดงเยอะสุดเลย 

เรื่องนี้ให้อะไรกับคนดู และให้ข้อคิดกับตัวเลอย่างไรบ้าง

คนดูนอกจากได้ความสนุกแล้ว โอย ได้หลายอย่างครับ คนดูจะได้เห็นพวกเราทุกคนเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ใหม่หมด อย่างเรื่องแรกพี่บิลลี่กับเซ้งเปลี่ยนแบบสุดตัวเลย จากใสๆ กลายมาเป็นร้าย เชือดเฉือนกัน ทกุคนจากเรื่องอื่นๆ ด้วย เลว่ามันเป็นโอกาสดีที่ทุกคนได้เปลี่ยนคาแร็กเตอร์ แฟนคลับของแต่ละคนน่าจะสนใจ คนดูจะได้รับรู้เรื่องราวที่เราต้องการจะตีแผ่เบื้องหลังวงการ เพราะหลายๆ เหตุการณ์ที่ตัวละครโดน พวกเราที่เป็นนักแสดงอยู่ตรงนี้โดนมาจริงเหมือนกัน แล้วก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถไปเล่าที่ไหนได้ หรือว่าจะมีใครมาเล่าอะไรพวกนี้ให้ฟังบ่อยๆ ผมว่าจะทำให้คนดูเข้าใจหลายอย่าง อย่างแรกที่ชัดสุดผมว่าคนดูจะเข้าใจนักแสดงมากขึ้น เข้าใจธุรกิจตรงนี้มากขึ้นว่า เออ เขาก็มีตัวตนของเขา เขาไม่จำเป็นต้องมีคาแร็กเตอร์ตลอดเวลา เขาก็มีสิ่งที่เขาเป็นธรรมชาติ แล้วเขาก็ไม่ใช่แค่เป็นสิ่งที่เราเห็นอย่างเดียว เขายังมีเบื้องหลังของเขาอีกว่าเขาต้องเจออะไรมาบ้าง เพราะฉะนั้นเวลาเราคอมเมนต์หรือให้ความเห็นอะไรลงไป ต้องระวังนิดนึงกับเรื่องพวกนี้ เพราะว่าเขาอาจจะบอบช้ำมามากกว่านั้นก็ได้ที่คนดูไม่รู้

มันก็มีหลายอย่างที่รีเลตกับเล เอาเรื่องดีๆ อย่างการที่เราเป็นนักแสดงซึ่งทำงานตรงนี้เหมือนกัน โดนอะไรมาเหมือนกัน มันจะกลายเป็นมิตรภาพ ซึ่งเรื่องนี้จะมีให้เห็นว่าการที่เราเจออะไรมาเหมือนกัน ทำงานอย่างเดียวกัน ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น เราเพิ่งรู้จักกันก็สนิทได้เป็นกลุ่ม บางทีก็ไม่ต้องมีผลประโยชน์ตลอดเวลา 

เลเคยบอกว่ารักการแสดงเพราะมันสนุก แต่เลก็ชอบร้องเพลงด้วย ตกลงชอบอะไรมากกว่ากัน

ตอนนี้ชอบการแสดง แต่มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แหละ วันนึงอาจจะชอบเพลงมากกว่า แต่ตอนนี้ยังมีแพสชั่นทางการแสดงมากกว่า เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้เล่น ภาพยนตร์ก็ไม่เคยเล่น บทบู๊ก็ไม่เคยเล่น หรือพวกไซไฟ มีอะไรอีกตั้งเยอะให้ลอง ผมอยากลองอะไรที่มันต่างจากที่เคยเล่นมา แต่ไม่ว่าจะยังไง บทแต่ละบทที่เรารับมา เราจะทำให้มันดีที่สุดทุกครั้ง แล้วถ้าคนดูเห็น ทีมงานเห็น เลว่าโอกาสจะเข้ามาเอง แต่ว่าควรจะรับผิดชอบตัวละครที่เราได้เป็นเขาแล้วทำให้ออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกหรือแค่รับเชิญ ทำให้มันดีที่สุด แล้วคนก็เห็นเองแหละ

เป้าหมายสูงสุดของการเป็นนักแสดง 

ผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างตอนแรกแค่อยากเล่นเอ็มวี ไปๆ มาๆ พอได้เล่นแล้วก็อยากเล่นซีรีส์ ตอนนี้ยังไม่เคยเล่นภาพยนตร์ก็อยากเล่น ถ้าสมมติได้เล่นแล้วสักวันอาจจะเปลี่ยนไป 

ฝากผลงานอื่นๆ ปิดท้ายหน่อย

นอกจากงานแสดงแล้วก็มีร้องเพลงตามงาน เร็วๆ นี้อาจจะมีผลงานด้านศิลปินออกมาให้ดูกัน แล้วก็เป็นสตรีมเมอร์ แต่บางช่วงอาจจะห่างหายเพราะงานยุ่ง ช่องยูทูบก็ร้างไปหลายเดือน นี่ก็เพิ่งกลับมาโพสต์คลิป เตรียมคลิปไว้เต็มเลย ฝากติดตามด้วยนะครับ ช่อง LAYLAYYO แล้วก็ฝากซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ออนยาวๆ ถึงธันวาครับ บอกเลยว่าความพีคจะมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่ 3 กับ 4 นี่สุดใจมาก

5 คำตอบในจินตนาการของเล

ถ้าได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ พลังวิเศษที่อยากมีคือ

เอาจริงๆ นะผมชอบแบทแมน แต่เขาไม่มีพลัง ผมอยากเป็นหลายอย่างมากเลย บินได้ ล่องหนได้ แข็งแรง มีตาเลเซอร์ ผมชอบอะไรที่เกี่ยวกับการข้ามเวลา คงเพราะดูหนังพวกนั้นเยอะ (แล้วจะไปช่วยชาวโลกไหม?) ไม่ช่วยใครเลยครับ ฮ่าๆๆ แค่วาร์ปไปดูความทรงจำเก่าๆ อย่างดูกลุ่มเพื่อนๆ มัธยมรวมตัวกันเตะบอล แบบเมโมรี่ที่ผ่านไปแล้ว แค่ไปอยู่ตรงนั้น ยืนดูตัวเองเล่นกับเพื่อน (ตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ?) แฟลชแบ็กบอยแล้วกัน

ถ้าได้เป็นผู้สร้างซีรีส์หรือหนังสักเรื่อง

ข้อนี้ตอบได้อย่างไวเลย แนวซอมบี้ครับ ผมชอบมากเลยนะ ผมเป็นแฟน The Walking Dead หนังแบบ Apolcalipse แบบโลกล่มสลาย ในโลกที่เหลือคนน้อยๆ แล้วต้องเอาตัวรอด ต้องหาอาหารอะไรทำนองนั้น (จะเล่นด้วยหรือเปล่า?) เล่นด้วยครับ แล้วก็อยากเอาเพื่อนๆ กับน้องชายผมมาเล่นด้วย แบบว่าคนโดนกัดเป็นครอบครัวเรา แล้วเขาจะกลายเป็นซอมบี้ เราจะปล่อยให้เขากลายเป็นซอมบี้เดินต่อ หรือเราจะฆ่าเพื่อให้เขาไปสบาย ซีนตัดสินใจอะไรแบบเนี้ย น่าเล่นครับ

ถ้าสลับร่างกับใครก็ได้

ยากละ…น้องชายแล้วกัน เพราะผมรู้สึกว่าชีวิตเขาต่างกับผมมาก น้องชายผมเป็นโปรแกรมเมอร์ ห้องนอนเขาก็เหมือนห้องทำงาน เขาไม่ต้องไปไหน แต่ต้องตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาประชุมเปิดกล้อง แล้วก็เขียนโค้ดทั้งวัน ผมเข้าไปคุยทีไรก็เห็นหน้าจอของเขา แต่ผมอ่านไม่ออก บางทีอยากรู้เหมือนกันว่าน้องชายผมคิดอะไรอยู่ ชีวิตเขาเป็นอย่างนี้ครับ เวลาว่างก็ไปดูคอนเสิร์ตบ้าง บางทีก็ไปคนเดียว เขาค่อนข้างติสท์ครับ

ถ้าร่วมโต๊ะกินข้าวกับใครก็ได้ 4 คน

แบล็กพิงก์ครับ ครบเลย (จะคุยกับใครเยอะสุด?) โรเซ่ครับ เขินเลยเนี่ย

ถ้าเงินไม่มีความหมายกับทุกคนในโลกนี้ เลจะทำอะไร

ใช้ชีวิตเหมือนเดิมตอนนี้เพราะมันแฮปปี้อยู่แล้ว ยังอยากตื่นมาออกกอง เจอเพื่อนๆ พี่น้อง เวลาว่างก็เล่นเกม ร้องเพลง ต่อโมเดล นั่งเพ้นต์สี ถ้าไม่ต้องกังวลเรื่องเงินก็อาจจะรับงานน้อยลง แต่ยังรับอยู่นะ แล้วเอาเวลาไปทำงานอดิเรกมากขึ้น

Special Thanks: Banyan Tree Bangkok Tel. 0-2679-1200

Photographer: Thanut Treamchanchuchai

Writer: Angkana Wongwisetpaiboon






Other Articles