Thursday, July 10, 2025

ทำไมเราถึงควรเป็นแบบ Eloise Bridgerton

Spoiler Alert บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน ใครยังไม่ได้ชม โปรดข้ามไปก่อนนะคะ 

ดาฟเน่ บริดเจอร์ตัน น่าจะเป็นผู้หญิงที่เกิดมาโชคดีที่สุดในซีรีส์ Bridgerton ด้วยความงามทั้งหน้าตาและกริริยา ชาติตระกูลดี มีความฉลาดเฉลียว  ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรน้ำหนึ่งของวงสังคมชั้นสูง แถมยังได้แต่งงานเพราะความรักและได้เลื่อนสถานะเป็นดัชเชส นี่เรียกว่าแฮปปี้เอ็นดิ้งไปแล้วตั้งแต่ซีซั่น 1 ถ้าใครจะฝันอยากเป็นเธอก็ไม่แปลก 

แต่ถ้าเทียบกับความเป็นจริงในชีวิต จะมีสักกี่คนที่ได้เป็นเธอ และสำหรับฉันแล้ว ถ้าจะต้องเลือกเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง ฉันอยากเลือกเป็นแบบ เอโลอิส บริดเจอร์ตัน เสียมากกว่า ส่วนหนึ่งเพราะชอบในความเป็นผู้หญิงไม่ธรรมดา โดยเฉพาะนิสัยขบถในตัวเธอ

“เธอคือตัวแทนของสิ่งที่จะมาในอนาคต จริงๆ แล้วในประวัติศาสตร์ มีผู้หญิงที่ดูร้ายกาจมากมายที่พยายามอย่างหนักที่จะทำให้สังคมนี้เป็นพื้นที่ที่เท่าเทียมสำหรับเราทุกคน” คลอเดีย เจสซี่ นักแสดงสาวชาวอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Vulture แม้ในชีวิตจริงเธอจะอายุ 32 แล้ว แต่ก็แสดงเป็นสาวแรกรุ่นได้อย่างสมบทบาทสุดๆ

อันที่จริง บทเอโลอิส บริดเจอร์ตัน ทำให้ฉันนึกถึงตัวละครหญิงเก่งๆ ในหนังพีเรียดหลายเรื่อง  เป็นต้นว่า เอลิซาเบธ เบนเน็ต ใน Pride & Prejudice, ตัวละครเจน แอร์ ในนิยายของชาร์ล็อต บรอนเต รวมทั้งโจ มาร์ช หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนใน Little Women

ความคิดของเอโลอิสผิดแผกไปจากผู้หญิงในสังคมชั้นสูงทั่วไป ทั้งกริยาท่าทาง การไม่ได้มองคนที่ชนชั้นหรือเลือกคบเพื่อนเพราะผลประโยชน์ ความคิดอ่านฉลาดเฉลียวซึ่งเกิดจากการเป็นคนชอบศึกษาหาความรู้ รวมทั้งการพูดในสิ่งที่เธอคิดออกมาตรงๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เธอรู้สึกต่อความเป็นไปในสังคม อย่างเช่นตอนที่เธอได้เจอพี่สาวคนโตของตระกูลชาร์มาซึ่งพี่ชายของเธอกำลังตามจีบอยู่

เคท ชาร์มา: “โลกนี้ไม่ได้ต้อนรับหญิงโสดไร้คู่ครอง ดูเหมือนสังคมจะไม่มีที่ทางให้พวกเราอยู่”

เอโลอิส บริดเจอร์ตัน: “นั่นเป็นข้อเสียของสังคมมากกว่านะ ไม่ใช่ของผู้หญิง”

อีกเรื่องหนึ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับเธอก็คือการแต่งกาย หากเครื่องแต่งกายคือภาพสะท้อนตัวตนของเรา การแต่งกายของเอโลอิสก็เป็นเช่นนั้น  ถ้าไม่ต้องออกงานสังคมที่ต้องแต่งกายให้สมสถานะและความเป็นหญิง เธอมักจะใส่ชุดที่ค่อนข้างปกปิดและค่อนข้างมินิมัล แม้จะไม่ถึงกับแหวกขนบด้วยเฉดสี แต่เธอก็สวมเสื้อกั๊กหรือแจ๊กเก็ตทับชุดกระโปรงหวานๆ นั่นอีกทีหนึ่ง ซึ่งต่างจากตัวละครหญิงอื่นๆ ซึ่งมักมาในชุดเอ็มไพร์ เผยช่วงอกและแขนเรียวเล็ก

 

แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่มีข้อเสียหรอกนะ  มีนิสัยหลายอย่างที่ออกจะน่ารำคาญเสียด้วยซ้ำ ทั้งการพูดจาที่บางทีก็เกินงาม ความตื่นตระหนกเมื่อต้องทำสิ่งที่ฝืนใจ หรือการหมกมุ่นกับอะไรมากเกินไป อย่างเช่น เรื่องของการพยายามเปิดโปงเลดี้ วิสเซิลดาวน์ นักเขียนคอลัมน์ซุบซิบที่มักนำเรื่องฉาวของชนชั้นสูงมาตีพิมพ์  อย่างไรก็ดี ต่อให้เธอจะหัวขบถอย่างไร แต่การที่เธอเป็นชนชั้นสูงที่ทำให้ไม่มีอิสระอย่างใจคิดสักเท่าไหร่ 

ในยุคสมัยที่การแต่งงานออกเรือนเป็นดังเป้าหมายสูงสุดของชนชั้นสูงในการธำรงวงตระกูล เอโลอิส น้องสาวคนรองของตระกูลบริดเจอร์ตันกลับอยากอยู่บ้านอ่านหนังสือหรืออยู่กับเพื่อนคนโปรดแทนที่จะเต้นกับสุภาพบุรุษอยู่บนฟลอร์เต้นรำ แถมเธอยังไม่นึกอยากเป็น เพชรนำ้หนึ่ง เหมือนพี่สาว และยังไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของใครด้วย

แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่ต้องการความรัก สำหรับเธอแล้ว หมันไม่ใช่เป้าหมายหลักและเป็นความฝันเดียวที่ผู้หญิงทุกคนจะพึงมี หากจะรักใครสักคน ก็ควรจะเป็นคนที่เท่าทันกันทางความคิดและสติปัญญามากกว่า (ในจุดนี้ฉันว่าเธอเป็นคนช่างฝันอยู่สักหน่อย) อย่างการที่เธอได้มาเจอกับ ธีโอ ชาร์ป  เด็กฝึกงานในโรงพิมพ์แสนธรรมดาต่างชนชั้น ซึ่งเป็นคนคอยแนะนำหนังสือใหม่ๆ  รวมทั้งปรัชญาความคิดต่างๆ ให้เธอ จนนำไปสู่ความรู้สึกดีๆ

“หยุดเป็นตัวเธอเองบ้างเถอะ”  พี่ชายพูดกับเธอเมื่อรับมือกับน้องสาวตัวยุ่งคนนี้ไม่ไหว

แต่สำหรับฉัน แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นเพชรน้ำหนึ่งที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากครอบครอง หรือเป็นหญิงสาวที่น่าจับตามองในสังคม แต่เธอก็เป็นมรกตที่งดงามในแบบของเธอ

นี่ล่ะสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเอโลอิส…  เปล่งประกายในแบบของตัวเองดีกว่านะ 






Other Articles