Chanel N°5 ‘น้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่มีกลิ่นหอมของผู้หญิง’ เปิดตัวในวันที่ 5 เดือน 5 ปี 1921 ซึ่งเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งสู่นวัตกรรมและแนวคิดอวองต์การ์ด น้ำหอมนี้นำเสนอความเรียบง่ายและไม่เหมือนใครของกลิ่นที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วทรงเหลี่ยม ซึ่งมีฝาปิดรูปลักษณ์คล้ายกับรูปทรงของจัตุรัสปลาซวองโดม และจากนั้นไม่นานน้ำหอมที่มีชื่อแสนเรียบง่ายนี้ก็กลายเป็นที่นิยมทั่วโลกและคงความร่วมสมัยมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับในปีสุดพิเศษนี้ ชาเนลได้เฉลิมฉลองให้กับน้ำหอมอันเป็นไอคอนของโลกด้วยการสร้างสรรค์คอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ Collection N°5 ที่นำเสนอจิตวิญญาณของ Chanel N°5 ทั้งรูปทรงของขวดอันเป็นเอกลักษณ์ เลข 5 ซึ่งเป็นเลขนำโชคของกาเบรียล ชาเนล ดอกไม้ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญ และจิตวิญญาณที่เปี่ยมด้วยพลัง เปล่งประกาย และโชติช่วงของน้ำหอม
และในบรรดาผลงานทั้งหมด ชิ้นไฮไลต์ก็คือสร้อยคอที่มีชื่อว่า 55.55 โดยนักแสดงหญิง มาริยง โกติยาร์ (Marion Cotillard) สวมใส่ดังในภาพ ดีไซน์ขวดน้ำหอมของสร้อยประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงแปดเหลี่ยมในระดับ D Flawless ขนาด 55.55 กะรัต ซึ่งมาจากการเสาะแสวงหาเพชรดิบเพื่อนำมาเจียระไนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และเหนืออื่นใด สร้อยคอไฮจิวเวลรี่เส้นนี้จะถูกเก็บไว้เป็นมรดกของชาเนล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของ Chanel N°5 สืบไป
แน่นอนว่าเรื่องราวเบื้องหลังของคอลเลกชั่นนี้ ผู้ที่จะอธิบายได้ดีที่สุดก็คือ โธมัส ดู เพร เดอ แซงต์ มอร์ (Thomas du Pré de aint Maur) หัวหน้าการออกแบบงานสร้างสรรค์สากลฝ่ายน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ความงาม นาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงของชาเนล
-คุณมองว่าอะไรคือความเชื่อมโยงระหว่างน้ำหอม Chanel N°5 กับเครื่องประดับอัญมณีของกาเบรียล ชาเนล
“สองสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกันค่อนข้างชัดเจนในด้านสุนทรียศาสตร์ เพราะทั้งน้ำหอมและการสร้างสรรค์เครื่องประดับเพชรของกาเบรียล ชาเนล ต่างก็มีความละเอียดอ่อนในแง่ของความประณีตเหมือนกัน ซึ่งต้องอาศัยความแม่นยำในระดับที่สูงมาก น้ำหอม Chanel N°5 สัมผัสผิวกายโดยตรงเช่นเดียวกับเครื่องประดับ ทั้งสองสิ่งนี้ปลุกเร้าความรู้สึกที่อยู่ในใจ และมอบประสบการณ์อันใกล้ชิด จากที่มาริลีน มอนโรกล่าวไว้ว่า ‘ฉันสวมใส่เพียง Chanel N°5 เมื่อเข้านอน’ ก็สามารถแทนที่ด้วยประโยคที่ว่าฉันสวมใส่เพชรเพียงอย่างเดียวยามเข้านอน… นอกจากนี้ผมอยากบอกว่า น้ำหอม Chanel N°5 นั้นมีเหลี่ยมมุมและเปล่งประกายราวกับเพชร กลิ่นหอมอันเย้ายวนยังแฝงไปด้วยคุณค่าและความเปล่งประกายหรูหรา เช่นเดียวกับเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง”
–คุณสามารถแสดงแก่นแท้ของน้ำหอมซึ่งเป็นสิ่งที่คงอยู่เพียงชั่วคราว ผ่านทางโลหะและอัญมณีล้ำค่าที่คงความเป็นอมตะโดยธรรมชาติได้อย่างไร
“น้ำหอมก็เป็นอมตะเช่นกัน ตั้งแต่แรกเริ่ม น้ำหอมถูกนำมาใช้เพื่อรักษาสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตเอาไว้ นี่คือสิ่งที่สื่อถึงความเป็นนิรันดร์และพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับอัญมณีบนเครื่องประดับที่ใช้เป็นเครื่องสักการะแด่เทพเจ้า และในทางกลับกัน ไม่มีอะไรที่สามารถหายวับไปกับตาได้เร็วกว่าประกายของเพชรที่ถูกเจียระไน หรือแสงระยิบระยับบนผิวกายที่คงอยู่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม”
-คุณบอกว่า ‘น้ำหอม Chanel N°5 เป็นเครื่องวัดมาตรฐานของทุกสิ่ง’ ถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นมิวส์ของเครื่องประดับชั้นสูงนี้เลยทีเดียว…
“น้ำหอม Chanel N°5 แสดงถึงพลังอันแท้จริงของกลิ่นหอมที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกสิ่ง แม้แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ปาทริซ เลอเกโรไม่ได้แค่สร้างรูปทรงของขวดน้ำหอมขึ้นมาใหม่เท่านั้น แต่เขายังพยายามถอยห่างออกจากน้ำหอมเล็กน้อยและให้อิสระกับตัวเองในการเชื่อมโยงเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของน้ำหอมให้ได้ Chanel N°5 จึงเป็นทั้งแนวคิดและแรงบันดาลใจ เป็นสิ่งที่ทำให้จินตนาการโลดแล่นราวติดปีกบิน”
-อะไรทำให้สิ่งหนึ่งเป็นไอคอนได้
“มันเกิดขึ้นได้ด้วยเงื่อนไขของเวลา ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คงไม่มีใครคาดคิดว่าขวดจากห้องทดลองจะกลายมาเป็นสินค้าสุดหรู และเป็นไอคอนของน้ำหอมทั่วโลกในปัจจุบันได้ บางอย่างก็ต้องอาศัยโชคเช่นกัน อย่างเช่นการที่มีภาพมาริลีน มอนโรในห้องนอนกับน้ำหอม กับการที่แอนดี วอร์ฮอลวาดภาพน้ำหอมในงานศิลปะของเขา แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งนั้นต้องคงอยู่เพื่อเป็นแบบอย่างให้สังคม โดยสื่อความหมายถึงช่วงเวลาที่ดำรงอยู่ และยืนหยัดในฐานะตัวแทนแห่งยุคสมัยโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลบเลือนไป”
-ชาเนลได้นำสิ่งใดมาสู่เครื่องประดับอัญมณีบ้าง
“แนวคิดของคอลเลกชั่นนั้นจริงๆ แล้วไม่มีอยู่ในโลกของเครื่องประดับด้วยซ้ำ ในปี 1932 กาเบรียล ชาเนลเป็นคนแรกที่นำเสนอคอลเลกชั่นเครื่องประดับผ่านแนวคิดที่กำหนดไว้ชัดเจน นั่นคือ Bijoux de daimants (เครื่องประดับเพชร) จากเดิมเครื่องประดับจะได้รับการสร้างสรรค์เฉพาะเมื่อมีผู้ว่าจ้าง ชาเนลได้นำพาเครื่องประดับก้าวไปสู่ดินแดนใหม่ที่ประกอบด้วยแนวคิดเรื่องคอลเลกชั่น เป้าหมาย กลยุทธ์ระดับโลก และความมุ่งมั่นที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ ทั้งการใช้เส้นโค้งที่ทิ้งน้ำหนักของสร้อยคอ สัมผัสแห่งความรู้สึกที่ได้จากเครื่องประดับ และการทำให้ผู้หญิงที่สวมใส่รู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิเศษ ทั้งหมดนี้คือความแปลกใหม่อย่างแท้จริงในเวลานั้น ชุดเดรสสักชุดอาจตัดเย็บจากผ้าเนื้อดีที่สุดในโลก แต่ถ้าทรงไม่สวยหรือไม่ทำให้ผู้ใส่รู้สึกดี นั่นก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ลักชัวรี่ เครื่องประดับก็เช่นกัน ผมคิดว่าชาเนลได้นำความสง่างามมาสู่คอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ด้วย ชื่อนี้สื่อถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมไร้ที่ติ และแท้จริงแล้ว สไตล์คือสิ่งที่โดดเด่นกว่าตัวเครื่องประดับ แต่ตราบใดที่เรายังคงยึดมั่นในสไตล์ของชาเนล ทุกสิ่งก็เป็นไปได้”
-คุณให้คำจำกัดความของคำว่า ‘สไตล์’ อย่างไร
“เครื่องประดับชิ้นนี้มีความเบาในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เปราะบาง แต่ละชิ้นส่วนของเครื่องประดับไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวอะไรมากมายนักและไม่ได้สื่อถึงบทกวีหรือความฝัน ทุกชิ้นจะต้องประกอบเข้าด้วยกัน นอกจากนี้เรายังเห็นถึงการรังสรรค์งานศิลป์ที่เฉียบขาดทั้งในเรื่องของเส้นสาย การใช้สี และการเลือกใช้สไตล์โมโนโครม กล่าวได้ว่าเครื่องประดับของชาเนลนั้นสวยงามในทุกแง่มุมจริงๆ”
-ทำไมคุณถึงเลือกนักแสดงหญิง มาริยง โกติยาร์ มาเป็นผู้สวมใส่สร้อยคอ 55.55
“เราอยากร่วมงานกับเธอมานานแล้ว เธอสะท้อนความเป็นฝรั่งเศสผ่านบทบาทนักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างกฎเกณฑ์และเสรีภาพที่ต้องดิ้นรนต่อสู่เพื่อให้ได้มา สร้อยคอเส้นนี้สะท้อนถึงจิตวิญญาณของน้ำหอม Chanel N°5 ได้อย่างดีที่สุด ดังนั้น มาริยง โกติยาร์ เฟซของน้ำหอม Chanel N°5 จะต้องเป็นผู้สวมใส่ผลงานชิ้นนี้”