จะมีอะไรเหมาะฤดูกาลนี้เท่ากับเฉดสีขาว Longines แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากสวิสจึงได้นำเสนอเรือนเวลาคลาสสิก 4 รุ่น ที่ตีความใหม่ด้วยเฉดสีขาวสะอาดตาที่ดูนำสมัยและไร้กาลเวลา เหมาะกับสาวๆ ที่มีบุคลิกโดดเด่น สง่างาม
La Grande Classique
คอลเลกชั่น La Grande Classique de Longines มีบทบาทสำคัญที่ช่วยสั่งสมชื่อเสียงให้กับแบรนด์รูปนาฬิกาทรายติดปีกแบรนด์นี้เสมอมา และยังเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างามเหนือกาลเวลา หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 ก็กลายเป็นผลงานที่โดนใจคนที่ชอบนาฬิกาเดรสวอทช์ด้วยตัวเรือนกลมบางเฉียบ มาพร้อมโครงสร้างพิเศษของตัวเรือน โดยฝาหลังทำหน้าที่เป็นข้อต่อกับสายรัดข้อมือ ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการพัฒนาขึ้นโดยลองจินส์และยังได้รับการจดสิทธิบัตรอีกด้วย ภายในตัวเรือนสตีลสีเทาขนาด 29 มม. ของโมเดล L4.512.4.87.0 ทำงานด้วยกลไกควอทซ์ หน้าปัดสีขาวมุกมาเธอร์ออฟเพิร์ล ตกแต่งอินเด็กซ์เพชร 12 เม็ด เสริมความงดงามด้วยสายรัดข้อมือหนังสีขาวที่กลมกลืนไปกับหน้าปัดนาฬิกา
DolceVita
ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยม เส้นสายเรขาคณิตของนาฬิกา DolceVita ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 แฝงกลิ่นอานของสไตล์อาร์ตเดโคในยุค 1920s ผสมผสานทรวดทรงเรขาคณิตเข้ากับเส้นสายที่อ่อนช้อย และแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตหอมหวานแบบชาวอิตาเลียน หรือที่เรียกว่า “Dolce Vita” สำหรับผลงานใหม่ล่าสุด โมเดล L.5.512.4.71.2 ตัวเรือนทำจากตัวเรือนสตีลขนาด 23.00 x 37.00 มม. หน้าปัดสีเงินแฟลงเก้ ตกแต่งเลขโรมันสี ทำงานด้วยกลไกควอทซ์ เข็มบอกชั่วโมงและนาทีทำจากสตีลชุบสีน้ำเงิน มาพร้อมสายรัดข้อมือหนังอัลลิเกเตอร์สีขาวที่มีอุปกรณ์การเปลี่ยนสายในตัว
Prima Luna
ตัวแทนอันสมบูรณ์แบบของความสง่างามของผู้หญิงที่ได้แรงบันดาลใจจากความงามวิจิตรและน่าพิศวงของท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัด ตัวเรือน และข้อต่อที่เชื่อมตัวเรือนกับสายรัดข้อมือ ต่างสะท้อนให้เห็นถึงความโค้งมนอันงดงามของดวงจันทร์ ผลงานรุ่นใหม่ล่าสุด โมเดล L8.115.4.87.6 มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลส สตีลขนาด 30.50 มม. ภายในบรรจุกลไกควอทซ์ มาพร้อมหน้าปัดมุกสีขาวมาเธอร์ออฟเพิร์ลตกแต่งอินเด็กซ์เพชร 12 เม็ดโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นแสดงข้างขึ้นข้างแรม (Moon phase) และสายรัดข้อมือสตีลที่รังสรรค์ขึ้นมาอย่างไร้ที่ติ
The Longines Legend Diver
ลองจินส์มีโปรเจ็กต์ “Immersion in Heritage” หรือก็คือการนำเอาผลงานในอดีตกลับมารังสรค์ใหม่ หนึ่งในนั้นก็คือ The Longines Legend Diver Watch ซึ่งเปิดตัวในปีค.ศ. 2007 สืบทอดความผูกพันที่ลองจินส์มีต่อกีฬาดำน้ำ นับตั้งแต่การพัฒนาตัวเรือนกันน้ำในปี 1937 จนนำไปสู่การสร้างสรรค์นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของแบรนด์ในปี 1958 สำหรับผลงานที่ได้รับการตีความใหม่ล่าสุด ตัวเรือนขนาด 36 มม. บรรจุกลไกไขลานอัตโนมัติ มีหน้าปัดสีขาวมุก เข็มนาฬิกาสีเงินขัดเงา ตกแต่งเลขอารบิก และเสริมด้วยเครื่องหมายสามเหลี่ยมเคลือบสาร Super-LumiNova® เพื่อช่วยการมองเห็นใต้น้ำได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติเด่นของนาฬิกาดำน้ำ และเพื่อรักษาเอกลักษณ์ของโมเดลต้นแบบไว้ ฝาหลังตัวเรือนจึงสลักสัญลักษณ์รูปนักดำน้ำ มาพร้อมสายรัดข้อมือหนังสีขาวบริสุทธิ์ เพื่อให้เข้ากับหน้าปัดที่มีความเรียบหรูอันเป็นเอกลักษณ์
