หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่สงบนิ่งมาพักใหญ่ เราคงอยากได้อะไรมาช่วยปลุกชีวิตให้มีสีสัน ดังเช่นดนตรี “ผมเลือก traversal theme มาเป็นกรอบในการสร้างสรรค์นาฬิกาทุกคอลเลกชั่นในปีนี้ และผมอยากสร้างสรรค์แคปซูลคอลเลกชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมอิเล็กโทรมิวสิก” อาร์โนด์ ชาสแตงต์ (Arnaud Chastaingt) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ประจำแผนกนาฬิกาของ Chanel เล่าถึงแรงบันดาลใจของนาฬิกาใหม่ที่นำเสนอในปี 2021
การแสดงอิเล็กโทรมิวสิกกลายเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หลอมรวมทุกอย่าง ทั้งประสาทสัมผัสและการมองเห็น ไม่ใช่แค่เสียงที่ได้ยินเท่านั้น ในช่วงยุค 1990s อิเล็กโทรมิวสิกเป็นที่สนใจอย่างมาก กล่าวได้ว่าเป็นภาพสะท้อนของไนต์ไลฟ์ในยุคนั้น และที่สำคัญยังส่งอิทธิพลไปไกลกว่าโลกดนตรีด้วย “อิเล็กโทรมิวสิกก้าวข้ามพรมแดนดนตรีและสร้างวัฒนธรรมทางสุนทรียะใหม่ เป็นวิชวลที่แปลกต่างไปจากเดิม” ชาสแตงต์กล่าว
“ผมสร้างสรรค์คอลเลกชั่นนี้ขึ้นมาเหมือนกับเป็นโปรแกรมเชิญชวนให้ผลงานคลาสสิกของเราออกมาแสดง และหยิบยืมเอาเอกลักษณ์ของยุคอิเล็กโทรมิวสิกมาใช้” คอลเลกชั่นในธีม Electro นี้จึงเป็นการมาบรรจบกันของสีดำและสีสันสดสว่างดุจนีออน ซึ่งสีสันช่วยให้สีดำโดดเด่น ส่วนสีดำก็ช่วยให้สีสันยิ่งแจ่มชัด เป็นการคอนทราสต์ที่จัดจ้านและกราฟิก
สำหรับผลงานในธีม Electro นั้นมีทั้งคอลเลกชั่น Première นาฬิกาคอลเลกชั่นแรกจากชาเนลซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1987 และมีเอกลักษณ์อยู่ที่ตัวเรือนทรงเหลี่ยมแบบจตุรัสปลาซวองโดม ปีนี้ได้รับการแปลงโฉมใหม่ด้วยสายโซ่ร้อยหนังสีนีออน รวมทั้งหมด 7 สี ตัวเรือนยังคงเฉดสีดำ แต่สีโลโก้โดดเด่นสดใสแนวนีออน รับกับสายโซ่สีดำที่สอดแทรกด้วยหนังเฉดสีนีออนเข้ากัน บรรจุอยู่ใน Première Electro Box
ในส่วนของ J12 Electro ซึ่งตัวเลขกลายมาเป็นเฉดสีนีออนหลากสีตัดกับหน้าปัดสีดำ และยังมีบ็อกเซ็ตซึ่งประกอบด้วยนาฬิกา J12 Electro จำนวน 12 เรือน โดยแต่ละเรือนประดับแซฟไฟร์ทรงบาแก็ตต์บนขอบตัวเรือน 12 เฉดสีต่างกัน นอกจากนี้ยังมี J12 Electro Dream ซึ่งประดับแซฟไฟร์ทรงบาแก็ตต์แบบไล่เฉดบนขอบตัวเรือนและอินเด็กซ์ และรุ่นประดับเพชรทรงบาแก็ตต์ทั้งเรือน โดยขอบข้างตัวเรือนและสาย รวมทั้งบนโรเตอร์ของกลไก Calibre 12.1 ประดับแซฟไฟร์ไล่เฉด 12 สี และไฮไลต์อย่าง J12 X-Ray ซึ่งผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์ทั้งตัวเรือนและสายก็ถูกนำมาตีความใหม่ โดยขอบตัวเรือนและอินเด็กซ์ประดับแซฟไฟร์ไล่เฉด
และสำหรับ Code Coco นาฬิกาทรงกำไลก็ดูร้อนแรงขึ้นด้วยสายหนังปั๊มลายตารางสีชมพูนีออนขลิบขอบด้วยเฉดสีดำ ส่วน Boy.Friend ก็ถูกดีไซน์ใหม่ด้วยสายรัดข้อมือหนังควิลต์สีดำ แต่แอบซ่อนเฉดสีชมพูนีออนไว้ด้านใน ทั้งยังตกแต่งหน้าปัดเป็นรูปหุ่นยนต์แบบพิกเซลเพื่อความเท่ไม่เหมือนใคร
