Sunday, March 26, 2023

มาอัพเดทนาฬิกาสำหรับสาวๆ กันหน่อยดีกว่า

ภาพจากบน: นาฬิการุ่น Diva’s Dream Peacock Dischi หน้าปัดตกแต่งด้วยขนนกยูง แสดงเวลาด้วยระบบดิสก์ โดยใช้เพชรเจียระไนทรงกลมและรูปไข่แทนเข็มเวลา จาก BVLGARI, นาฬิการุ่น Métiers d’Art Straw and Gold Marquetry Panther ตกแต่งลายเสือด้วยเทคนิคมาร์เก็ตทรี จาก CARTIER, นาฬิกา RM 71-02 Automatic Tourbillon Talisman แรงบันดาลใจจากสีสันของยุคดิสโก้ กลไกอัตโนมัติทูร์บิญง จาก RICHARD MILLE, นาฬิการุ่น Imperiale ตัวเรือนพิงก์โกลด์ประดับเพชร หน้าปัดมาเธอร์ออฟเพิร์ลสีชมพูจาก CHOPARD, นาฬิการุ่น Grand Bal Jardin Fleuri โรเตอร์ของกลไก Dior Inversé 11 1⁄2 ประดับด้วยทอง เพชร พิงก์แซฟไฟร์ ทับทิม และมาเธอร์ออฟเพิร์ล จาก DIOR HORLOGERIE

——————–

บทความ Timing Is Everything ในหนังสือ Stoned โดย Aja Raden กล่าวว่าเรือนเวลาเป็นจิวเวลรี่ที่มีความขัดแย้งในตัวมากที่สุด นาฬิกาเป็นวัตถุที่ผลิตขึ้นแบบอุตสาหกรรมแต่ถูกประเมินค่าด้วยการบ่งบอกความร่ำรวยและสถานะ นาฬิกาตกแต่งอย่างงดงามแต่ก็เป็นจิวเวลรี่ที่มีฟังก์ชั่น แม้ว่าส่วนใหญ่จะผลิตจากโลหะมีค่าและอัญมณี แต่คุณค่าจริงๆ อยู่ที่กลไกที่สร้างขึ้นอย่างประณีต

ถึงแม้นาฬิกาจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษ แต่การนำนาฬิกามาใส่สายเพื่อประดับบนข้อมือนั้นถือเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อน และที่ไม่น่าเชื่อก็คือความคิดที่จะสวมนาฬิกาบนข้อมือเช่นนี้มาจากหญิงสูงศักดิ์ ทั้งคาโลรีน มูราต์ พระราชินีแห่งเนเปิลส์ พระขนิษฐาของนโปเลียนซึ่งเป็นผู้มอบหมายให้เบรเกต์ผลิตนาฬิกาข้อมือตัวเรือนรูปไข่ในปี 1812 รวมถึงเคาน์เตส คอสโควิคซ์ แห่งฮังการี ซึ่งสั่งผลิตนาฬิกาตัวเรือนสี่เหลี่ยมทองสลักเสลาจากปาเต็ก ฟิลิปป์ในปี 1868

จนกระทั่งโลกของเราเข้าสู่ยุคมหาสงคราม จึงเริ่มมีผู้มองเห็นบทบาทของนาฬิกาข้อมือว่าไม่ใช่เครื่องประดับของผู้หญิงอีกต่อไป ในปฏิบัติการทางทหารซึ่งต้องการความสะดวกและแม่นยำ นาฬิกาพกซึ่งต้องใช้มือหยิบจับขึ้นมาดูเวลาจึงไม่อาจตอบสนองการทำงานได้ และทำให้เหล่าทหารเปลี่ยนไปสวมนาฬิกาไว้บนข้อมือแทน และเปลี่ยนนิสัยความเคยชินของสังคมนับแต่นั้น นาฬิกาข้อมือซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้นกว่าสมัยก่อนจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย

เคยมีนักข่าวรุ่นพี่คนหนึ่งบอกฉันว่าถ้าอยากเข้าใจนวัตกรรมของโลกนาฬิกา ต้องศึกษาเรื่องราวนาฬิกาผู้ชาย นั่นเพราะนวัตกรรมใหม่ๆ มักพัฒนามาเพื่อใส่ไว้ในนาฬิกาผู้ชายซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีกลไก ไม่ว่าจะนาฬิกาที่จับเวลาได้ละเอียดและแม่นยำ นาฬิกาที่กันน้ำได้ลึกเป็นพันเมตร ไปจนถึงนวัตกรรมที่ช่วยกันสนามแม่เหล็ก วัสดุสังเคราะห์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้ในโลกนาฬิกามาก่อน ในขณะที่นาฬิกาสำหรับผู้หญิงมักเน้นไปที่รูปลักษณ์ สไตล์ และดีไซน์เสียมากกว่า

จากซ้าย (วนตามเข็มนาฬิกา): นาฬิการุ่น Reverso Tribute Duoface Fagliano กลไกไขลานแสดงชั่วโมง นาที วินาที ไทม์โซนที่สอง และกลางวัน-กลางคืนจาก JAEGER-LECOULTRE, นาฬิการุ่น Egérie ตัวเรือนโรสโกลด์ประดับเพชร กลไกอัตโนมัติแสดงวันที่ จาก VACHERON CONSTANTIN, นาฬิการุ่น Nantucket ตัวเรือนและสายโซ่โรสโกลด์จาก HERMES, นาฬิการุ่น Reine de Naples Coeur เข็มนาทีรูปหัวใจยืดขยายได้ตามจังหวะการหมุนซึ่งทำให้นึกถึงการเต้นของหัวใจ จาก BREGUET, นาฬิการุ่น La Grande Classique หน้าปัดมาเธอร์ออฟเพิร์ลประดับเพชรจาก LONGINES

“Unlike diamonds, watches were practical. They were for people on the run, people with appointments to keep and schedules to meet.” 

– Jeannette Walls, The Glass Castle –

——————–

ขณะที่ความสวยงามยังคงเป็นหัวใจสำคัญไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน หนึ่งในเทรนด์ที่ปรากฏในแวดวงนาฬิกาสำหรับผู้หญิงก็คือคอมพลิเคชั่น หรือจักรกลสลับซับซ้อนที่ทำให้นาฬิกาแสดงเวลาได้มากกว่าชั่วโมง นาที และวินาที ในแบบที่เราคุ้นเคย และมักเป็นองค์ประกอบที่แยกการสร้างสรรค์เรือนเวลาชั้นสูงออกจากเรือนเวลาทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นจักรกลทูร์บิญงสำหรับชดเชยค่าเวลาคลาดเคลื่อนจากแรงโน้มถ่วง มูนเฟสสำหรับแสดงรูปทรงของดวงจันทร์ในช่วงเวลาข้างขึ้น-ข้างแรม การแสดงเวลาได้หลายไทม์โซน ระบบปฏิทินที่แสดงวัน วันที่ และเดือนได้อย่างแม่นยำ โครโนกราฟสำหรับจับเวลา หรือคอมพลิเคชั่นสำหรับตีบอกเวลาซึ่งท้าทายต่อการผลิตด้วยเช่นกัน… 

วิเคราะห์กันว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะบทบาทของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อน ผู้หญิงยุคใหม่ต้องแอ็กทีฟไม่แพ้ผู้ชาย ทั้งยังมีบทบาทนอกบ้านไม่เพียงแต่ในบ้าน ทำให้ความสนใจและสไตล์ของพวกเธอเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ลองดูผลงานของแบรนด์เบรเกต์ หรือปาเต็ก ฟิลิปป์เป็นตัวอย่างก็ได้ ทั้งสองแบรนด์ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานให้ความสำคัญกับลูกค้าผู้หญิงมาโดยตลอด หรือผลงานจากแบรนด์ที่เน้นสไตล์ลักชัวรี่สปอร์ตหรูอย่าง อูโบลต์ ริชาร์ด มิลล์ โอเดอมาร์ส ปิเกต์ หรือเรือนเวลาที่ผสมผสานคอมพลิเคชั่นเข้ากับงานจิวเวลรี่ได้อย่างสวยงามจากแบรนด์คาร์เทียร์ บุลการี และแวน คลีฟ แอนด์ อาร์เพลส์ 

แม้ว่าผลงานเหล่านี้เป็นสเตทเมนต์ เป็นศิลปะบนข้อมือ แต่ก็สร้างแรงดลใจและยกระดับมาตรฐานการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อสวมใส่ในชีวิตประวันสำหรับผู้หญิง สร้างสรรค์ด้วยมาตรฐานชั้นสูง ทั้งดีไซน์ กลไกและฟังก์ชั่นที่สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะดูเฟมินีน เหมาะสำหรับออกงาน หรือดูหรูสง่าเหมาะสำหรับวันทำงานก็มีให้เลือกตามแต่สไตล์ของแต่ละคน 

ถ้าดูจากเทรนด์ที่เส้นแบ่งระหว่างเพศกำลังมหลายหายไป อาจจะมีนาฬิกาหลายๆ รุ่นที่สไตล์และขนาดตัวเรือนทำให้ผลงานนั้นๆ สามารถก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเพศต่างๆ จนกลายเป็นผลงานที่ผู้ชายก็ชอบผู้หญิงก็รักได้ แต่ก็นั่นแหละ แพนต์สูทก็ไม่ได้เหมือนสูทผู้ชายเสียทีเดียว 

บางทีเราอาจจะก้าวไปสู่ยุคที่มันก็ไม่สำคัญมากเท่าไรว่านาฬิกานั้นจะออกแบบมาเพื่อผู้หญิงหรือไม่ และแบรนด์ก็ออกนาฬิกาผู้ชายที่ผู้หญิงสามารถสวมใส่ด้วยได้ เพราะแท้ที่จริงแล้วนาฬิกาสำหรับผู้หญิงก็คือนาฬิกาที่ผู้หญิงเลือกสวมใส่เอง (จะซื้อเองหรือไม่ซื้อเองก็แล้วแต่นะ) 

Other Articles