ความมุ่งมั่นเพื่อสร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืนROLEX และการสํารวจ
สําหรับผู้ก่อตั้ง Rolex อย่างHans Wilsdorf โลกนี้เปรียบได้ดั่งห้องทดลองที่มีชีวิต เขาเริ่มทดสอบนาฬิกาของเขาในห้องทดลองนี้มาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1930โดยการส่งนาฬิกาไปยังสถานที่สุดหฤโหดเพื่อสนับสนุนเหล่านักสํารวจที่เดินทางไปสู่ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ในปัจจุบันโลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคศตวรรษที่ 21การสํารวจเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ๆ ได้กรุยทางไปสู่การสํารวจเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติของโลก ซึ่ง Rolex ยังคงสืบสานเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งโดยสนับสนุนเหล่านักสํารวจในปัจจุบัน เพื่อการปฏิบัติภารกิจใหม่ของพวกเขา นั่นคือ การสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกของเราสืบไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ในปี 2019 Rolex ได้เปิดตัวแคมเปญ Perpetual Planet และในปัจจุบันได้ต่อยอดความร่วมมือกับ National Geographic Society เพื่อศึกษาถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโครงการ Mission Blue ของ Sylvia Earle ด้วยความตั้งใจที่จะปกป้องมหาสมุทรผ่านเครือข่ายคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล “Hope Spots” นอกจากนี้ ยังได้มอบรางวัล Rolex Awards for Enterprise เพื่อเชิดชูบุคคลที่ดําเนินโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้และปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

- ประวัติศาสตร์อันยาวนานในการสนับสนุนการสํารวจ
เป็นเวลาเกือบศตวรรษที่ Rolex ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังแก่นักสํารวจบุกเบิก ซึ่งเป็นบุคคลที่ขยายเขตแดนแห่งความมุมานะพยายามของมนุษยชาติ โดยเดินทางเข้าไปสํารวจในพื้นที่ที่มีความหฤโหดที่สุดในโลก เพื่อไขความลับเกี่ยวกับธรรมชาติในโลกใบนี้ ซึ่งนาฬิกา Rolex ได้ติดตามนักสํารวจเหล่านี้ไปทั้งบนยอดเขาที่สูงที่สุดและดําดิ่งลงไปยังพื้นใต้ท้องมหาสมุทร เป็นเพื่อนคู่กายที่เที่ยงตรงและไว้วางใจได้ ในทางกลับกัน การเดินทางสํารวจเพื่อการค้นพบอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นห้องทดลองที่มีชีวิตสําหรับแบรนด์ในการทดสอบและพัฒนาเรือนเวลาแต่ละรุ่น
Sir Edmund Hillary and Tenzing Norgay climbing Mount Everest in 1953. Sir Edmund Hillary and Tenzing Norgay climbing Mount Everest in 1953.
- การสํารวจในดินแดนสุดหฤโหด
Rolex ได้เกี่ยวโยงกับการสํารวจที่สําคัญของโลกหลายครั้งในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา เช่นในปี1933แบรนด์ได้สนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ แก่คณะสํารวจ British Everest Expedition และอีกครั้งในปี 1953กับภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ของ Sir John Hunt ที่สร้างชื่อให้ Sir Edmund HillaryและTenzing Norgayเป็นสองบุคคลแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สําเร็จ เพื่อเป็นเกียรติยศเชิดชูแก่การพิชิตเอเวอเรสต์ครั้งนี้ Rolex ได้เปิดตัวนาฬิกาคู่กายนักสํารวจในปี 1953โดยได้พัฒนานาฬิการุ่น Explorer ให้มีกรอบนาฬิกาที่แข็งแกร่ง หน้าปัดชัดเจน รองรับสภาพแวดล้อมที่หฤโหดได้เป็นอย่างดี และนับตั้งแต่นั้นมา นาฬิการุ่น Explorer ก็ได้รวมความก้าวล้ำทางเทคนิคของนาฬิกา Rolex เอาไว้ทั้งหมด โดยคงรูปลักษณ์ไว้เหมือนเช่นเดิม

- Rolex ยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 1954ได้สานความร่วมมือครั้งสําคัญที่ดําเนินต่อมายาวนาน โดยเป็นพันธมิตรกับ National Geographic Society และได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสําคัญมากมายตลอดหลายปีต่อมาในปี1960การมีส่วนร่วมในการสํารวจของ Rolex มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ โดยเดินทางลงสู่ใต้น้ํามากกว่าจะไต่ขึ้นภูเขา ได้ริเริ่มสํารวจบริเวณ Mariana Trench ด้านแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่ลึกที่สุดในท้องมหาสมุทร เทียบได้กับความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ที่บวกเพิ่มไปอีก2,000เมตร

ยานสํารวจน้ําลึก Triesteที่บังคับการโดย Jacques Piccard และ Don Walsh ได้ติดตั้งRolex Oyster รุ่นทดลองชื่อ Deep Sea Special ไว้ที่ภายนอกตัวยานสํารวจขณะดําดิ่งลงไปยังท้องสมุทรที่สถิติความลึกระดับ 10,916เมตร (35,800ฟุต) ซึ่งนาฬิกาได้ทํางานอย่างเป็นปกติสมบูรณ์เมื่อยานสํารวจขึ้นสู่เหนือน้ําแม้จะต้องอยู่ภายใต้แรงดันอันสุดขั้ว ซึ่งทั้ง Piccard และ Walsh ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่สามารถลงไปยังท้องสมุทรได้ลึกที่สุดยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
In 1960, the Trieste, piloted by Jacques Piccard and Don Walsh, descended to the Mariana Trench. Jacques Piccard and Don Walsh waving from the bathyscaphe Trieste.
เมื่อมีบทบาทการทํางานด้านสํารวจมากขึ้น ในปี 1971Rolex ได้เปิดตัวรุ่น Explorer II โดดเด่นด้วยวันที่บนหน้าปัด เพิ่มเข็มบอกเวลา 24ชั่วโมง และขอบหน้าปัดแบบยึดตายตัวพร้อมขั้นบอกเวลา 24ชั่วโมง ช่วยให้ผู้สวมใส่แยกความแตกต่างระหว่างเวลากลางวันออกจากเวลากลางคืน อันเป็นคุณสมบัติที่จําเป็นสําหรับการสํารวจในสภาพแวดล้อมที่ความมืดปกคลุม เช่น ในถ้ําลึก หรือดินแดนแถบขั้วโลกที่มีแต่แสงสว่างนาน 6เดือน และความมืดมิดอีก 6เดือน

- การสืบสานปณิธานเพื่อความยั่งยืนตลอดไป
วิสัยทัศน์และค่านิยมของ Hans Wilsdorf ยังคงมีอิทธิพลต่อทิศทางของบริษัทจนถึงทุกวันนี้ นับตั้งแต่การสํารวจเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ มาสู่ยุคที่การสํารวจเป็นแนวทางหนึ่งในการอนุรักษ์ธรรมชาติของโลกนี้ให้คงอยู่สืบไป Rolex ตั้งมั่นที่จะสานต่อปณิธานของผู้ก่อตั้งให้คงอยู่เกือบหนึ่งศตวรรษแล้วที่ Rolex ให้การสนับสนุนเหล่านักสํารวจผู้บุกเบิก เพื่อผลักดันขีดความสามารถและความอุตสาหะของมนุษย์ให้ก้าวไกลไปกว่าเดิม ภายใต้แคมเปญPerpetual Planet ที่เปิดตัวในปี 2019 Rolex มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนในระยะยาวแก่นักสํารวจผู้ตั้งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อม ในช่วงแรก เจตนารมณ์ดังกล่าวได้สะท้อนผ่านโครงการRolex Awards for Enterprise รวมทั้งความร่วมมือกับ National Geographic Society และ โครงการ Mission Blue ของ Sylvia Earle ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น