เราต่างรู้กันดีว่าหนึ่งในสารขั้นพื้นฐานที่ผิวต้องการนั้นคือ ‘ความชุ่มชื้น’ และเราก็มักจะได้ยินชื่อของ ‘กรดไฮยาลูรอนิค’ (Hyaluronic Acid) เป็นส่วนผสมอยู่ในสกินแคร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่เสมอ รวมไปถึงสกินแคร์กลุ่มอื่นๆ เช่นเดียวกัน วันนี้เราอยากจะขอพาคุณไปรู้จักกับประสิทธิภาพของมัน และไปรู้ว่าทำไมมันถึงกลายเป็นหนึ่งในสาสำคัญที่ทั้งแบรนด์ความงามและแพทย์ผิวหนังแนะนำให้คุณใช้

จริงๆ แล้วกรดไฮยาลูรอนิคนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในผิวของเราอยู่แล้ว การทำงานของกรดไฮยาลูรอนิคนั้นหลักๆ ก็คือช่วยเสริมสร้างระดับความชุ่มชื้นในผิว ด้วยการผนึกโมเลกุลน้ำในผิวกับคอลลาเจนและกักเก็บมันเอาไว้ ซึ่งช่วยให้ผิวอิ่มและเรียบเนียนยิ่งขึ้น โดยการทำงานของมันเกิดขึ้นในผิวชั้นหนังแท้ที่คอลเลเจนจะก่อตัวอยู่ กรดไฮยาลูรอนิคจะยึดกับคอลลาเจนหนึ่งด้าน และจากนั้นจึงไปดึงเข้ากับโมเลกุลของน้ำ ซึ่งสร้างสภาวะของผิวที่เนียนนุ่มและเด้งอยากที่เราเห็นกัน
แล้วทำไมล่ะเราจึงต้องการสกินแคร์ที่มีกรดไฮยาลูรอนิค?
เมื่ออายุของเราค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามวันเวลาจำนวนการสร้างของคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิคในผิวก็จะลดลงด้วยเช่นกัน ร่วมด้วยกับสิ่งเร้าต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการอาบหรือล้างหน้าด้วยน้ำร้อน อากาศในแต่ละช่วงเวลา การเดินทางบนเครื่องบิน ฯลฯ ก็ต่างส่งผลให้เกราะที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุ้มน้ำให้กับผิวแตกออกและทำให้โมเลกุลของน้ำเล็ดรอดออกมาได้ ผิวก็จะเข้าสู่สภาวะขาดน้ำ (dehydrated) ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
การเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารอุ้มน้ำทั้งตัวกรดไฮยาลูรอนิคเอง หรือเพื่อนๆ ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันอย่าง กลีเซอรีนหรือซอบิทอล จึงเปรียบเสมือนการเพิ่มตัวกลางในการดึงดูความชื้นและกักเก็บมันอยู่ในผิวให้มากยิ่งขึ้นจากที่เราสูญเสียไปจากปัจจัยรอบตัวข้างต้น เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงควรมีสกินแคร์ที่ประกอบไปด้วยสารเหล่านี้อยู่ในตู้ของเราอย่างน้อย 2 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหน้าในองค์รวม หรืออายครีม เราขอยกตัวอย่างง่ายๆ เป็นเรื่องของผิวรอบดวงตา ที่ถ้าหากมันขาดความชุ่มชื้นแล้ว อาการที่เด่นชัดออกมาก็คือรอยคล้ำที่ชัดเจนขึ้น พร้อมกับอาการบวมและริ้วรอบต่างๆ ซึ่งอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงได้คือระดับความชุ่มชื้นที่มากยิ่งขึ้น

ผิวแบบไหนบ้างที่สามารถใช้สกินแคร์ที่มีกรดไฮยาลูรอนิคได้ ?
จากการวิจัยและคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังหลายคน กรดไฮยาลูรอนิคนั้น เป็นมิตรกับผิวในทุกๆ สภาพ ด้วยหน้าที่หลักของมันนั้นคือการช่วยโอบอุ้มความชุ้มชื้นของผิว มันจึงไม่สร้างผลกระทบหรือไปกระตุ้น การอักเสบ เช่นอาการคันหรือสิว รวมไปถึงมันยังไม่ไปกระทบการทำงานของสารตัวอื่นๆ ในผิวอีกด้วย แต่ถ้าหากจะพูดไปแล้วสกินแคร์ที่ประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูรอนิคนี้ก็จะเหมาะเป็นพิเศษกับคนที่มีผิวแห้งหรือคนที่มีอายุ เพื่อเข้าไปช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวที่สมบูรณ์
และในปัจจุบัน ต้องขอบคุณเทคโนโลยีด้านความงาม เราจึงได้เห็นวิธีการเติมกรดไฮยาลูรอนิคให้กับผิวโดยตรงด้วยการฉีดเข้าสู่ผิว ในรูปแบบของฟิลเลอร์ ซึ่งก็จะสร้างผลที่ชัดเจนให้เห็น สำหรับกรณีที่เร่งด่วนหรือความต้องการที่มากมาย
อย่างไรก็ดีแพทย์ผิวหนังยังคงให้คำแนะนำเอาไว้ว่า ถึงแม้ในปัจจุบันเราจะยังไม่เห็นผลข้างเคียงจากการใช้กรดไฮยาลูรอนิค ไม่ว่าจะเป็นทั้งการทาหรือการฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง แต่ถ้าหากคุณพบเจออาการแพ้หรืออาการอักเสบให้รีบเข้าพบแพทย์ผิวหนังทันที
Photos courtesy of Chanel, Laneige, Clarins