จะบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่ ‘จริง’ ที่สุดที่เราได้รู้จักและพบเจอในวงการบันเทิงก็คงได้ แม้เวลาจะผ่านไป ดาราสาวมากฝีมือนาม แอน ทองประสม ก็ยังคงเป็นคนติดดินและมองโลกตามความเป็นจริงเสมอ ในวัย 40 ปี แอนได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดละครเรื่อง ‘ลิขิตรัก’ เผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ในโลกของการทำงานซึ่งเธอทุ่มเทให้ทั้งชีวิตจิตใจ จนหลายคนเฝ้าถามถึงเรื่องราวความรักและชีวิตการแต่งงานกับคุณ เอ ทินพันธ์ ตันตินิรันดร์ แฟนหนุ่มนักธุรกิจที่คบหาดูใจกันมานาน 15 ปี แม้ในวันนี้ เธอจะบอกว่ายังขอมุ่งมั่นกับหน้าที่การงานให้ดีที่สุดก่อน แต่เธอก็มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรักมาแบ่งปันให้เราได้รู้
ความรักของคนที่คบหากันมาสิบห้าปีเป็นอย่างไรบ้าง
“มันก็เหมือนเพื่อนที่รู้จักกันมานานค่ะ ก็จะรู้สึกเป็นเพื่อน ปรึกษาพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่อาจจะไม่ได้หวานหรือหวือหวาเหมือนตอนที่เราเป็นวัยรุ่นแต่ความรักเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนะคะ คบหาเป็นพาร์ทเนอร์ที่คอยช่วยเหลือกัน”
พี่แอนกับคุณเอเป็นคนโรแมนติกไหมคะ
“คือเอไม่ แอนก็ไม่ อาจเป็นเพราะว่าเราโตแล้ว ดอกไม้ของขวัญวาเลนไทน์ไม่ต้องก็ได้ วันเกิดไม่มีของขวัญก็ได้ เราไม่โกรธกัน แค่ขอให้ทุกวันดีต่อกันก็พอใจแล้ว”
สำหรับในวันนี้ พี่แอนคิดว่าพิธีแต่งงานสำคัญไหมคะ
“มันก็สำคัญนะคะ แต่เราไม่ได้มีความใฝ่ฝันว่ารูปแบบงานจะต้องเป็นอย่างไร อาจจะเป็นด้วยความที่เราเองก็อยู่ในบทบาทการแสดงมาจนไม่ตื่นเต้นแล้ว ในชีวิตจริงกับคนจริงๆ เราไม่แฟนตาซีแล้วน่ะค่ะ เราจะรู้สึกว่าเอาให้มันเรียบง่าย และมั่นคง ไม่อยากรบกวนแขกแต่งตัวมาถ่ายรูปกับเรา ก็จะเกรงใจ ไม่อยากจััดงานใหญ่ถ้าจะแต่งนะคะ”
ถ้าให้เปรียบเทียบความรักเป็นภาพยนตร์สักเรื่อง คิดว่าเป็นเรื่องไหน
“ถ้าหมายถึงความรักในปัจจุบัน โอ้โห ของแอนแอบสแตร็กต์มาก มีทั้งดราม่า กวนๆ เด็กๆ ไร้สาระ เป็นผู้ใหญ่ เป็นเพื่อน มันหลากหลายอารมณ์ มันเหมือนกับภาพศิลปะชิ้นหนึ่งที่มีอะไรหลากหลาย ไม่ใช่พอร์เทรตรูปเดียว ไม่รู้จะเปรียบกับหนังเรื่องอะไร”
แต่ถ้าเปรียบกับความรักในอุดมคติล่ะคะ
“แอนจะติดเล่นละคร มีจุดเริ่มต้น มีกลางเรื่อง และตอนจบ ก็คิดว่าอยากให้จบสวย อยากเล่นละครเจ้าหญิงเจ้าชายนั่นแหละ แต่พอเราใช้ชีวิตมา เราก็รู้ว่ามันไม่มีอะไรจบอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ในอุดมคติ แอนก็ต้องการผู้ชายสักคนที่พร้อมอยู่เป็นเพื่อนเรา เวลาที่เราแก่ตัว ก็ช่วยดูแลกัน เวลาไม่มีใครจะพูดด้วยเราก็ระบายให้เขาฟังได้ เขาต่อว่าเราบ้างเมื่อเราทำผิด แล้วก็ชมเราบ้าง เมื่อเราทำถูก ขอแค่ความจริงใจ ความซื่อสัตย์แค่นั้นก็พอ แต่ถ้าวันหนึ่งอยู่กันแล้ว คุณไม่มีความสุข คุณต้องบอกเรานะ สะกิดเลย เพราะชีวิตคนเราต้องมีความสุข”
ช่างภาพ: Ekaphob Duangkham
ผู้อำนวยการฝ่ายแฟชั่น: Atinan Nitisunthornkul
สไตลิสต์: Janice Oppenborn