Monday, December 2, 2024

ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก กับทุกบทบาทในชีวิตที่เธอรัก

สัมผัสมุมมองความคิดกับชีวิตที่พึงใจของ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบลูย์ นักแสดงสาวมากความสามารถแห่งยุค และแบรนด์แอมบาสเดอร์สาวของ Tiffany & Co. ซึ่งกล้าที่จะเติบโตและทุ่มเทให้กับทุกบทบาทที่หลากหลาย

ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก คือนักแสดงตัวจริงอย่างไร้ข้อกังขา ความสามารถของเธอฉายชัดผ่านบทบาทการแสดงที่หลากหลาย ไม่ได้ยึดติดกับกรอบความเป็นนางเอกแต่อย่างใด เธอบอกว่าอยากให้คนจดจำในฐานะนักแสดงที่มีคุณภาพ “จริงๆ ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะ เวลารับบทต่างๆ แค่คิดว่าอยากเป็นตัวละครนั้นให้ดีที่สุด ให้คนเข้าใจวิธีคิด หรือมุมมองของตัวละครนั้นๆ” เธอบอกว่า “การแสดงทำให้เราได้มีชีวิตอยู่ในชีวิตคนอื่น ทำให้เราได้บอกเล่าและถ่ายทอดมันออกมา และข้อดีก็คือทำให้เราเป็นคนใจกว้าง ไม่ได้มองโลกแค่ในมุมของเรา การได้เป็นตัวละครมากมายทำให้เข้าใจธรรมชาติของตัวละครที่หลากหลายมากๆ เพราะถ้าเราใจแคบ เราอาจจะตัดสินและไม่อยากถ่ายทอดตัวละครบางประเภท” 

ยกตัวอย่างบทบาท ‘ทอง’ ในละครเรื่อง ทองประกายแสด ผลงานล่าสุดที่เพิ่งอำลาจอไป นี่คือผลงานที่ยืนยันถึงความตั้งใจในฐานะนักแสดงของเธอได้อย่างดี ใบเฟิร์นบอกว่าสิ่งที่ยากของการเป็นตัวละครนี้คือการไม่อคติต่อตัวละครซึ่งคนมักมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เธอโพสต์อำลาบทบาทนี้ว่า “การที่ใบได้ผจญภัยในชีวิตของทอง มันพาไปเรียนรู้อะไรมากมาย ทั้งครอบครัว การอบรมสั่งสอน หรือทางเลือกในชีวิต ใบรักทุกช่วงเวลาของเธอ” 

จากการรับบทในละครเวทีมาตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ ส่งให้เธอตกหลุมรักการแสดงมาจนถึงวันนี้ “เราได้เล่นเป็นสัตว์ต่างๆ ไม่ได้มีบทพูดเลย แต่ก็ฟีลฟรีที่จะได้เล่น รู้สึกว่ามันมีอิสระที่จะได้เล่น พอโตขึ้นก็เริ่มไปแคสต์งาน โดยที่ไม่รู้ว่าเราจะโตขึ้นมาเป็นอะไรในวันนี้” เวลาผ่านไปเป็นสิบกว่าปี แต่ใบเฟิร์นยังตกหลุมรักอาชีพนี้อยู่เสมอและยังคงอยากทำต่อไปเรื่อยๆ “แต่ถ้าวันไหนรู้สึกหมดไฟก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่าวันแรกที่เราได้ทำอาชีพนี้ วันนั้นเรารู้สึกแบบไหน มันมีทั้งไฟ ความตั้งใจ เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่บ่น เพราะมันสนุกจังเลย ณ วินาทีนั้น ถ้ารู้สึกท้อนะ ก็อยากจะกลับมาเป็นตัวเองในวันแรกที่รักอาชีพนี้” 

แต่นอกจากบทบาททางการแสดงแล้ว ช่วงหลังมานี้เรายังได้เห็นเธอผ่านบทบาทการทำงานกับแบรนด์แฟชั่นและลักชัวรี่ต่างๆ “เป็นอีกพาร์ตหนึ่งที่เฟิร์นได้มีโอกาสทำมากขึ้น ซึ่งน่าสนใจมากๆ มันเป็นแรงบันดาลใจมากขึ้นให้เราอยากลองใส่อะไรใหม่ๆ และฟีลกับตัวเองอีกแบบหนึ่ง จะไม่เรียกตัวเองว่าแฟชั่นนิสต้านะ แต่ก็สนุกกับมันได้” 

ถึงเธอจะไม่เรียกตัวเองว่าแฟชั่นนิสต้า แต่คงพูดได้ว่าเธอกลายเป็นหนึ่งในขาประจำของแฟชั่นวีกไปแล้ว แถมยังได้ปรากฏตัวในแคมเปญ ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงเดินทางไปร่วมอีเวนต์ใหญ่ๆ ระดับโลก อย่างตอนที่เธอไปร่วมงาน Tiffany Wonder ที่โตเกียว หลังจากได้รับเลือกให้เป็น Tiffany & Co. House Ambassador อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปี เธอเล่าว่า “เป็นความประทับใจมากๆ เฟิร์นชอบ Tiffany & Co. มาก่อนจะได้รับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์แล้ว และเป็นแบรนด์ที่อบอุ่นมากเวลาที่ได้ทำงานด้วย รู้สึกแฮปปี้มากๆ การไปชมนิทรรศการที่ญี่ปุ่นทำให้ได้สัมผัสถึงความหลากหลาย ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา และแบรนด์มีพัฒนาการมาอย่างไร เห็นเลยว่าความคิดสร้างสรรค์สำคัญ ต่อให้สร้างขึ้นในยุคสมัยไหน มันก็ยังคลาสสิกมาจนถึงวันนี้ เข้าใจเลยว่าที่เขาบอกว่าอยู่ได้ตลอดไปมันเป็นยังไง”

ในวันนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราได้มีโอกาสทำงานถ่ายแฟชั่นกับเธอ พร้อมด้วยเครื่องประดับร่วมสมัยของ Tiffany & Co. ซึ่งมีหลากหลาย “ถ้าพูดถึงรุ่นที่เป็นตัวเฟิร์นที่สุดก็น่าจะเป็น Tiffany Lock เพราะชอบอะไรที่มันเกลี้ยงๆ น้อยๆ เข้าได้กับชีวิตปกติซึ่งเป็นคนแต่งตัวชิลล์มาก รวมถึงในวันที่ต้องออกงานหรือโอกาสพิเศษ ต่อให้เป็นรุ่นที่มีเพชร แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตมาก เป็นความคลาสสิก เครื่องประดับทุกชิ้นที่แบรนด์ทำออกมาสามารถอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้ ไม่ว่าวันนั้นเราจะมาลุคไหน หรือแม้แต่ในวันธรรมดาของเรา มันก็ยังมีความหมาย”  

ใบเฟิร์นบอกว่าเครื่องประดับที่เธอใส่ติดตัวมากที่สุดก็คือตุ้มหู “เฟิร์นว่าเครื่องประดับเป็นสิ่งที่เล่าตัวตนได้ง่ายที่สุด และชัดเจนที่สุด ช่วยเสริมความมั่นใจได้โดยไม่ต้องใส่หลายชิ้นก็ได้ เวลาที่เราใส่อะไรมันสามารถบอกได้ว่าเราเป็นแบบไหน”

 

คำที่สื่อถึงตัวตนของฉันในอดีตคือ… เรียนรู้ เราเรียนรู้ทุกอย่างเลย หน้าที่การงาน การใช้ชีวิต ความรัก อดีตที่ผ่านมาคือการเรียนรู้จริงๆ 

คำนิยามที่บ่งบอกความเป็นตัวฉันได้ดีที่สุดในวันนี้คือ… ความเป็นธรรมชาติ หมายถึงธรรมชาติของความเป็นเรา ความเป็นใบเฟิร์นนี่แหละ

คำที่คิดว่าจะนิยามตัวฉันในอนาคตคือ… ใบเฟิร์น นักแสดงคนหนึ่ง…สั้นๆ เรียบง่าย 

สิ่งที่ฉันทำสำเร็จไปแล้วคือ… ได้ทำอาชีพที่ฝันและรัก ได้มีโอกาสแสดงบทที่อยากแสดง แต่ถึงจะทำไปแล้วก็ยังไม่ได้อยากเปลี่ยนไปจากตรงนี้นะ

ความฝันอันสูงสุดของฉันคือ เป็นคนที่สงบสุข ไม่รู้ว่าตอบแบบนี้แล้วมันดูตลกไหม มันฟังดูแก่ แต่อยากสงบสุขจริงๆ…เราทำงานเป็นนักแสดง เจอเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าจะเจออะไรก็แล้วแต่ อยากจะตั้งมั่นอยู่กับความสงบสุขของเราได้ อยากใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่ในบ้าน ออกไปทำงานบ้างตามความเหมาะสม ตามความสุขของตัวเอง แต่ไม่ได้บอกว่าชีวิตไม่ต้องเจอปัญหานะคะ แค่ต่อให้เจออะไรก็อยากจัดการมันได้อย่างพอดี เรียบง่าย และสงบสุข แค่นั้นพอแล้ว 

สิ่งที่ฉันอยากเอาชนะให้ได้คือ... ความไม่สงบสุขนี่แหละ (หัวเราะ) คือชีวิตมันก็มีเรื่องให้ได้พบเจอ แต่ไม่ได้รุนแรงอะไรนะคะ แค่เราอยากเติบโตและผ่านไปอย่างมั่นคง 

สำหรับฉัน ศิลปะคือ… มันอยู่ในทุกอย่าง มันอยู่ที่มุมมอง ไม่ว่าจะธรรมชาติ งานอาร์ตต่างๆ หรือการแสดงซึ่งก็เป็นศิลปะ เพราะมันคือการเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และสื่อสารมันออกมา คนดูก็สามารถดูและตัดสินมันได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของเขา มันเลยเป็นศิลปะ

แรงบันดาลใจของฉันมาจาก… ครอบครัว เพื่อนฝูง ประสบการณ์ ความฝัน 

เวลาส่วนใหญ่ในชีวิต ฉันใช้ไปกับ… การนอน หนังสือ หมา ชาบู เพื่อนฝูง ครอบครัว เป็นคนให้ความสำคัญกับมิตรภาพ เพราะความสัมพันธ์กับคนรอบตัวทำให้ชีวิตเรามีความหมายนอกจากคุณค่าทางการงาน เรารักผู้คนในชีวิต การที่เราเป็นลูกสาวคนโต เป็นพี่สาวของน้องชาย เป็นเพื่อนของเพื่อนๆ ถือเป็นบทบาทที่เฟิร์นรัก มันทำให้ชีวิตเรามีคุณค่าที่ได้แคร์เขาและได้เป็นคนที่เขาแคร์

แต่ฉันจะไม่ยอมเสียเวลากับ การเผื่อเวลาเดินทางที่มากเกินไป เพราะผู้จัดการขับรถเก่ง พาไปถึงทัน 

เรื่องที่วนเวียนอยู่ในความคิดของฉันตอนนี้คือ การฝึกไม่ให้อารมณ์พาเราไหลไปตามสิ่งต่างๆ ฝึกการอยู่กับปัจจุบันขณะ เพราะเราต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกในการแสดง ในวันปกติก็ต้องวางเฉยบ้าง เพราะเราเป็นคนขี้ห่วง ต้องฝึกว่าอย่าไปเครียดหรือกังวลแทนใคร

บทเรียนที่มีความหมายมากๆ คือ… มันมีเรื่องให้เรียนรู้ได้ทุกวันเลยนะ ล่าสุดคืออย่าแช่น้ำที่ร้อนจนเกินไป มันอาจทำให้หมดสติได้ เพราะชอบแช่น้ำมากๆ 

ชีวิตของฉันตอนนี้เปรียบได้กับ… ก้อนเมฆ มันดูธรรมดา ที่มันลอยไปตามแต่อากาศในแต่ละวัน เหมือนชีวิตเลย

ฉันคงจะมีความสุขที่สุดถ้า… สามารถประคองชีวิตและบาลานซ์ทุกอย่างได้ แค่นี้ก็ดีแล้ว  

3 สิ่งที่ตั้งใจจะทำ… อยากเที่ยวให้ได้สม่ำเสมอกับเพื่อนๆ อยากเลี้ยงสุนัขที่บ้านของตัวเองด้วยตัวเอง และอยากฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้น 

ถ้ามีไทม์แคปซูลที่จะเปิดอีกทีในอีก 50 ปีข้างหน้า ฉันอยากจะเก็บ… ความทรงจำในช่วงเวลานี้เอาไว้ เราเติบโตมาจนเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง ความรักต่อครอบครัว เผื่อว่าอีก 50 ปี เราสมองฝ่อไปแล้วก็จะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองมีความสุขขนาดไหน 

Model : Baifern Pimchanok Luevisadpaibul
Fashion Director : Daneenart Burakasikorn
Photographer : Thananon Thanakornkarn
VDO / Editor : Panlit Voravutvityaruk

Writer:Pimpilai Boonjong

Makeup : Jeera Jareonthamasuk Hair : Teethory 
Video Assistant : Yukontorn Paethong

Assist Stylist : Korawit Sattayapan

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

Tiffany & Co. เปิดตัว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ขึ้นแท่น House Ambassador คนล่าสุด

Anya Taylor-Joy แสดงนำในแคมเปญฮอลิเดย์ With Love, Since 1837 ของ Tiffany & Co. 

ชีวิตที่ยิ่งเปล่งประกายของนักแสดงสาว แพทริเซีย กู๊ด

Other Articles