Friday, October 11, 2024

มิ้นท์-พีค เผยความเป็นตัวเองอย่างมั่นใจแต่ยังคงต้องเปี่ยมด้วยสไตล์ในทุกย่างก้าว

สองพระนางเคมีล้นจอ มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร และกองทัพ พีค กับการโคจรมาพบกันในแฟชั่นเซ็ตรองเท้า Crocs ที่เปี่ยมด้วยความชิคและสนุกสนาน 

ณ ยามนี้คงไม่มีนักแสดงคู่ไหนที่จะฮ็อตเท่า มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร และกองทัพ พีค ซึ่งโด่งดังจากบทบาทในการแสดงละครเรื่อง ‘ดวงใจเทวพรหม: ดุจอัปสร’ ใน ลอฟฟีเซียล พลัส คอนเทนต์ดิจิตัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ เราจึงคว้าตัวทั้งสองมาพูดคุยถึงตัวตน เซนส์แฟชั่น และก้าวต่อไป รวมทั้งร่วมถ่ายทอดแฟชั่นเซ็ตกับรองเท้าหลากดีไซน์ล่าสุดจาก Crocs

KONGTHAP PEAK

“เวลาที่มีคนถามว่าถ้าให้คะแนนเต็มสิบกับสิ่งที่ทำอยู่จะให้ตัวเองเท่าไร พีคขอให้ห้านะ เพราะคิดว่ามันมีพื้นที่ที่เราจะโตได้อีกเยอะ หรือต่อให้เราอายุมากขึ้น ก็ยังคิดอย่างนั้นกับสิ่งที่ต้องเรียนรู้” ถ้าพิจารณาจากสิ่งต่างๆ มากมายที่หนุ่ม กองทัพ พีค ซึ่งเป็นชื่อในวงการ ได้ทำมา เราเชื่อว่าตลอดชีวิต 23 ปีของเขานั้นคือการเรียนรู้จริงๆ 

เส้นทางในวงการ

“ถ้าถามผมเมื่อก่อน ผมอยากเป็นนักร้องครับ แต่ถ้าในวันนี้ ผมชอบทุกงานที่ผมได้ทำ ผมคิดว่าทำไมเราจะทำหลายๆ อย่างไปพร้อมกันไม่ได้” พีคเล่าความฝันในการเป็นศิลปินของเขาเริ่มขึ้นตอนที่ได้ดูสารคดีของจัสติน บีเบอร์ “เพราะเราเห็นการเติบโตของเขาว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง แล้วเวลาได้ฟังเพลงของเขาแล้วมันมีความสุข เลยอยากทำให้คนมีความสุขแบบนั้นบ้าง” พออายุ 12 เขาก็ขอพ่อแม่ไปเรียนที่โรงเรียนศิลปะและการแสดงที่อังกฤษ ก่อนจะกลับมาเป็นศิลปินในค่าย Chandelier Music ภายใต้สังกัดช่อง 3 ร่วมกับหนึ่ง-ณรงค์วิทย์ โปรดิวเซอร์ชื่อดัง (ซึ่งชายหนุ่มยกให้เป็นครูดนตรี เช่นเดียวกับโอ แว่นใหญ่ แห่งวง Room 39) และต่อจากนั้นเขายังได้มีโอกาสไปเดินแฟชั่นโชว์ที่เกาหลี รวมถึงลงแข่งในรายการเรียลิตี้เซอร์ไววัลของเกาหลี ‘Produce X 101’ เพื่อเฟ้นหาไอดอล

จากนั้นชื่อของกองทัพ พีคก็เริ่มเป็นที่จับตามองอย่างมากนับตั้งแต่เขาโชว์ฝีมือการแสดงครั้งแรกในบทพระเอกประกบคู่กับนางเอกดังอย่างเบลล่า-ราณี ในเรื่อง ‘ให้รักพิพากษา’ เมื่อปี 2564 ก่อนจะมารับบทพระเอกครั้งที่สองในผลงานล่าสุดเรื่อง ‘ดุจอัปสร’ ละครซีรีส์ชุด ‘ดวงใจเทวพรหม’ กับบทบาท คุณเพชร หรือพันตรีหม่อมหลวงอศิร จุฑาเทพ  พีคบอกว่าได้ใช้เวลาอยู่กับตัวละครนี้นานที่สุด “เรียกว่าฝ่าร้อนผ่านหนาว ต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก ผมรู้สึกดีใจกับเรื่องนี้มากๆ เพราะว่าเราได้ทําผลงานในฐานะนักแสดงแบบเต็มที่แล้ว ดีใจที่ทุกคนชื่นชอบ และให้ความรักกับเราและกับตัวละครด้วย”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเส้นทางในวงการนี้มีส่วนทำให้ชายหนุ่มคนนี้เติบโต “ในฐานะนักแสดง ผมว่าผมเติบโตขึ้นพอสมควรเพราะว่าคนก็จําเราได้ในฐานะ  อศิร จุฑาเทพ มันฟูลฟิลสำหรับผมแล้ว เพราะคนดูรักเราในฐานะตัวละครนี้ เรื่องนี้ก็ทำให้พีคเติบโตในฐานะนักแต่งเพลงด้วย เพราะคนชอบเพลงประกอบละครที่เราแต่ง (ฟ้า – I wish you the sky) ในฐานะคนคนหนึ่ง เราก็ถือว่าโตขึ้นมากเพราะได้เรียนรู้อะไรจากตัวละครตัวนี้เยอะครับ”​  

ตอนนี้เขามีโปรเจ็กต์ละครสามเรื่องที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว และกำลังรอออนแอร์ (ซึ่งก็คือ ‘แม่เลี้ยง’ ‘แสนรัก’ และ ‘ก็รักมันปักใจ’) นอกจากนี้ยังกลับไปโฟกัสกับงานเพลงมากขึ้นด้วย “มีหลายเพลงที่ทำไว้ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา คิดว่าจะทยอยปล่อยออกมาครับ” 

เมื่อถามถึงความทรงจำสุดพิเศษนับตั้งแต่เข้าวงการมา ชายหนุ่มตอบว่ามิตรภาพที่ดี “ผมได้เจอทีมงานมากมายจากการทำงาน มันเป็นมิตรภาพที่พิเศษมากๆ แล้วเราก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากครับ” 

เซนส์แฟชั่น 

อาจจะไม่ได้นิยามตัวเองว่าเป็นหนุ่มแฟชั่น แต่พีคติดตามแฟชั่นอยู่บ้าง “ผมชอบเปิดดูช่องแฟชั่นครับ ถ้าว่างๆ ก็ชอบดูเรเฟอเรนซ์การแต่งตัวครับ ผมเป็นคนที่ชอบทดลองอะไรใหม่ๆ พอสมควรนะ แต่ก็ไม่กล้าแต่งอะไรแบบหลุดโลกขนาดนั้น” 

“ถ้าพูดถึงสไตล์ ผมชอบแนวสตรีทก็เลยชอบที่ Crocs มีรองเท้าหลากหลายสไตล์ รวมถึงรุ่นที่คอลแลบอีกมากมายให้ได้ทดลองด้วย อาจจะเพราะใช้ชีวิตในสตูดิโอเยอะครับ ถ้าไม่ซ้อมเต้นก็อัดเสียง เลยชอบใส่กางเกงแนวแบ็กกี้ รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่มันคูลๆ หรือชิลล์ๆ หน่อย แต่ถ้าต้องออกงานก็จะพิถีพิถัน เน้นให้ลักชัวรี่ขึ้น อย่างเช่นพวกสูทเท่ๆ แล้วผมเป็นคนทำเพลงด้วย เราก็จะลิงก์เทรนด์แฟชั่นเข้ากับการทำเพลง อย่างเช่นที่แฟชั่นมันย้อนกลับมาสู่ยุค ’90s เพลงก็เหมือนกัน ที่กลับมาสู่ฮิปฮอป โอลด์สคูลมากขึ้น” 

ความที่ไปเติบโตมาหลายประเทศ อยู่อังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ไปทำงานที่เกาหลี และจีนอยู่ช่วงหนึ่ง “ผมว่าคนอังกฤษอาจจะไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไร ส่วนใหญ่จะแต่งง่ายๆ ผมก็เลยติดโทนขาวดำ แต่คนเกาหลีแต่งตัวเก่งมาก มีหลายแนวเลย ส่วนที่จีน พวกไอดอลจะมีความสตรีทมากๆ สำหรับที่ไทย ก็ต้องคำนึงถึงอากาศด้วย ผมว่าสนุกดีที่มันแตกต่างกันเลย” ส่วนเทรนด์ที่อยากลอง “ผมอยากลองแนวเพร็ปปี้ ย้อนกลับไปในสมัยโปโล แนวผู้ดีอังกฤษ สีเอิร์ธโทนซึ่งเป็นสีที่ผมไม่มีในตู้เลย มีแต่ดำกับขาว” 

แล้วรองเท้ามีความสำคัญต่อการแต่งกายไหม? “ผมรู้สึกว่ามันช่วยคอมพลีตไม่ว่าเราจะเลือกชุดอะไร ซึ่งที่บ้านผมจะมีรองเท้าเยอะมาก แล้วแต่ลุคแล้วแต่โอกาสเลย” หนุ่มพีคได้เล่าถึงรองเท้าของ Crocs ที่ใส่ถ่ายวันนี้ว่า “ผมว่ามันแมตช์ง่าย ใส่แล้วดูแฟชั่นแบบ effortless fashionable นอกจากใส่สบายแล้ว ยังสวยเท่อีก ทำให้ดูเป็นคนแต่งตัวขึ้นมาด้วยครับ” 

ตัวตนและสิ่งที่ได้เรียนรู้ 

ในยามถ่ายแฟชั่นครั้งนี้ พีคทำงานด้วยเอเนอร์จี้เต็มร้อย แต่เขายอมรับว่าเป็นหนุ่มอินโทรเวิร์ตคนหนึ่ง “ผมจะอินโทรเวิร์ตเวลาต้องใช้ความคิดในการทำงาน เวลาอยู่สตูดิโอก็จะชอบอยู่กับตัวเอง เวลาไปเที่ยวก็ชอบอยู่ในห้องที่โรงแรมมากกว่า” นอกจากนี้เขายังนิยามตัวเองว่าเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ด้วย “แต่ตอนนี้ปล่อยวางบ้างแล้วนะ เพราะเราทำเองไม่ได้ทุกอย่าง”  

ชายหนุ่มบอกว่าความผิดพลาดคือบทเรียน “มันมี quote ของซีรีส์เรื่อง Good Doctor ว่า คุณควรจะมีข้อผิดพลาดเพื่อที่จะเรียนรู้มัน แต่ก็ยากนะ ยิ่งถ้าเราเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ แต่เราต้องยอมรับให้ได้ อย่างเช่นการทำงานย่อมมีข้อผิดพลาด เราต้องลดอีโก้ตัวเองลงมา เพื่อที่จะเข้าใจมันและเพื่อไม่ให้เกิดอีกในครั้งหน้า”

สิ่งสำคัญในชีวิตเขา ณ ตอนนี้ก็คือสุขภาพ ครอบครัว และมิตรภาพ “ถ้าจะมีสิ่งหนึ่งที่ต้องสู้เพื่อให้ได้มาเหรอ? น่าจะเป็นการปกป้องคนที่เรารัก มันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว ถ้าเราจะต้องสู้ทุกอย่างเพื่อให้ได้อะไรมาแต่ต้องทิ้งคนข้างหลังทั้งหมด ก็ไม่อยากสู้ ทำไมไม่สู้เพื่อปกป้องคนข้างหลัง มันดีกว่าไหม” ส่วนสิ่งใหม่ที่อยากลองทำ “ผมอยากไปแคมปิ้ง เคยนัดกับแก๊งห้าลิงจุฑาเทพไว้ เพราะเราสนิทกันมาก แต่ยังหาเวลาไปไม่ได้สักที”

สำหรับชีวิตในตอนนี้ พีคขอเปรียบเป็นเต่าที่ค่อยๆ ไป  “เพราะผมอยากค่อยๆ เดินไปอย่างมั่นคงครับ  แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่อยากเป็นเต่าติดจรวด หรือเป็นเต่าเล่นสเก็ต”

Mint Ranchrawee

“ความฝันวัยเด็กของมิ้นท์มีหลายอย่างมากๆ” มิ้นท์-รัญชน์รวี นักแสดงสาววัย 25 ที่กำลังมาแรงเริ่มต้นเล่าให้ฟัง “อยากทําได้ทุกอย่าง ชอบวาดรูป ชอบทําขนม ชอบเล่นกีฬา อยากเป็นนักกีฬาแบดมินตัน” แต่การทำงานในวงการบันเทิงไม่เคยอยู่ในความคิดฝันของเธอมาตั้งแต่แรก “เรียกว่าเป็นความบังเอิญก็ได้ค่ะ แต่พอมีโอกาสเข้ามาแล้ว มิ้นท์ก็ตั้งใจกับมันมากๆ” 

นักแสดงสาวดาวรุ่ง

มิ้นท์เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 18 ด้วยการถ่ายโฆษณา ก่อนจะได้จับงานแสดงเรื่องแรกใน ‘ข้ามสีทันดร’ เมื่อปี 2561  ปัจจุบันเธอขึ้นแท่นนางเอกเจนใหม่ของช่อง 3  โดยมีผลงานเด่นๆ อย่าง ‘กลเกมรัก’ และ ‘ดุจอัปสร’ ซึ่งเป็นหนึ่งในละครชุด ‘ดวงใจเทวพรหม’ ที่แฟนละครเฝ้ารอคอยมานานกว่าสามปี

นักแสดงสาวผู้มีเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์เป็นไอดอลทางการแสดงบอกว่าเป็นเกียรติที่ได้แสดงใน ‘ดุจอัปสร’ และเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้ “กว่าจะผลิตออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ยิ่งเป็นภาคต่อที่แฟนๆ รักมากด้วย   ถือเป็นเรื่องที่ทำการบ้านเยอะและคุยกับตัวเองเยอะที่สุดเลยค่ะ แล้วเรื่องนี้
ก็เปิดโอกาสในการทำงานอื่นๆ ให้มิ้นท์ด้วย ทำให้เราโตขึ้นมากเลยค่ะ”

ตัวตน

ภายใต้ใบหน้าหวานๆ และท่าทางขี้อาย แต่มิ้นท์บอกว่าเธอเป็นคนที่ชอบทำอะไรเท่ๆ แมนๆ “มิ้นท์ชอบทำกิจกรรมเหมือนผู้ชายคนหนึ่งเลย เพราะความที่มีพี่ชายกับน้องชาย แล้วตอนเด็กเป็นนักกีฬาแบดมินตันด้วย เราก็เลยไม่ค่อยผู้หญิงจ๋าเท่าไรค่ะ” นอกจากนี้เธอยังถือเป็นคนอินโทรเวิร์ตคนหนึ่ง เหมือนกับคาแร็กเตอร์ฟ้าในดุจอัปสร “การทำงานในวงการเป็นการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก ในบางครั้งเรารู้สึกไม่มีเอเนอร์จี้หรืออยากมีสเปซ แต่มันทำไม่ได้เพราะเราต้องทำงานร่วมกับหลายๆ คน เลยต้องฮึบตัวเองขึ้นมา ต้องบูสต์เอเนอร์จี้ตัวเอง ซึ่งในเรื่องจะมีฟีลนี้เยอะค่ะ มันก็ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นในมุมนี้ด้วย”

เธอบอกว่าการอยู่กับตัวเองเหมือนการได้พักผ่อนจริงๆ และได้ชาร์จพลัง “เวลาอยู่คนเดียว ถ้าไม่นอนแผ่ อ่านหนังสือ ดูหนัง ดูซีรีส์ หรือไม่ก็หากิจกรรมทำคนเดียวได้อย่างการวาดรูป มิ้นท์จะชอบวาดรูปมาก ยิ่งตอนเด็กๆ ก็คือสามารถวาดได้ 8 ชั่วโมงเลย มันเป็นการฝึกสมาธิด้วย” แต่ถึงอย่างนั้นชีวิตของเธอก็มีครบทุกด้าน ทั้งจริงจัง ปล่อยวาง และสนุกสนาน

แฟชั่นสะท้อนตัวตน 

มิ้น​ท์เป็นสาวที่มีเสน่ห์และนำเสนอตัวตนได้ดี โดยเฉพาะเรื่องของการแต่งกาย เธอเล่าว่าเมื่อได้เข้ามาทำงานวงการบันเทิง ยิ่งทำให้ได้สัมผัสกับแฟชั่นมากขึ้น “แฟชั่นมันช่วยเสริมและแสดงความเป็นตัวตนของเรา การได้ลองแต่งอะไรใหม่ๆ ทำให้ได้เห็นตัวเองในลุคต่างๆ ซึ่งปกติอาจจะไม่ค่อยได้เห็น”

“ส่วนใหญ่มิ้นท์จะแต่งตัวเป็นพิเศษตอนที่ออกงานค่ะ แต่ถ้าไปเที่ยว หรือชีวิตประจำวัน ชอบแต่งอะไรที่ดูชิลล์ๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ค่ะที่ใส่เป็นประจํา จริงๆ ไม่มีสไตล์ตายตัว จะแต่งได้ทุกแนวและชอบลองอะไรใหม่ๆ แต่ถ้าช่วงนี้ชอบความคิวต์ๆ หน่อยค่ะ ส่วนไอเท็มที่ขาดไม่ได้ก็คือแว่นตา อย่างในวันที่แต่งตัวเรียบๆ ก็ทำให้ลุคดูมีอะไร” 

นอกจากนั้นแล้ว รองเท้าก็ยังเป็นไอเท็มที่เธอให้ความสำคัญด้วย “มิ้นท์จะดูว่าวันนี้แต่งตัวแนวไหน จะเลือกให้เหมาะกับลุคค่ะ และให้ความสำคัญกับโททัลลุค แล้วรองเท้าไซส์ที่ใส่ก็หายากมากด้วย เลยจะเลือกเป็นพิเศษ” ในการถ่ายแฟชั่นครั้งแรกกับลอฟฟีเซียลในครั้งนี้ มิ้นท์ได้เล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อรองเท้า Crocs ว่า “มิ้นท์เป็นคนที่ไม่เคยคิดจะใส่ Crocs กับลุคแฟชั่นมาก่อน แต่พอได้มาถ่ายวันนี้เลยได้เห็นว่า Crocs มีดีไซน์แบบนี้ด้วย ทำให้ได้เห็นมุมใหม่ๆ โดยเฉพาะตรงที่มันทำให้ลุคดูแฟชั่น ดูสนุกขึ้น โดยเฉพาะเวลาสไตลิ่งถุงน่องหรือถุงเท้าเข้าไป มิ้นท์ชอบไอเท็มที่ personalisation
ได้อยู่แล้ว ก็เลยยิ่งรักตัว Jibbitz ที่เอาไว้ตกแต่งรองเท้าเพื่อแสดงความเป็นตัวเองมากๆ เลยค่ะ”

“ปกติมิ้นท์ไม่ค่อยใส่รองเท้าสูงขนาดนี้เพราะเป็นคนตัวสูงอยู่แล้วค่ะ
แต่พอใส่แล้วรู้สึกสบาย เพราะส้นแข็งแรงและมั่นคง เลยไม่ต้องเกร็งเท้าจนเหนื่อย ใส่ได้ทั้งวันและไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะทำงานและไปเที่ยวพักผ่อน โดยยังเป็นตัวของตัวเองได้เหมือนที่แบรนด์บอกว่า Come As You Are ด้วยค่ะ”

ความทรงจำสุดพิเศษ 

ท่ามกลางความทรงจำมากมาย เธอยกให้ความทรงจำกับแฟนๆ เป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด ‘CatBit’ คือชื่อแฟนด้อมที่เกิดจากการผสมคำว่า แมวและกระต่าย เข้าด้วยกัน “เป็นชื่อที่แฟนๆ ช่วยกันตั้งมาเพราะทุกคนคิดว่ามิ้นท์เหมือนแมว ไม่ก็กระต่าย ที่บ้านก็เลี้ยงแมวกับกระต่ายอยู่แล้วด้วยค่ะ

“จริงๆ มีหลายอย่างค่ะ แต่ถ้าเด่นๆ เลยก็คือความทรงจําเกี่ยวกับ CatBit ค่ะ ซึ่งเป็นชื่อด้อมแฟนคลับที่เพิ่งได้มาไม่นาน เราไม่เคยได้รับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันเป็นแรงอะไรหลายอย่างให้เราในการทํางาน เหมือนเรามีหน้าที่ทํางาน สร้างผลงานออกมา แล้วพอมีคนคอยซัพพอร์ตโดยที่เขาอาจจะไม่เคยเจอหรือรู้จักเรามาก่อน แต่ก็รักเราเหมือนครอบครัวคนหนึ่ง เป็นสิ่งที่น่ารักมากๆ แล้วก็เป็นแรงผลักดันให้เราได้มากจริงๆ มันซึ้งใจมากๆ อยากบอกรักและขอบคุณทุกคน มิ้นท์รับรู้ถึงความรักที่ทุกคนมอบให้ตลอด และจะพัฒนาผลงานให้ดีขึ้น ให้ทุกคนภูมิใจค่ะ” 

ก้าวต่อไปและสิ่งที่ได้เรียนรู้ 

หลังจากนี้เรายังจะได้เห็นเธอโลดแล่นอยู่ในจอผ่านผลงานเรื่องใหม่ที่น่าติดตาม ทั้ง ‘โทษฐานที่รักเธอ’ รวมถึงเรื่องที่กำลังถ่ายทำอย่าง ‘เมื่อตะวันลับฟ้า (ก็จะเป็นเวลาของดวงดาว)’ “ในด้านการแสดง มิ้นท์อยากลองเล่น
บทบาทใหม่ๆ ที่ท้าทายมากขึ้น เปิดรับทุกแนวค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากลองทำหลายๆ อย่างค่ะ ตอนนี้สนใจทางด้านแฟชั่นด้วย ก็คงควบคู่กันไป” 

มิ้นท์ยังบอกด้วยว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวัยนี้คือ ทุกอย่างไม่จีรังแล้วก็ไม่ยั่งยืน สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดและอยากจะโฟกัสก็คือการรักตัวเอง รักครอบครัวและคนรอบข้างที่รักเรา “สำหรับวันนี้ มิ้นท์ก็ยังคงเป็นมิ้นท์แบบนี้ ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนก็อยากจะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ”


Photographer: Pannatat Aengchuan 

Videographer: Panlit Voravutvityaruk

Stylist: Mile Supakasem 

Models: Ranchrawee Uakoolwarawat & Kongthap Peak

Make Up (Mint): Somsalid seethonsa

Hair (Mint) : Kant khamsukpiam 

Make Up (Peak): Sataporn Suebjaktree 

Hair (Peak) : Tiyanon kamtawai

Photo Assistants: Nuttapon Mansukphol & Tawin Manajit 

Video Assistant: Suradit laorsittipirom

Stylist Assistants: Sudarat Sa-ardkhaw & Thitigorn Homhual

Other Articles