เส้นทางระหว่าง Sarah Burton และ Alexander McQueen เป็นหนึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นยุคใหม่ ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างดีไซเนอร์ระดับตำนานและศิษย์ที่เขาฝึกฝน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของแบรนด์ที่ฝังรากลึกอยู่ในความคิดสร้างสรรค์ งานฝีมือ และการเล่าเรื่องราวทางอารมณ์ อีกทั้งยังมีเส้นขนานในเส้นทางอาชีพทั้งในฐานะลูกศิษย์เเละผู้สืบทอด
ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่ความร่วมมือทางอาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งต่อจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เมื่อ Burton ได้สานต่อการสร้างสรรค์ให้กับแบรนด์ Alexander McQueen หลังจากการจากไปของ McQueen ในขณะเดียวกันก็เพิ่มเสียงและสไตล์เฉพาะตัวของเธอเข้าไป
Central Saint Martins
เส้นทางของ Sarah Burton กับ Alexander McQueen เริ่มต้นขึ้นระหว่างที่เธอศึกษาอยู่ที่ Central Saint Martins หนึ่งในโรงเรียนแฟชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเเละเป็นโรงเรียนที่ Alexander Mcqueen เคยศึกษาในปี 1992 Sarah Burton ได้มีโอกาสฝึกงานที่สตูดิโอของ McQueen ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทางอาชีพที่ยาวนานกว่าทศวรรษ McQueen ได้ถ่ายทอดในเรื่องของรายละเอียดของงานฝีมือ การออกแบบที่มีเอกลักษณ์ การนำเสนอผลงานแฟชั่นที่โดดเด่น และความสามารถในการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและศิลปะให้เเก่ Burton
ในปี 2000 Burton ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ซึ่งทำให้เธอได้ทำงานใกล้ชิดกับ McQueen ในการสร้างสรรค์ผลงานคอลเลกชั่นที่เป็นตำนานหลายคอลเลกชั่น การฝึกงานในช่วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการหล่อหลอมวิสัยทัศน์ทางความคิดสร้างสรรค์ของ Burton เพราะเธอได้เรียนรู้การออกแบบที่เปี่ยมด้วยความอิสระเเละสร้างสรรค์ของ McQueen พร้อมทั้งพัฒนาทักษะของเธอภายใต้การชี้แนะของเขา
Creative Director
การจากไปของ McQueen อย่างกะทันหันในปี 2010 ได้ทิ้งช่องว่างขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ หลายคนตั้งคำถามว่าแบรนด์จะดำเนินต่อไปอย่างไรหากไม่มีผู้ก่อตั้งผู้มองการณ์ไกล หลังจากเสาะหาผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์มาซักพัก Sarah Burton ซึ่งทำงานเคียงข้าง McQueen มานานถึง 14 ปี ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการสืบทอดงานต่อจากเขาในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ Alexander McQueen ในเดือนพฤษภาคม ปี 2010
การเปลี่ยนผ่านของ Burton สู่บทบาทนี้เป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากเธอมีความเข้าใจลึกซึ้งในด้านวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ของ McQueen การแต่งตั้ง Burton จึงไม่ได้หมายถึงการแทนที่ McQueen แต่เป็นการสานต่อมรดกของเขาในวิธีที่เคารพจิตวิญญาณของเขา ขณะเดียวกันก็ยังสอดเเทรกการออกเเบบอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเธอเอง อย่างเช่น ชุดแต่งงานให้กับ Catherine Middleton ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ในปี 2011 ชุดนี้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากการผสมผสานระหว่างความเป็นดั้งเดิมและความทันสมัย และยังช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับ Burton ในฐานะผู้สืบทอดงานของ McQueen ที่คู่ควร
Collection
แม้ว่าผลงานของ Sarah Burton ที่ Alexander McQueen จะได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากช่วงเวลาที่เธอทำงานเคียงข้างผู้ก่อตั้งแบรนด์ เธอก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้เติบโตขึ้นเช่นกัน การออกแบบของ McQueen มักจะมีลักษณะเป็นการท้าทาย เต็มไปด้วยความมืดมน เเละความดราม่า แต่ Burton ได้นำความอ่อนโยนและความโรแมนติกมาใส่ในแบรนด์มากขึ้น คอลเลกชั่นของเธอยังคงรักษาความล้ำสมัยที่ McQueen เป็นที่รู้จัก แต่เน้นไปที่ธีมของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และความงดงามของงานฝีมือมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น คอลเลกชั่น Plato’s Atlantis ของ McQueen เขาได้สำรวจธีมเกี่ยวกับการวิวัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์ต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมของโลกใต้น้ำ ในส่วนของคอลเลกชั่น Spring/Summer 2012 ของ Burton เน้นไปที่ความงดงามและความเปราะบางของโลกท้องทะเละ ทั้งสองคอลเลกชั่นสะท้อนถึงความหลงใหลในรูปทรงและความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
Givenchy
ในเดือนกันยายน ปี 2024 Sarah Burton ขึ้นตำเเหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนล่าสุดของ Givenchy หลังจากที่ตำเเหน่งของเเบรนด์ว่างมาเกือบร่วมปี โดยข่าวดีครั้งนี้ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาการทำงานของ Alexander McQueen ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Givenchy ระหว่างปี 1996 ถึง 2001 โดยเขาเป็นที่รู้จักในด้านสไตล์ Avant Garde เเละต้องเผชิญกับความท้าทายในการผสานความเป็นเอกลักษณ์ของเขาเข้ากับความสง่างามเเบบดั้งเดิมของ Givenchy แม้ว่าเขาจะต้องเจอความยากลำบากในช่วงแรกๆ แต่วิธีการที่สร้างสรรค์ของเขาก็ทิ้งร่องรอยอันทรงพลังไว้ที่แบรนด์นี้
อ่านบทความเพิ่มเติม:
[LOF’s REWIND] Alexander McQueen’s Savage Beauty Exhibition
The Anatomy of Alexander McQueen คอลเลกชั่น Autumn/Winter 2023
Sarah Burton ขึ้นแท่นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Givenchy