ห้องสมุด จรวด ภูเขาน้ำแข็ง ทะเล นี่เป็นภาพจำของรันเวย์สุดอลังการและน่าประทับใจรันเวย์แฟชั่นโชว์ของแฟชั่นเฮ้าล์ระดับโลกอย่าง Chanel เชื่อว่าสาวกแฟชั่นหลายคนคงชื่นชอบความใหญ่ทั้งทางองค์ประกอบศิลป์ที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมและทั้งทางแนวคิดและแรงบันดาลในการสร้างโชว์อย่างนามธรรมของโชว์ในแต่ละครั้ง แต่ใดๆก็ตามเราจะหาสถานที่ที่ใหญ่พอ ที่จะรองรับทั้งฉากหลังอันมโหฬารและไอเดียที่ไร้ขีดจำกัดนี่ได้อย่างไรใน กรุงปารีส ถ้าไม่ใช่ที่ Grand Palais แห่งนี้ แต่ที่นี้เป็นมากกว่าอาคารใหญ่จัดแสดงงาน แต่ที่นี้ยังฝังรากความสัมพันธ์อันดีกับชาเนลตลอดมา
กร็องด์ปาเลส์ คือที่ไหน?
กร็องด์ปาเลส์ คือสถานที่จัดแสดงนิทรรศการ สร้างขึ้นภายหลังจากการรื้ออาคาร Palais de l’Industrie เพื่อเตรียมการจัดงาน Universal Exposition of 1900 ซึ่งเป็นงานนิทรรศการโลกในปีค.ศ.1900 อาคารหลังนี้มีอายุร่วม 120 ปีแล้วเรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกกรมที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ กรุงปารีสและถือเป็นหนึ่งสถานที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส
ในแง่ของสถาปัตกรรมกร็องด์ปาเลส์อาคารหลังนี้ถูกสร้างในสถาปัตกรรมสไตล์ Beaux-Arts นี้ถือสถาปัตยกรรมแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1936 หลังจากที่ Crystal Palace ที่ตั้งอยู่ใน London ถูกทำลายจากไฟไหม้ลง ในส่วนของโดมทำจากโครงเหล็กและแก้ว ด้วยความสูงและโปร่งของอาคารขนาดใหญ่ทำให้เรื่องได้พื้นที่ใช้สอยเป้นเริ่ด โดยเฉพาะจุดประสงค์ที่มีเพื่อให้ได้ ‘แสงสว่างธรรมชาติ’ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในอาคารนิทรรศการในยุคก่อนที่เราจะมีไฟฟ้าใช้เพื่อให้แสงสว่าง
เป็นเรื่องธรรมดาที่อาคารที่สร้างมากกว่าศตวรรษ จะมีปัญหาหรือชำรุดทรุดโทรมอยู่บ้าง จากที่ใครๆก็ทราบอยู่ว่า กร็องด์ปาเลส์ถูกปิดปรับปรุงอยู่แล้วกำลังจะเปิดในอีกไม่ช้านี้ แต่นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ที่ปิดปรับปรุงใหญ่แต่เคยถูกปิดปรับปรุงเป็นเวลากว่า 10 ปี เนื่องจากอุบัติเหตุกระจกหลังคาตกลงมาในปี ค.ศ. 1993 ก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการได้ส่วนหนึ่งใน ในปี ค.ศ. 2004 ในปัจจุบันกร็องด์ปาเลส์ยังเป็นที่ตั้งของสถานีตำรวจในชั้นใต้ดินนอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของนิทรรศการต่างๆและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ หรือเรียกว่า Palais de la Découverte
Grand Palais Éphémère และ Grand Palais ต่างกันอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปว่าสถานที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ถูกปิดเพื่อรักษาตัวอยู่ จึงเกิดเป็น Grand Palais Éphémère ที่ออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า Jean-Michel Wilmotte ในเมื่อมันชื่อมันคล้ายกัน แต่มันต่างกันอย่างไรกัน แต่อาคารแห่งนี้เป็นอาคารชั่วคราวบน Champ-de-Mars สร้างบนพื้นฐานแนวคิดการออกแบบที่รับรองด้านสิ่งแวดล้อม โดยเปิดมาตั้งแต่ 2021 โดยมีวัตถุประสงค์คือเพื่อเป็นรับรองจัดนิทรรศการในขณะที่กร็องด์ปาเลส์กำลังปรับปรุง
เพื่อตอบสนองความต้องการโครงสร้างน้ำหนักเบา วัสดุอย่าง’ไม้’ จึงถูกเลือกให้เป็นโครงสร้างอาคารชั่วคราวนี้ ในแต่ละส่วนต่างๆ ของโครงสร้างทั้งหมดถูกประกอบไว้ล่วงหน้าในเวิร์คช็อป ซึ่งช่วยให้ประกอบหน้างานเร็วขึ้นและรบกวนผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นน้อยลง Grand Palais Ephémère ยังมีวัสดุคอนกรีตและกระจกเพียวความแข็งแรงและสวยงามเช่นกัน โชว์ของ Chanel ที่ได้จัดที่นี้คือคอลเลกชั่น Fall-Winter 2024/25 เป็นต้น
Photo Cr. Launchmetrics/Spotlight
ความสัมพันธ์ ชาเนล กับ กร็องด์ปาเลส์
หากพูดถึงแฟชั่นโชว์ของชาเนลตั้งแต่ปี 2005 สาวกแฟชั่นอาจจะนึกถึง’ความอลังการ’ ไม่ว่าจะเป็นการเนรมิตภูเขาน้ำแข็งของจริงสูงกว่า 9 เมตร น้ำหนัก 250 ตัน ในโชว์คอลเลกชั่น Fall/Winter 2010 หรือจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตสุดเก๋ในโชว์คอลเลกชั่น Fall/Winter 2014
Photo Cr. Launchmetrics/Spotlight
ทั้งหมดนี้ ล้วนย้ำชัดได้ดีถึงความผูกพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างชาเนลกับกร็องด์ปาเลส์จนกลายเป็นจุดตั้งต้นให้ทางแบรนด์ตัดสินใจทุ่มงบกว่า 25 ล้านยูโรเพื่อร่วมโปรเจกต์ บูรณะ ปรับปรุงโครงสร้างอาคารหลังประวัติศาสตร์แห่งนี้ให้กลับมาสวยงามอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งมีแผนเริ่มปิดทำการตั้งแต่ปลายปี 2020 เพื่อให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2024 สำหรับเตรียมต้อนรับแขกเหรื่อจากทั่วโลกที่จะมาเวียนในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 2024
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2024 นี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron (เอ็มมานู เอล มาครง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม Rachida Dati (ราชิดา ดาติ) ได้เยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้าง กร็องด์ปาเลส์ ณ กรุงปารีส พร้อมด้วย ประธานสํานักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กร็องด์ปาเลส์ อย่าง Didier Fusillier (ดิดิเย ฟูซิลิเย) พร้อมด้วยประธานแผนกแฟชั่นของชาเนล Bruno Pavlovsky (บรูโน ปาฟโลฟสกี) และประธาน CHANEL SAS เข้าร่วมด้วย
การเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างโดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสนี้ถือเป็นเกียรติและเป็นการเน้นยํ้าถึงความเชี่ยวชาญและพลังที่ขับเคลือนโดยแรงงานหลายพันชีวิตที่ร่วมมือกันบูรณะและยกระดับหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่งดงามที่สุดในยุโรปเพื่อรับรองถึงการดํารงอยู่อย่างต่อเนื่องในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเดิมได้ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อการจัดงานนิทรรศการโลกปี 1900
Chanel ในฐานะผู้อุปถัมภ์ตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพียงผู้เดียวของกร็องด์ปาเลส์มาตั้งแต่ปี 2018 มีความมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนในระยะยาวต่อโครงการบูรณะพิเศษของกร็องด์ปาเลส์ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นในการรักษาอัญมณีทางสถาปัตยกรรมแห่งนี้ และตั้งเป้าว่าจะดําเนินการแล้วเสร็จในปี 2025 และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งบางส่วนในปี 2024 เพื่อจัดมหกรรมกีฬา ‘โอลิมปิก’ ณ กรุงปารีสและการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก
“โครงการที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนี้สะท้อนถึงความผูกพันของชาเนลที่มีต่อกร็องด์ปาเลส์” Bruno Pavlovsky เน้นยํ้า “นับตั้งแต่ปี 2005 สถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่สุดพิเศษในการจัดโชว์โอต์กูตูร์และโชว์เสือผ้าแฟชั่นต่างๆ มากมายของ CHANEL ที่แห่งนี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แลนด์มาร์กของกรุงปารีส แต่เป็นแหล่งที่มาสําคัญของแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งที่การันตีที่ความสัมพันธ์อันดีงามของชาเนลและกร็องด์ปาเลส์คือประตูสู่ส่วนกลางของอาคารได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่าประตูทางเข้า “Gabrielle Chanel” นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมุ่งมั่นที่จะสานต่อแนวทางในการให้การสนับสนุนอิทธิพลทางวัฒนธรรมและศิลปะของปารีสต่อไป
“ณ บัดนี้ ชื่อของ Chanel ได้จารึกลงในประวัติศาสตร์ของกร็องด์ปาเลส์และด้วยชื่อนี้เรากําลังยกย่องให้เกียรติบรรดาผู้อํานวยการฝ่ายศิลป์ของแบรนด์นั่นคือ Karl Lagerfeld และ Virginie Viard ณ สถานที่สําคัญแห่งนี้และนํามาซึ่งชื่อเสียงระดับโลกของกร็องด์ปาเลส์กล่าวได้ว่าแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมและผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการเฉลิมฉลอง ณ กร็องด์ปาเลส์นับตั้งแต่แรกเริ่ม” Didier Fusillier กล่าว
ปัจจุบันในฐานะผู้อุปถัมภ์แต่เพียงผู้เดียวของ Grand Palais มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2018 CHANEL จึงได้ต่ออายุพันธะสัญญาต่อ Grand Palais เป็นเวลา 5 ปีในฐานะผู้อุปถัมภ์โครงการทางวัฒนธรรมและศิลปะของ Grand Palais ผ่านกองทุนบริจาค Grand Palais โดยการเพิ่มการสนับสนุนเป็นทุนมูลค่า 30 ล้านยูโรเพื่อส่งเสริมโครงการศิลปะและวัฒนธรรมของ GrandPalaisRmn สำหรับปี 2024 ถึง 2028 ดังนั้น CHANEL จึงกลายเป็นผู้อุปถัมภ์หลักของ Grand Palais ไปโดยปริยาย
“Grand Palais เป็นสถานที่และกลไกหนึ่งที่น่าทึ่งในการสร้างความฝันสำหรับเรา มันคือหนึ่งในสถานที่ที่เป็นตัวแทนของเมซง ในลักษณะเดียวกับถนน Rue Cambon หรือ Place Vendôme” Bruno Pavlovsky ประธานของ CHANEL Fashion กล่าว “เรารู้สึกภูมิใจที่ได้สานต่อความมุ่งมั่นของเราต่อผู้มีบทบาททางวัฒนธรรมที่สำคัญในเมืองหลวงแห่งนี้ การเปลี่ยนแปลงของกร็องด์ปาเลส์จะมีผลอย่างมากต่ออิทธิพลของปารีสและฝรั่งเศส เช่นเดียวกับหอไอเฟล Grand Palais จะคงอยู่ชั่วกาลนานหลายศตวรรษ”
“หนึ่งศตวรรษหลังจากสร้างเสร็จเพื่อจัดแสดงในงานนิทรรศการสากลในปี 1900 Grand Palais กำลังเตรียมเผยโฉมความยิ่งใหญ่ในอดีต โดยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการบูรณะที่นำโดยช่างฝีมือเฉพาะทางและกรรมกรก่อสร้างที่มีทักษะสูงหลายพันคน” Didier Fusillier ประธาน GrandPalaisRmn กล่าว
“ภายใต้กรอบโลหะสีเขียวและผนังที่ทาสีขาวครีม Grand Palais ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้รับมือกับความท้าทายด้านการอนุรักษ์และการดำเนินงานในปัจจุบัน และกำลังเตรียมพร้อมที่จะเริ่มบทใหม่ในประวัติศาสตร์ ที่จะส่งเสริมในแง่ของโปรแกรมที่สร้างสรรค์นี้จะครอบคลุมถึงงานศิลปะชั้นสูง ศิลปะร่วมสมัย เทศกาลต่างๆ และการแสดงสดต่างๆ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางชาเนลได้ให้การสนับสนุนและพัฒนาแวดวงศิลปะ ผ่านการให้ความช่วยเหลือบูรณะอาคาร”
ในอนาคต Grand Palais จะมีติดตั้งม่านขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดย Studio MTX (หนึ่งในแผนกงานปักภายใต้สตูดิโออย่าง Montex) เพื่อทำให้พื้นที่ส่วนกลางนี้สามารถปรับให้เหมาะกับงานต่างๆ ได้หลากหลาย โดยม่านดังนี้จะมีสาธิตการทำระหว่างเวิร์กช็อปที่เปิดให้ทุกคนเข้าร่วมได้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ La Galerie du 19M Paris/Aubervilliers ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยมี Maisons d’art อื่นๆในฝรั่งเศสเข้าร่วม ณ Le19M เช่นกัน
Le19M คืออะไร
Le19M (เลอ ดิซ์ เนิฟ แฟม) คือออฟฟิศใหม่ของเหล่าช่างฝีมือที่ทางชาเนลได้อุปถัมภ์คุณค่าของงานฝีมือเก่าแก่ของฝรั่งเศสและประเทศต่างๆ รวมกว่า 38 แห่ง เพื่ออนุรักษ์งานฝีมืออายุกว่าร้อยปีไม่ให้ต้องสูญหายไป โดยอาคารตั้งอยู่ที่โอแบร์วิลลิเยร์ หรือเขต 19 ของปารีส โดยชื่อมาจาก 19 คือวันเกิดของ Coco Chanel และ M หมายถึง Mains (แม็งส์) หมายถึง มือ หรือ Métier (เมติเยร์) หมายถึง งานฝีมือ นั้นเอง นอกจากนี้ Le19M ยังถือเป็นโรงเรียนสอนงานฝีมือและเป็นศูนย์กลางงานคราฟต์แฟชั่นด้วยเช่นกัน
ด้วยมรดกและการสร้างสรรค์ที่เป็นหัวใจสำคัญ Le 19M อุทิศตนเพื่อการถ่ายทอดแฟชั่นและการตกแต่ง Métiers d’art โดยเปิดตัวในเดือนมกราคม 2022 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของนโยบายการอนุรักษ์ความรู้ที่ริเริ่มโดยชาเนล ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 เช่นเดียวกับการอุปถัมภ์ Palais Galliera และ Opéra national de Paris การสนับสนุน Grand Palais แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของชาเนลในการส่งเสริมวัฒนธรรมและศิลปะของปารีสและสถาบันต่างๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
– เมื่อ ‘อายุและรสนิยมทางเพศ’ ไม่ได้เป็นข้อกำหนดของ Gabriel Attal นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส
– 7 สิ่งที่น่าจดจำจากแฟชั่นโชว์ Chanel Spring-Summer 2022
– เหตุใดชาเนลจึงทุ่มงบ 25 ล้านยูโร! เพื่อบูรณะกร็องด์ปาเลส์อาคารประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส