
ผลงานศิลปะของ Daniel Arsham มีความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องของเวลา สำหรับศิลปินอเมริกันผู้นี้ เวลาของเขาไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง แต่กลับผกผันไปมาระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ด้วยความหลงใหลที่เขามีต่อโบราณคดี ประติมากรรมที่เขาสร้างจึงดูเหมือนโบราณวัตถุที่ถูกขุดพบ แต่ก็ยากที่บ่งชี้ว่าเป็นวัตถุจากยุคไหนกันแน่ เพราะมันผสมปนเปกันไปหมด ระหว่างรูปปั้นเทพีกรีกที่ผุพังและมีคริสตัลงอกออกมา หรือประติมากรรมครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ที่ดูราวกับมาจากอานิเมะ รวมถึงรถยนตร์อันทันสมัยและคาแร็กเตอร์ในป็อปคัลเจอร์แต่กลับผลิตด้วยวัสดุอย่างบรอนซ์ที่ดูเหมือนผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนเคลือบด้วยพาทิน่าสีเขียว
อาร์แชมเกิดเมื่อปี 1980 ที่คลีฟแลนด์ และเติบโตที่ไมอามี่ เขาก้าวเข้าสูาวงการศิลปะมากว่า 20 ปีแล้ว “มันใช้เวลาเยอะน่ะครับ” คือคำแนะนำที่เขามอบให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นศิลปิน… ก่อนจะเป็นศิลปินดัง เขาย้ายเรียนที่ Cooper Union ในนิวยอร์ก แม้ช่วงหนึ่ง เขาจะย้ายไปอยู่ทีไมอามี่เพราะค่าครองชีพถูกกว่า แต่ในที่สวุดเขาก็ตัดสินใจมาประจำประจำที่นิวยอร์กเพราะอยากรายล้อมด้วยอาร์ตซีนและเดินบนเส้นทางศิลปะอย่างจริงจัง
ผลงานศิลปะร่วมสมัยของอาร์แชมได้รับเลือกจัดแสดงในแกลเลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์ระดับโลกมากมาย (นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกเของเขามีชื่อว่า Unearthed ซึ่งยจัดขึ้นที่ Konig Galerie ในเบอร์ลินเมื่อปี 2021) รวมถึงในงานเทศกาลศิลปะเวนิซเบียนนาเล่ล่าสุดด้วย นอกจากประติมากรรมและอินสตอลเลชั่นแล้ว เขายังสเก็ตช์ วาดภาพ รวมถึงถ่ายภาพ (โดยเขาเพิ่งจัดนิทรรศการรวมภาพถ่ายครั้งแรกของเขาไปที่นิวยอร์ก)
นอกจากนั้นแล้ว หลายคนก็อาจจะรู้จักเขาผ่านผลงานการคอลแลบกับแบรนด์ดังต่างๆ ทั้ง Tiffany & Co, Dior, Hublot, adidas, Rimowa ไปจนถึงแบรนด์รถยนต์อย่าง Porsche แบรนด์สินค้าบริโภคอย่าง Heinz ไปจนถึงคาแร็กเตอร์อันโด่งดังของโลกป็อปคัลเจอร์อย่าง Pokemon… กล่าวได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในศิลปืนร่วมสมัยที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในศตวรรษที่ 21 ไม่ต่างจาก Jefff Koons หรือ Takashi Murakami ก็คงได้ … “ที่ผมมาเป็นศิลปินเพราะจะได้ไม่ต้องพูด” คือวาทะที่เชาโพสต์ไว้ในอินสตาแกรม แต่ดูเหมือนว่าเเมื่อเขายิ่งดัง ก็ยิ่งต้องพูดเพื่อสื่อสารและอธิบายผลงานของตัวเอง
“ทุกครั้งที่ผมสร้างผลงานใหม่ในสตูดิโอ มันยากที่จะเดาว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น ทุกผลงานใหม่จึงเป็นผลงานโปรดของผม” อาร์แชม พลิกโฉมวัตถุธรรมดาให้กลายเป็นผลงานเหนือความคาดหมาย ผลงานของเขาไม่เพียงแค่ตั้งอยู่ในพื้นที่ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งเดียวกับสถานที่จัดแสดงราวกับว่าห้องโถงและผนังกำแพงมีชีวิตชีวา เมื่อสถาปัตยกรรมผสานเป็นหนึ่งกับผลงานศิลปะอย่างลงตัว
นิทรรศการ BANGKOK 3024 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง 10 ปีของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ถือเป็นนิทรรศการแรกของเขาในประเทศไทยไอเดียของนิทรรศการก็คือการเดินทางสำรวจอนาคตของวัฒนธรรม ความทรงจำ และอัตลักษณ์อันล้ำค่าพร้อมชวนตั้งคำถามถึงอนาคตของเรา ในห้วงเวลาอีก 1,000 ปีข้างหน้า
ภายในพื้นที่ชั้น G ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กำแพงสีขาว Excavation Walls ตั้งตระหง่านซ้อนกันเล่นระดับ สร้างมิติแปลกตา และมีร่องรอยการสึกกร่อนราวกับผ่านกาลเวลามานานนับปี บนทางเดินที่ทอดยาวตัดผ่านผนังสีขาว รายล้อมด้วยสวนเซน (Zen Garden) เต็มไปด้วยหินกรวดสีขาวตามความหลงใหลของอาร์แชม (เขาได้มีโอกาสทำงานที่ญี่ปุ่น และเริ่มหลงใหลในการทำสวนเซ็น) อีกทั้งเขายังเลือกใช้สีน้ำเงินที่โดดเด่น ทำให้เกิดเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงาม ชวนให้ผู้ชมเพลิดเพลินกับความงามเหนือกาลเวลา


ระหว่างทางเดินผ่านกำแพง มีผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ แดเนียล อาร์แชม จัดวางอยู่ 5 ชิ้น ซึ่งเปรียบได้กับ fictional archeology หรือโบราณคดีที่ถูกสมมติขึ้นมา ทั้ง ได้แก่ Stormtrooper: Amethyst Crystallized Figure (2023), Bronze Eroded Dog with Hat (2021), Bronze Eroded Delorean 1:3 (2021), Amalgamized Venus Italica (2022) และ Blue Calcite Crystallized Jumping Pikachu (2021) ผลงานแต่ละชิ้นดูเหมือนกำลังผุพัง ราวกับถูกกัดเซาะโดยกาลเวลา แต่ภายในกลับเผยให้เห็นคริสตัล ควอตซ์ อะเมธิสต์ และเหล็กขัดเงา


“โดยทั่วไปแล้ว การทำงานศิลปะคือการเรียนรู้และการทำความเข้าใจ งานเหล่านี้มันคือการพยายามเข้าใจบางอย่าง มันเหมือนกับการอ่านหนังสือ ถ้าถามว่าผลงานแต่ละชิ้นมีสารอะไรไหม ผมอยากบอกว่ามันไม่ได้มีสารหรือความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่อยากกระตุกใจให้ทุกคนได้คิดถึงความเชื่อมโยงที่เรามีต่อเวลา รวมถึงความทรงจำที่เรามีร่วมกัน”

สัมผัสประสบการณ์พิเศษจากการแสดงชุด ‘BANGKOK 3024’ ได้ที่ชั้น G และชั้น 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม – 14 กรกฎาคม 2567
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
ทำความรู้จัก Daniel Arsham ศิลปินหนุ่มผู้รังสรรค์ งานศิลปะแห่งศตวรรษที่ 31
HUBLOT ประกาศให้ Daniel Arsham เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมสร้างสรรค์งานศิลป์พิเศษ
TIFFANY & CO. X Daniel Arsham ตีความกล่องสีฟ้าซิกเนเจอร์และกำไล