Monday, June 16, 2025

‘Cancel Culture’ มีผลอย่างไรกับเส้นทางการแสดงของ ‘ฮันโซฮี’

ในสังคมเกาหลี การเป็นคนดังหรือบุคคลสาธารณะ ไม่ใช่แค่เรื่องความสามารถที่โดดเด่น และผลงานทางด้านวงการบันเทิงเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญเรื่องมาตรฐานทางศีลธรรม และการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม และศิลปินคนใดที่ไม่ตรงตามกับมาตรฐาน มักจะไม่ได้รับความนิยมจากสาธารณชน และอาจถูกวัฒนธรรม Cancel Culture ได้จากประเด็นต่างๆ เช่น ข่าวการบูลลี่ในโรงเรียน และบูลลี่เพื่อนร่วมวง การนอกใจ หรือแม้กระทั้งการกระทำที่ผิดกฏหมายต่างๆ ความคาดหวังของสังคมต่อศิลปินนั้นช่างสูงลิบ และจะเห็นข่าวการแบนและคว่ำบาตรอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งกรณีดราม่าของนักแสดงอย่าง ฮันโซฮี ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าพูดถึงเช่นกัน

ฮันโซฮี คือใคร?

ฮันโซฮี (Han So-hee) เป็นนางแบบและนักแสดงชาวเกาหลีใต้ เป็นที่รู้จักจากบทบาท ยอ ดา-คย็อง ในละครเรื่อง The World of the Married ในปี 2020 และบทบาทนำใน Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้ หน้าตาของเธอดูเหมือนจะเป็นสาวหวาน แต่เธอไม่ใช่นางเอกเรียบร้อยอ่อนหวานอย่างใด เธอมีเอกลักษณ์อย่างชัดเจนในความเป็นสาวแสบซ่า ทั้งรอยสักปลอม อดีตเคยสูบบุหรี่ โพสต์ภาพตัวเองเมาในโซเชียลจนได้เป็นพรีเซ้นของเครื่องดื่มยอดนิยมในเกาหลีแบรนด์หนึ่ง และด้วยเอกลักษณ์ของเธอเอง เธอจึงโดดเด่นอย่างยิ่งท่ามกลางนางเอกเกาหลีในปัจจุบัน

นอกจากความความฮอตของเธอยังไม่ได้หยุดแค่ในประเทศเกาหลี แต่ในระดับโลกเธอยังได้โอกาสในการถ่ายแคมเปญของแบรนด์ระดับโลกอย่างของ Balenciaga ร่วมกับ Bella Hadid นางแบบแถวหน้าของวงการแฟชั่น พร้อมทั้งยังไปปรากฎตัวในงานแฟชั่นโชว์ของ Dior คอลเลกชั่น Haute Couture Spring 2024 อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง:
รู้จักนักแสดงนำคุณภาพจาก GyeongSeong Creature

Cancel Culture คืออะไร

มีต้นกำเนิดมาจากคำสแลงค่อนข้างคลุมเครือ แต่ตรงตัวที่คำว่า “Cancel” หมายถึงการเลิกติดตามกับใครสักคน และต่อมาคำนี้ได้พัฒนาและได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดียในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วัฒนธรรมการแบน หรือ Cancel Culture จึงกลายเป็นแนวคิดที่เป็นวิธีที่คนหมู่มาก เรียกร้องคนดังที่เป็นประเด็นนั้นให้ต้องรับผิดชอบ ยุติการกระทำ หรือการลงโทษ นอกจากนี้ยังเป็นการทำให้การอับอายในที่สาธารณะ และซึ่งกลายมาเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับชาวเน็ตในการแก้ไขปัญหาการกระทำของผู้มีชื่อเสียงของโลกออนไลน์

คุณสมบัติหลักคือมูฟเมนต์หรือการกระทำที่อยู่ในโซเชียลมีเดีย การแบนมักจะทำให้ผู้มีชื่อเสียงรับรู้ถึงความเห็นของคนหมู่มาก โดย’การเลิกสนับสนุน’เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบและเปลี่ยนแปลงการกระทำ ซึ่งการกระทำนั้นอาจจะเป็นการกระทำหรือการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม ผิดศีลธรรม หรือผิดกฎหมาย ซี่งอาจเป็นภัยต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และว่าด้วยเรื่องของคนมีชื่อเสียง คงหนีไม่พ้น การเป็นแบบอย่าง หรือ Role Model ของสังคม ซึ่งหมายความว่าคนดังที่ถูกแบนนี้คือการกระทำของพวกเขาขัดต่อการมีภาพลักษณ์ที่ดีหรือเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมนั้นเอง

อย่างไรก็ตามความว่า’ดี’ มันชั่งเป็นคำที่มีความนามธรรมซะเหลือเกิน และขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้ความ ‘เป็นแบบอย่างที่ดี’ ในแต่ละยุคสมัยก็ไม่เหมือนกันอีก เพราะค่านิยมและความคิดของคนในสังคมถูกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเช่นกัน

เกิดอะไรขึ้นกับ ‘ฮันโซฮี’

เมื่อเดือนที่ผ่านมาขอยกกรณีของ’ฮันโซฮี’ ที่กลายเป็นประเด็นร้อนทันที เมื่อฮันโซฮีมีข่าวกำลังคบหาดูใจกับ’รยูจุนยอล’นักแสดงนำจากเรื่อง Reply 1988 และกรณีกับ ฮเยริ ผู้เป็นแฟนคนก่อนของนักแสดงชายที่ทั้งคู่พบรักกันตอนที่ทำงานด้วยกันในซีรีส์ดังเรื่อง Reply 1988 หลังจากที่รยูจุนยอลกับฮเยริปิดฉากความรักกว่า 8 ปีเมื่อช่วงต้นปี 2023 ซึ่งถือว่าเป็นคู่ขวัญที่ใครๆต่างก็เสียดายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ต้องจบลง หลังจากนั้นฝ่ายชายถึงได้มีข่าวว่าเริ่มคบหากับฮันโซฮี ซึ่งทำให้สองสาวได้ออกมาแขวะกันผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวตามที่เป็นข่าว จากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้หลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมากและต่างวิพากย์วิจารณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่าทั้งสองทำถูกแล้วหรอ สำหรับการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม รวมทั้งทางฝ่ายสาว ฮันโซฮี ที่ถูกชาวเน็ตมองว่าก้าวร้าวเกินไปในมุมองของสังคมที่ยังถือเรื่องความอาวุโส (seniority) เพราะฮเยริก็ค่อนข้างอายุมากกว่าเธอหลายปี

แต่เรื่องทุกอย่างก็จบลงด้วยล่าสุดมีรายงานว่า ฮันโซฮีและรยูจุนยอล ยุติความสัมพันธ์แล้วหลังเปิดเผยการเดตเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่ง C-Jes Studio ต้นสังกัดของหนุ่มรยูจุนยอลนั้นได้ยืนยันกับสำนักข่าวเกาหลีว่ายุติความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเรื่องจริง ส่วนทางด้าน 9Ato Entertainment ก็เพิ่งออกแถลงอีกครั้งถึงเหตุผลอย่างชัดเจนว่า ‘เขาทั้งสองจะไม่ใช้อารมณ์ไปกับเรื่องส่วนตัวอีกเพราะได้ตระหนักว่าบทบาทในการเป็นนักแสดงซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง’และทั้งฝั่งฮเยริและฮันโซฮีต่างก็ต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะที่ได้แสดงภาพลักษณ์ในแง่ลบออกไป แน่นอนว่าเรื่องความรักและความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคน แต่กับการเป็นคนมีชื่อเสียงหรือนักแสดงมันอาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างที่ควรจะเป็น เพราะการกระทำต่างๆย่อมถูกขยายด้วยอำนาจจากชื่อเสียงที่พวกเขามี และถูกจับตามองโดยสังคม เสมือนว่าชีวิตของพวกเขาคือ’แบบอย่าง’และมีผลต่อคนหมู่มาก ไม่เพียงแต่แค่ผลงานที่เขาแสดง

ดูเหมือนภาพลักษณ์ความเป็น Cool Girl จะขัดต่อขนบความเป็น Good Girl ของคนดังในเกาหลี อย่างไรก็ตามเธอก็ยังมีภาพของ Good Girl และการเป็นผู้มีชื่อเสียงที่ต้องเป็นดั่งผ้าขาวสะอาดตามที่บรรทัดฐานของสังคมเกาหลีใต้อยู่ไม่น้อย จากปูมหลังของเธอที่เติบโตมากับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ เธอจึงเป็นตัวแทนของคนที่ต่อสู้เพื่อชีวิตของเธอจนพ้นสถานะที่ต้องทนต่อความยากลำบากได้สำเร็จ นอกจากนี้ฉายา ‘พี่สาว’ สุดเท่ ไม่เป็นนางเอกสายหวานแต่เป็นนางเอกสายสตอง ก้ตกแฟนๆไปได้หลายคน แต่ในทางกลับกันก็ทำให้เธอมี Anti-fan ที่รอปฏิบัติการคว่ำบาตรกับเธอเนื่องจากเธอไม่ถูกต้องตามขนบเดิม

ใดๆก็ตาม ผนวกกับระยะหลังมานี้พฤติกรรมของเธอเป็นที่ถูกเพ่งเล็งในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างมากด้วยเช่นกัน กับกรณีที่เธอขึ้นเสียงใส่ใครสักคนในงานที่ส่งเสียงดังขณะที่เธอกำลังถ่ายรูปอยู่ในงานปาร์ตี้ของแบรนด์จิวเวลรีสัญชาติฝรั่งเศสแบรนด์หนึ่ง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดขั้นต้น นี่อาจจะเป็นอำนาจของการแบนก็เป็นไปได้ เพราะล่าสุดนี้เธอเพิ่งหลุดจากการเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์เครื่องดื่มดังกล่าวที่ไม่เคยเปลี่ยนพรีเซนเตอร์อย่างรวดเร็วทั้งยังมี NH Bank ที่ร่วมงานกับเธอตั้งแต่ปี 2021 ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับเธอ และ Hey Dealer แพลตฟอร์มขายรถยนต์มือสองก็หยุดการเผยแพร่โฆษณาที่มีเธอเช่นกัน

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา มีรายงานว่าแผนการยกการ์ตูนยอดนิยมในเว็บตูนอย่าง Delusion ที่มี รยูจุนยอล และ ฮันโซฮี เป็นนักแสดงนำในเรื่อง ทั้งสองได้ตัดสินใจยุติการพิจารณารับบทนำร่วมกันในซีรีส์ใหม่นี้แล้ว

C-JeS Studios ยังได้เปิดเผยว่า รยูจุนยอลอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพิจารณาใน Delusion และเป็นเรื่องจริงที่บริษัทผู้ผลิตขอให้ทางฝั่งรยูจุนยอลยุติการสนทนา เนื่องด้วยเหตุผลที่ไม่ควรสร้างความเสียหายให้กับโปรเจกท์ จึงรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้และตกลงที่จะระงับการตรวจสอบ

Delusion เป็นอีกเรื่องที่โด่งดังใน Webtoon ซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1935 ในเมืองเกียงซองและเซี่ยงไฮ้ช่วงปี 1800 เป็นเรื่องราวระทึกขวัญลึกลับของศิลปินยุนอิโฮที่ได้รับมอบหมายให้วาดภาพเหมือนของหญิงสาวลึกลับซงจองฮวาและเยี่ยมชมโรงแรมของเธอ โดยได้ผู้กำกับฮันแจริมจากภาพยนตร์เรื่อง “The Show Must Go On”, “The King” และ “Emergency Declaration” รับผิดชอบการทำโปรเจกท์นี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่กล่าวนี่ คือจุดเริ่มต้นของคำถามที่ว่าการที่ฮันโซฮีออกมาปกป้องตัวเองหรือการออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตัวเธอเองเช่นนี้ มันสมควรมีผลกระทบต่อการถูกโดนระงับและเลิกจ้างงานซึ่งมีผลต่อหน้าที่การงานของเธอหรือไม่ และทำไมตัวละครอื่นๆที่อยู่ในเรื่องนี้ถึงไม่ได้รับผลกระทบเท่ากับเธอโดยเฉพาะฝ่ายชาย

ในสื่อของเกาหลีใต้ ศิลปินและนักแสดง K-Pop หญิงมักเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากการแสดงความคิดเห็นเพื่อตัวเองหรือแม้กระทั่งการพูดถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศ เช่น ไอรีน วงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง Red Velvet ที่เคยออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง Kim Ji-young: Born 1982 ซึ่งเป็นนวนิยายสตรีนิยมที่พูดถึงความไม่เท่าเทียมทางเพศในแต่ละวันที่ผู้หญิงในเกาหลีใต้ต้องเผชิญเป็นผลให้เธอเผชิญกับการตอบโต้ครั้งใหญ่จากแฟนๆ ผู้ชายที่แสดงความโกรธและความผิดหวัง ในขณะที่ไอดอลชายก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือเช่นกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับกระแสตอบรับมากเท่ากับไอดอลหญิง

นอกจากนี้การที่คนเราจะมีความรักไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม สมบูรณ์แบบหรือไม่สมบูรณ์แบบ คู่ของเขาเหมาะสมกันหรือไม่เหมาะสมกัน ตราบใดที่เรื่องความรักของเขาไม่ได้เป็นเรื่องผิดศีลธรรม และเป็นคำถามว่าขอบเขตของเรื่อง’ความสัมพันธ์ส่วนตัว’ ของดาราและเซเลบริตี้อยู่ที่ตรงไหน และสังคมควรวิพากย์วิจารณ์ความรักที่ก่อตัวของพวกเขามากน้อยเพียงใด

บทความที่เกี่ยวข้อง:
เผยวิธีการดูแลตัวเองของ ‘ฮันโซฮี’ หรือ ‘ยูนาบี’ จากเรื่อง Nevertheless ครบเครื่องทั้งเรื่องหุ่นและผิวพรรณ
Han So-hee ขึ้นแท่นโกลบอลแอมบาสเดอร์ของแบรนด์จิวเวลรี่ Boucheron 
5 เหตุผลที่ต้องดูซีรีส์ MY NAME

Other Articles