
ตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา Chanel ได้ริเริ่มจัดโชว์พิเศษในทุกเดือนธันวาคม ณ เดสติเนชั่นนอกกรุงปารีส เพื่อนำเสนอคอลเลกชั่น Pre-Fall ภายใต้คอนเซ็ปต์ Métiers d’Art ที่แปลความหมายได้ว่า ศิลปะของความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ (“art professions”) เพื่อยกย่องช่างฝีมือ ที่มีส่วนร่วมในการรังสรรค์ชิ้นงานกับ CHANEL และวงการแฟชั่นของฝรั่งเศส อันสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยก่อนหน้านี้ CHANEL ได้จัดแสดง Métiers d’Art โชว์ตามเมืองที่เป็นศูนย์กลางสำคัญในการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น อาทิ ปารีส นิวยอร์ก โรม อินเดีย โตเกียว และเซี่ยงไฮ้



สำหรับ Métiers d’Art ในปี 2023 นี้ CHANEL เลือกที่จะจัดแฟชั่นโชว์ และแสดงนิทรรศการที่เมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) ประเทศอังกฤษ ภายใต้ชื่อนิทรรศการ ‘Manchestermodern: Past Present Future’ ที่เปิดให้กับแฟนๆได้เข้าชมในวันที่ 8-10 ธันวาคม ณ ตึก Victoria Baths ที่ตั้งอยู่บน Thomas Street
Thomas Street ถือเป็นหนึ่งในถนนที่ตั้งตึกเก่าแก่ที่ถูกสร้างในยุคสมัยศตวรรษที่ 18 และได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ภายใต้การอนุรักษ์ เพื่อเป็นการคงอยู่และระลึกถึงอุตสาหกรรมท่อผ้าที่เฟื่องฟูในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อปีศตวรรษที่ 19 (Industrial Revolution)
นิทรรศการ ‘Manchestermodern: Past Present Future’ ตั้งใจที่จะถ่ายทอดถึงความเชื่อมโยงของ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยให้ผู้เข้าชมได้ตีความบริบท ของทั้ง ความคิด และการริเริ่มไอเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความโมเดิร์น โดยที่ยังคงไว้ซึ่งความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนความคิด ตามแบบฉบับลักซ์ชัวรีแฟชั่น สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่สะท้อนให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อันเป็นก่อเกิดของความโดดเด่น และความเชี่ยวชาญในงานฝีมือ
ภายในนิทรรศการมีการจัดแสดงความเป็นมาของส่วนประกอบชิ้นต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ CHANEL นอกจากนี้ Virginie Viard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบันของ CHANEL ตั้งใจที่จะตีแผ่ด้านดนตรี ศิลปะ และงานวรรณกรรม ที่ถูกสร้างสรรค์โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ หรือที่เรียกกันว่า ‘แมนคูเนียน’ (Mancunian) เพื่อเป็นการสนับสนุนศิลปินท้องถิ่น ผ่านการนำเสนอในรูปแบบภาพ เสียง ตัวอักษร และกระดาษ เป็นต้น
คอลเลกชั่นนี้เชิดชูเทคนิคศิลปะการตัดเย็บชั้นสูงของเฮ้าส์หลักต่างๆ ณ ศูนย์ Le19M ไม่ว่าจะเป็น Lemarié, Lesage, Atelier Montex, Massaro, Lognon หรือ Maison Michel ใช้ผ้าทวีดซึ่งเป็นหัวใจหลัก ผสานเข้ากับสีสัน และกิมมิกต่างๆ ที่สะท้อนถึงความเป็นอังกฤษ
หลายคนอาจแปลกใจที่ CHANEL เลือกแมนเชสเตอร์เป็นสถานที่จัดงาน เนื่องจากภาพลักษณ์ของเมืองอาจไม่ได้สะท้อนภาพในอุดมคติของลักชัวรีแฟชั่นสักเท่าไหร่ แต่สำหรับวิร์จินี วิยาร์ด “แมนเชสเตอร์คือเมืองแห่งเสียงดนตรี ที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์” อีกทั้งเมืองนี้ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมผลิตผ้าฝ้าย และเป็นเมืองจุดเริ่มต้นของ Industrial Revolution ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Métiers d’Art ทำการจัดแสดงที่สหราชอาณาจักร เพราะในปี 2012 Métiers d’Art ได้ถูกจัดขึ้นที่เมืองเอดินบะระ (Edinburgh) มาแล้ว






นอกจากนี้ เมืองแมนเชสเตอร์ยังเป็นอีกหนึ่งจุดกำเนิดของนักดนตรีชื่อดังหลายท่าน อาทิ Joy Division, New Order, The Smiths และ Oasis เป็นต้น และด้วยความที่วิยาร์ด มีความคุ้นเคยและสนใจในด้านดนตรีเป็นทุนเดิม เธอจึงหยิบความมีชีวิตชีวาและสปิริตของดนตรีมาไว้ในคอลเลกชั่นนี้ ซึ่งจะเห็นได้จากชาร์มรูปทรงกีตาร์ และตัวโน๊ตดนตรี ที่ห้อยอยู่บนเครื่องประดับ หรือลวดลายแผ่นเสียงไวนิลที่อยู่บนชุด และ Viard ได้เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่กลิ่นอายของความเป็นอังกฤษ ทั้งลวดลายที่เป็นรูปถ้วยชา และดอกไม้ ถูกนำมาผสมร่วมกับผ้าทวีด (Tweed) ที่เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Gabrielle Coco
สำหรับปีหน้า เรามารอดูกันว่า CHANEL จะนำ Métiers d’Art คอลเลคชั่นไปจัดแสดงที่ไหนให้แฟนๆได้ติดตามกันอีก

