กันต์-กันต์ชนุตม์ เก่งการค้า ศิลปินเบอร์แรกของค่าย Wishs Entertainment แต่เขาไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการ ก่อนหน้านี้กันต์เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงที่เคยฝากผลงานทั้งซีรีส์ ละคร มิวสิกวิดีโอ ร้องเพลงประกอบละคร รวมถึงเป็นศิลปินดูโอ้ กันต์ในวันนี้เติบใหญ่เป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัว พร้อมปล่อยซิงเกิลแรก ‘DARK’ เผยให้ทุกคนเห็นความสามารถในด้านดนตรีที่เกิดจากแพสชั่นของเขา
ตัวจุดประกายเส้นทางดนตรี
“เริ่มตั้งแต่เด็กครับ ผมเคยหัดเล่นดนตรี จริงๆ ผมเป็นคนเก็บตัว แต่การได้เล่นดนตรี ได้ทำละครเวที มันทำให้เรามีจุดเชื่อมที่เข้ากับสังคมได้ ทำให้ชีวิต ม.ปลายของผมมีความสุข เป็นภาพความทรงจำที่ดีครับ แล้วก็ต่อยอดมาถึงทุกวันนี้ว่าเป็นสิ่งที่เราชอบทำ ชอบเขียนเพลงตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าจะไม่ได้ทำแล้ว แต่สุดท้ายรู้สึกว่ายังค้างคาใจอยู่ เลยอยากลองกลับมาทำให้มันรู้เรื่อง พอโตขึ้นจะได้รู้ว่าเราได้ทำแล้วนะ
“เมื่อก้าวเข้ามาทำก็ต้องจริงจัง เต็มที่กับมัน ผมไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ตอนแรกที่ตัดสินใจทำก็มีความรู้สึกกึ่งๆ กลัวด้วย กลัวความผิดหวังหรืออะไรก็ตาม แต่มันเป็นบททดสอบที่ชาเลนจ์ เราต้องกล้าทะลุความกลัว กล้าเผชิญหน้ากับบททดสอบทุกอย่าง เพราะคนเราพอโตแล้วมันจะมีบททดสอบอีกเยอะที่ต้องเจอ ผมรู้สึกว่าถ้าผ่านไปไม่ได้มันคงทำอะไรต่อยาก และเมื่อเลือกแล้ว เราก็จะทำให้เต็มที่ที่สุดครับ”
‘DARK ’ซิงเกิลแรกที่ใช้เวลาแต่งไม่นาน
“แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้มาจากเรื่องของเพื่อนครับ เขาเลิกกับแฟนและเล่าให้เราฟัง เป็นเรื่องของความรักที่เริ่มจากวัยรุ่นไปถึงวัยผู้ใหญ่ที่เริ่มมีความฝัน มีเป้าหมายชีวิต มีภาพที่เรามองไม่เหมือนกัน เลยทำให้ความรักไปต่อได้ยาก
“ตื่นเต้นนะครับ ไม่เหมือนตอนวัยรุ่นที่ทำเพลงแรกๆ คือมันจะตื่นเต้นในแบบที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แน่นอนว่าถ้าผลตอบรับดีก็ต้องดีใจ แต่ไม่ได้คาดหวังแบบโรแมนติกขนาดนั้น ผมแค่รู้สึกว่าการทำผลงานชิ้นหนึ่งออกมา มันไม่ใช่แค่ผลลัพธ์น่ะครับ ผมรู้สึกว่าถ้าเราเอ็นจอยตั้งแต่โมเมนต์ที่เริ่มกระบวนการ จนมาถึงวันที่ปล่อย ผลลัพธ์จะเป็นยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมว่าตัวผมทำได้ดีที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ ทีมงานทุกคนก็เต็มที่ แฮปปี้แล้วครับ”
หลงเสน่ห์ดนตรี
“ผมว่าดนตรีเป็นศาสตร์ที่ใช้ความรู้สึกเยอะ ถ้าพูดถึงรากฐานดนตรีเลยนะ แม้กระทั่งเพลงบรรเลงก็เป็นศิลปะที่เรามองไม่เห็น มันใช้สัมผัสอื่นในการฟังแล้วเกิดเป็นจินตนาการ ความรู้สึกบางอย่างอาจจะอธิบายเป็นภาพไม่ได้ ผมเลยรู้สึกว่าการฟังเพลงเป็นอะไรที่เหมือนอีกภาษาหนึ่ง เป็นภาษาทางผัสสะแล้วกันที่ผมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ อย่างศิลปะภาพวาดก็เหมือนกัน เป็นอีกภาษาหนึ่ง จากการที่เราเห็นสีแล้วรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เรื่องของตัวโน้ตก็พิเศษ เพราะมันจับต้องยาก ทำไมโน้ตเรียงกันสามสี่ตัวแล้วเกิดความรู้สึกแบบนี้ ผมว่านี่แหละเสน่ห์ของดนตรี
“ผมค่อนข้างฟังเพลงหลากหลายครับ บางวันก็ร็อก โซล แจ๊ซ อาร์แอนด์บี อัลเทอร์เนทีฟก็มีบ้าง ผมไม่ได้เจาะจงไปทางใดทางหนึ่ง เวลาแต่งเพลงก็เลยมีความผสมๆ กันอยู่ มีความเป็นร็อกนิดหน่อย แต่ในทางคอร์ดก็จะมีลูกเล่นที่ใส่ลงไป มีกลิ่นโซลเล็กๆ ในท่อนโซโล่”
ความท้าทายในฐานะศิลปินเบอร์แรก
“ในความรู้สึกผม สิ่งที่ท้าทายที่สุดก็คือตัวเอง ในแง่ความรู้สึกที่เราแบกไว้ ความท้าทายอาจหมายถึงว่าเพลงต่อไปจะเป็นยังไง เราทำงานแล้วยังจะชอบมันอยู่ไหม ผมมองว่าถ้าทำแล้วเราไม่ชอบก็คงไปต่อยาก ผมเลยคิดว่าความท้าทายอยู่ตรงนี้แหละว่าเราทำผลงานต่อไปแล้วยังสนุกกับมันแค่ไหน ซึ่งในพาร์ตการเป็นนักดนตรี เราอยากทำอะไรที่ท้าทายขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็คงค่อยๆ ไปตามสเต็ปตามครรลองของมัน และดูกระแสคนฟังด้วยครับ
“ว่าไปแล้วมันก็คือความกล้าที่เอาเพลงตัวเองแต่งไปให้คนอื่นได้ฟัง ได้วิจารณ์ หมายถึงก่อนที่คนฟังจะได้ฟังด้วย หมายถึงว่าแม้กระทั่งทีมงาน เป็นการทำเพลงที่ไม่เหมือนตอนเด็ก ตอนนั้นผมอาจจะมีอีโก้ มีอะไรส่วนตัวเยอะ อันนี้เหมือนการหาตรงกลาง หาจุดพอดีกับทุกคน เป็นความภูมิใจในแบบที่มันผ่านกระบวนการที่เราคิดมาแล้ว และคุยกับทีมงาน ยอมรับในความคิดเห็นของทีมงาน
“ถามว่าเป็นตัวเองที่สุดไหม ผมว่ามันเป็นการหาจุดร่วมกับทีมงาน กับคนฟังเพลง และกับตัวเอง เพราะคนทำเพลงทุกคนอยากให้คนฟังชอบอยู่แล้ว ทำเพลงออกมาก็คาดหวังให้มีผลตอบรับที่ดี ความภูมิใจของผมคือกระบวนการพวกนี้ เรากล้ากลับมาเผชิญกับมันอีกครั้ง ในเพลงที่เขียนเอง ในทำนองที่เขียนเอง มีคนช่วยให้มาถึงตรงนี้ คือความภูมิใจของผม”
โมเมนต์ดำดิ่ง
“เวลาแต่งเพลงผมชอบอยู่คนเดียว ค่อนข้างจะหมกตัว วิธีการแต่งของผม ถ้าไม่ใช่เนื้อหาของตัวเอง ผมจะใช้ความเป็นนักแสดงมาช่วยตรงนี้ด้วย ผมจะสมมติว่าเราเป็นตัวละครนั้น หรือเอาเรื่องราวของเพื่อนมาซึมเป็นตัวเองแล้วค่อยให้มันออกมา ผมเรียกมันว่าทฤษฎีร่างทรง เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อย่างเพลง DARK ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องของเพื่อน แต่สุดท้ายภาษาพูดหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่เราเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อื่นๆ ในชีวิต
“ผมว่าอาชีพศิลปินต้องใช้จิตวิญญาณ ซึ่งบางทีมันเป็นเรื่องภายในมากๆ แบบว่าฉันชอบสิ่งนี้ ฉันมีความสุขกับการเล่นสิ่งนี้ แต่เมื่อเราก้าวไปสู่คำว่าอาชีพ มันต้องมีการเสียสละ soul บางอย่าง ผมว่ามีทุกอาชีพแหละ ถ้าเราแยกแยะได้ว่าอันนี้คืองาน อันนี้คือสิ่งที่เราทำเพื่อ soul ผมว่ามันจะไปต่อได้ จนกระทั่งถึงวันที่เราสามารถสร้างพื้นที่ของเรา ใส่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในวันที่เราเลี้ยงชีพได้ด้วยจิตวิญญาณของเรา ผมว่ามันต้องค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็ต้องอะลุ้มอล่วยกัน”
อยากฝากอะไรมั้ยคะ
“ผมอยากขอบคุณทุกกำลังใจ จำได้ว่าตอนจะปล่อยเพลง แน่นอนในความกลัวหรือความลังเล ส่วนตัวมันมีอยู่แล้ว แต่พอได้เห็นกำลังใจของทุกคน ทั้งเพื่อนๆ แฟนคลับ รวมถึงพี่ๆ ทีมงาน ผมรู้สึกว่าเอาวะ ลองดูสักตั้งนึง รู้สึกว่ามันเป็นจุดร่วมที่เรามีกับเขา ไม่ว่าจะรุ่นน้องซึ่งปัจจุบันไม่ได้ทำงานด้านนี้แล้ว รู้สึกว่าเป็นความทรงจำร่วมกัน อยากจะขอบคุณทุกคนที่ทำให้เราได้กลับมาตรงนี้”
Photos: Courtesy of Wishs Entertainment
