Friday, December 1, 2023

Ludo Secret กับลูกเล่นซ่อนเวลาจาก Van Cleef & Arpels

Van Cleef & Arpels ยกระดับความโดดเด่นให้แก่ผลงานอันทรงแบบฉบับคอลเลกชัน Ludo ด้วยการปรับขนาดใหม่ให้กับนาฬิกาข้อมือทั้งสองรุ่น รวมถึงการใช้ลูกเล่นสีตัดระหว่างอัญมณีกับโลหะล้ำค่า จนเรียกได้ว่าเป็น A Jewel That Tells Time

Ludo เป็นนาฬิกาซีเคร็ตวอทช์ โดดเด่นด้วยลูกเล่นแบบซ่อนหน้าปัด มีแต่ผู้สวมใส่เท่านั้นที่จะดูเวลาได้ (ในอดีตการดูเวลาในที่สาธารณะเป็นเรื่องผิดมารยาท) นาฬิกา Ludo Secret ซึ่งผ่านการตีความและนำเสนอใหม่นี้สืบทอดเอกลักษณ์มาจากสร้อยข้อมือ Ludo ซึ่งเส้นแรกได้รับการสรรค์สร้างขึ้นเมื่อปี 1934 โดยตั้งชื่อตามชื่อเล่นของลูอิส อาร์เปลส์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเมซง ด้วยรูปทรงคล้ายเข็มขัดผู้ชาย ทำให้ Ludo กลายเป็นเครื่องประดับนำสมัยที่ถูกใจเหล่าสุภาพสตรีหัวขบถแห่งวงสังคมชั้นสูงในระหว่างทศวรรษ 1930 และครองความนิยมอย่างแพร่หลายนับแต่เปิดตัว

สำหรับปีนี้ Van Cleef & Arpels ได้ปรับขนาดใหม่และนำเสนอ Ludo Secret ออกมาสองรุ่น โดยยังคงเอกลักษณ์สายรัดที่มีโครงสร้างใยตาข่ายร้อยแผ่นโลหะทรงอิฐเหลี่ยมเรียงประกบกันอย่างต่อเนื่องเสมือนเส้นเข็มขัด ผสานการใช้ลูกเล่นสีตัดระหว่างอัญมณีกับโลหะล้ำค่า การฝังเพชร หรือแซฟไฟร์ชมพูลงบนตัวเรือนโรสโกลด์ ซึ่งนักอัญมณีศิลป์ของเมซงต้องใช้ทักษะความชำนาญในการจับคู่เทียบสีและน้ำเพชร โดยพิจารณาถึงระดับประกายสุกสว่าง และระดับความเข้มสีของแซฟไฟร์ชมพู 

“We wanted to revisit the LUDO because the idea of A SECRET WATCH integrated into A FINE JEWELLERY BRACELET was extremely APPEALING.”

– NICOLAS BOS, CEO OF VAN CLEEF & ARPELS –

นอกจากนั้น เมซงยังได้สร้างสรรค์ผลงานอันทรงเอกลักษณ์ชิ้นใหม่ โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากเครื่องประดับซ่อนเวลาลูโดสายคาดลายหกเหลี่ยมหรือ Ludo Hexagone Macaron secret watch (ลูโด เอ็กซากอน มาการง ซีเคร็ท วอทช์) เมื่อปี 1941 สำหรับผลงานรังสรรค์ใหม่รุ่นนี้ หน้าปัดบอกเวลาได้รับการปิดบังซ่อนไว้ภายใต้โมทิฟแผ่นโค้งฝังมรกตขึ้นตัวเรือนซ่อนหนามเตยเพื่อเร่งประกายเขียวสดล้ำลึก และด้วยลักษณะเฉพาะตัวของพลอยเนื้ออ่อนเลอค่า การเจียระไนให้ได้รูปทรง และสัดส่วนเพื่อตอบรับกับความซับซ้อนในเชิงโครงสร้าง จึงต้องอาศัยความพิถีพิถัน ละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูง รวมถึงขั้นตอนการสอดเม็ดพลอยลงร่องรางของโมทิฟสัณฐานโค้งต่ำ ซึ่งถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับงานฝังเพชรเรียวแถวเป็นวงซ้อนประกบส่วนหัว และท้ายล้อมกรอบตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนแถบสายคาด อันถอดแบบมาจากสร้อยข้อมือโครงตาข่ายร้อยแผ่นทองคำสีเหลืองทรงหกเหลี่ยมฝังมรกตรูปดาวตรงกึ่งกลาง

แน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้ก็คือ ความแยบคายในการบอกเวลา เพียงกดปุ่มทั้งสองกลไกฝังเพชร หรือแซฟไฟร์สีชมพูพร้อมกัน ก็จะเผยให้เห็นหน้าปัดมาเธอร์ออฟเพิร์ลสลักลายรัศมีตะวันกิโยเช่






Other Articles