หลังการเปิดตัวด้วยเวอร์ชันสีดำของคาร์บอน และสีเทาของไทเทเนียม ล่าสุด อูร์เวิร์ก (URWERK) ได้เดินหน้าสำรวจสี ‘เย็น’ ที่เผยความมีชีวิตชีวาภายใต้แสงและมอบความสว่างไสวสู่สายตาผู้คน โดยเป็นมากกว่าการทำงานบนสีสัน แต่ อูอาร์-100วี เมจิก ที (UR-100 Magic T) นับเป็นการวิจัยอันเข้มข้นสู่เฉดสี แสงสะท้อน และความละเอียดอ่อนแห่งสี จากการถ่ายทอดด้วยโทนสีเทาเมทัลลิกอันเรืองรองและหนักแน่นซึ่งผสมผสานอย่างประณีตไว้บนเรือนเวลาข้อมือ นับตั้งแต่ตัวเรือนตลอดจนสายสร้อยข้อมือ ที่ อูอาร์-100วี เมจิก ที นี้คือเรื่องราวทั้งหมดของไทเทเนียมและมนตร์วิเศษอันบริสุทธิ์
“ภาพลักษณ์ของคอลเลกชัน 100 นี้นำเสนอด้วยแนวคิดของการตีความอย่างไร้สิ้นสุด” มาร์ติน ไฟร (Martin Frei) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และผู้ร่วมก่อตั้งของ อูร์เวิร์ก กล่าว “เราได้สร้างสรรค์นาฬิกาที่เป็นเสมือนการถ่ายทอดบทบาทแห่ง ‘ความคลาสสิก’ ของเรา เรือนเวลาอันมีความหลากหลายนี้ได้เปลี่ยนซึ่งอารมณ์ความรู้สึกและการปรากฏโฉมที่อยู่เหนือกาลเวลา และแม้ว่าผมจะเป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์ผลงานนี้ ผมเองก็ยังคงค้นพบและค้นพบครั้งใหม่อย่างต่อเนื่องถึงความหลากหลายที่แตกต่าง และมักจะเป็นความพยายามอย่างไม่ลดละ รวมถึงเป็นความภูมิใจและพอใจเดียวกันเสมอ”
นับจากแรกเริ่ม คอลเลกชัน 100 นั้นถูกคิดค้นขึ้นด้วยความเรียบง่ายและความมินิมอลเป็นที่ตั้ง แม้ว่า ‘ความเรียบง่าย’ จะเป็นคำที่อธิบายได้ง่ายดาย แต่กระนั้น ก็ไม่อาจสะท้อนได้ทั้งหมดถึงหัวใจอันเป็นแก่นแท้ของภาษาการออกแบบเชิงศิลป์อันงดงามของ มาร์ติน ไฟร และความสามารถทางเทคนิคแห่งเครื่องบอกเวลาของ ฟิลิกซ์ โบมการ์ตเนอร์ โดยในผลงานรุ่นก่อนหน้านี้ได้เล่นกับรูปทรง ผ่านการสร้างสรรค์ศัพท์แห่งงานออกแบบที่เป็นภาษาอันมีชีวิตชีวา และยังคงถูกคิดค้นขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยวิถีใหม่ๆ ของการนำทางให้การแสดงชั่วโมงแบบโคจร (wandering hour) ของ อูร์เวิร์ก นั้นกลับมามีชีวิต อันเป็นหลักการของการแสดงชั่วโมงและนาทีแบบไร้เข็มชี้ที่มีพื้นฐานมาจากการโคจรของแซทเทิลไลต์ (satellites) ซึ่งเคลื่อนตัวไปตามความโค้งต่อเนื่องของรูปวงกลม โดยแซทเทิลไลต์แรกบรรจุไว้ด้วยการแสดงชั่วโมง และอีกตัวบรรจุด้วยการแสดงนาที ที่เมื่อแซทเทิลไลต์ชั่วโมงตัวหนึ่งหมุนรอบ 60 นาทีอย่างสมบูรณ์แล้ว แซทเทิลไลต์ตัวต่อไปซึ่งบรรจุไว้ด้วยชั่วโมงถัดไปก็จะปรากฏบนด้านหน้าเลขศูนย์ของเครื่องหมายหรืออินเด็กซ์ (index) บอกนาที
ทว่า แทบไม่มีใครคาดคิดถึงมาก่อนว่าหลักการนี้ซึ่งสืบทอดมาจากนาฬิกาคล็อกของศตวรรษที่ 17 จะสามารถมองเห็น เปลี่ยนรูป และแปรธาตุโดยความคิดสร้างสรรค์ภายใต้พื้นที่ ขนาด และเวลาเช่นนี้ และด้วยความสามารถของ อูร์เวิร์ก ในการคิดค้นขึ้นใหม่โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากหลักการพื้นฐานจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความยืนยงยาวนาน พร้อมทั้งแสดงออกถึงสัมผัสอันเข้มแข็งของเฉดสี ที่ อูอาร์-100วี เมจิก ที สามารถเปรียบได้เสมือนกับ ‘ยานการสำรวจแห่งสี’ หรือหากเปรียบเปรยแล้วยังเป็นเหมือนดั่งผู้สืบทอดจากผลงานรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งเผยถึงภาษาแห่งสุนทรียะความสวยงาม ที่รายละเอียดมากมายของรุ่นนี้ยังคงเชื่อมโยงถึงเรื่องราวแห่งวัตถุทางท้องฟ้า
ทั้งยังนับเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนกว่าผลงานสร้างสรรค์รุ่นอื่นๆ ทั้งหมดของ อูร์เวิร์ก ที่ อูอาร์-100วี ยังคงเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์กับอาณาจักรแห่งอวกาศ ไม่เพียงเฉพาะจากงานออกแบบของรุ่นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดั่ง ยูเอฟโอ (UFO) และไม่ใช่เพียงเพราะงานออกแบบที่ไม่เหมือนกับทั่วไป ที่เชื้อชวนให้นึกถึงมิติอันแตกต่างทั้งหมดที่อยู่เหนือซึ่งพรมแดนของการประดิษฐ์นาฬิกาในปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงการบรรจุช่องเปิดขนาดยาวสองช่องบนด้านข้างของตัวนำแซทเทิลไลต์ โดยตัวนำแรกคือการวัดและแสดงระยะทางกิโลเมตรที่โลกเดินทางไปตามแกนของตนเองใน 20 นาที นั่นคือ 555 ขณะที่อีกตัวนำหนึ่งยังคงเป็นการนับกิโลเมตร แต่เป็นผลลัพธ์จากการเดินทางของโลกรอบดวงอาทิตย์ในระหว่างช่วงระยะเวลาเดียวกัน หรือ 35,740 อูอาร์-100วี จึงเป็นดั่งประจักษ์พยานแห่งเส้นทางการโคจรของโลกผ่านช่องว่างระหว่างอวกาศ (interstellar void) ที่ซึ่งโลกสีน้ำเงินของเรานั้นโคจรเคียงข้างโดยวัตถุท้องฟ้าแห่งสีสันของ เมจิก ที (Magic T)