Cartier เตรียมจัดโชว์เคสคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี เครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงสุดยิ่งใหญ่ของโลก ครั้งแรกในประเทศไทย Cartier Beautés du Monde Bangkok Exhibition ที่เคยเผยโฉมที่มาดริด ประเทศสเปน และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนมาแล้ว
คอลเลกชั่นนี้จะงดงามแค่ไหน L’OFFICIEL ขอพามาทำความรู้จักกับผลงานชิ้นเด่นในคอลเลกชั่นก่อนจะได้รับชมผลงานจริง

เช่นเดียวกับงานศิลปะอื่นๆ จุดประสงค์ในการรังสรรค์เครื่องประดับก็เพื่อต้องการจะถ่ายทอดความงามที่มีอยู่ในธรรมชาติ และคาร์เทียร์ก็ได้ถ่ายทอดดีเอ็นเอนี้ไว้ในคอลเลกชั่นเครื่องประดับชั้นสูงที่มีชื่อว่า Beautés du Monde (โบเต้ ดู มงด์) ซึ่งหมายถึง ‘ความงดงามของโลก’
ชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์เหล่านี้คือประจักษ์พยานของความงามอันหลากหลายและทักษะฝีมือชั้นสูงของเมซงจิวเวลรี่แห่งนี้ โดยนำแรงบันดาลใจมาจากดอกบัว ปะการัง อีกัวน่า งูน้ำ ไปจนถึงเครื่องประดับเมโสอเมริกันแบบดั้งเดิม คาร์เทียร์มักมองหาแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โดยเฉพาะพืชและสัตว์ และสำหรับคอลเลกชั่น Beautés du Monde ทางเมซงยังได้เพิ่มการสำรวจดินแดนต่างๆ ตั้งแต่ภูมิประเทศไปจนถึงวัฒนธรรมของมนุษย์ด้วย
“นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของสไตล์คาร์เทียร์ จากแนวคิดที่ว่าความงามมีหลายรูปแบบและในทุกที่ คอลเลกชั่นนี้ก็ได้เน้นย้ำถึงการเปิดมุมมองที่เรามีต่อโลกใบนี้” ปิแอร์ เรเนอโร ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และสไตล์ของคาร์เทียร์กล่าว “คอลเลกชั่นนี้มีชื่อว่า Beautés du Monde ก็จริง แต่อาจเป็น ‘การค้นหาสิ่งมหัศจรรย์ของโลก’ ด้วยก็ได้”

ชิ้นงานต่างๆ ใน Beautés du Monde สื่อถึงสไตล์และวิวัฒนาการของคาร์เทียร์ รวมถึงหลักการออกแบบและงานฝีมือของเมซง ขณะเดียวกันพวกเขายังก้าวไปอีกขั้นด้วยการสำรวจรูปแบบใหม่ผสมผสานดีไซน์รูปลักษณ์และนามธรรมที่ดูร่วมสมัยมาก ยกตัวอย่างเช่น สร้อยคอ Iwana ผลงานชิ้นเอกในชุดแพลตินัมซึ่งประดับด้วยเพชรรูปสามเหลี่ยมที่ดูนุ่มนวลและหลังเบี้ยมรกตโคลอมเบียเจียระไนสามเหลี่ยม ทำให้นึกถึงกระดูกสันหลังของสัตว์เลื้อยคลาน เป็นชิ้นส่วนที่แสดงให้เห็นมุมมองอันหลากหลายเกี่ยวกับแนวทางของคาร์เทียร์ที่มีต่อเครื่องประดับชั้นสูง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากอัญมณี และจัดโครงสร้างองค์ประกอบในลักษณะที่ดึงดูดสายตา
นักออกแบบและช่างฝีมือของเมซง หรือแม้แต่ผู้ที่จัดหาอัญมณีต่างก็มีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารความคิดผ่านเครื่องประดับ เพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของคาร์เทียร์ ผสานมุมมองอันเป็นปัจเจกซึ่งทำให้กระบวนการสร้างสรรค์นั้นน่าสนใจและสมบูรณ์แบบ

Nouchali
สร้อยคอรูปดอกบัวนี้รังสรรค์ขึ้นอย่างมีสไตล์ ประดับด้วยอัญมณีคล้ายกับรูปแกะสลักดอกบัว ล่องลอยราวกับจัดวางอย่างแผ่วเบาบนสร้อยคอเส้นยาวที่ตกแต่งด้วยลูกปัดคาลซิโดนีสีม่วง ตรงกลางของเรือนถูกแต่งแต้มสีสันด้วยรูเบลไลต์หรือทัวร์มารีนขนาด 10.61 กะรัต

Iwana
สร้อยคออิวาน่าได้แรงบันดาลใจมาจากผิวหนังของกรีนอีกัวน่า ประดับประดาด้วยเพชรและมรกตจากประเทศโคลอมเบียขนาด 43.45 กะรัต โดยจัดเรียงอย่างแยบยลเพื่อล้อไปกับท่าทางการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตสุดเอ็กโซติกนี้ และยังใช้รูปทรงสามเหลี่ยมเรขาคณิตเพื่อสร้างสรรค์มุมมองใหม่

Apatura
สร้อยคออาปาทูร่าชวนให้นึกถึงความงามของสีสันยามได้ชมปีกผีเสื้อที่สะท้อนความสวยงามดั่งสีรุ้ง ประดับด้วยอัญมณีอย่างโอปอลจากประเทศออสเตรเลียน้ำหนัก 22.08 กะรัต จำนวน 3 เม็ด ล้อมด้วยเพชรและลูกปัดบลูแซฟไฟร์สีฟ้าช่วยขับให้โอปอลเป็นลวดลายกราฟิก

Rituel
ผลงานรำลึกถึงเครื่องประดับอันงดงามตามแบบอารยธรรมของชาวเมโสอเมริกาโบราณ สร้อยคอริตูเอลประดับด้วยลูกปัดคาลซิโดนีสีน้ำเงินไล่เฉดและทับทิมที่เปล่งประกายสุกใสอยู่ตรงกลาง ช่างฝีมือต้องออกแบบตัวเรือนอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เพชรและทับทิมสามารถแขวนอยู่บนเรือนได้โดยปราศจากข้อต่อระหว่างกัน

Récif
สร้อยคอเรซิฟได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของแนวปะการัง ประกอบด้วยมรกตและคอรัลที่นำมาเจียระไนเป็นทรงเม็ดมะยมล้อไปกับแรงบันดาลใจ ประดับบนตัวเรือนรูปเกือกม้าสุดแปลกตา สื่อให้เห็นถึงประสบการณ์ของช่างฝีมือจากแบรนด์ Cartier ได้เป็นอย่างดี

Water Aspis
วอเตอร์ แอสพิสคืองูน้ำ หนึ่งในสัตว์ลึกลับและมีเสน่ห์ยั่วยวนมากที่สุด เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสร้อยคอที่ประดับด้วยแซฟไฟร์ซีลอนทรงหลังเบี้ยขนาด 43.49 กะรัต จำนวนกว่า 5 เม็ด พร้อมด้วยเพชรทรงสามเหลี่ยมและลาพิสลาซูลิ สื่อภาพการเคลื่อนไหวของงูที่ถูกนำมาตีความให้ทันสมัยมากขึ้น
เป็นครั้งแรกที่คาร์เทียร์ เปิดให้บุคคลทั่วไปผู้สนใจเข้าสัมผัสความตระการตาของไฮจิวเวลรีของเมซงในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 วันเดียวเท่านั้น โดยจำกัดผู้เข้าชมทั้งสิ้นจำนวน 400 คน สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://register.beautesdumonde.cartier.com