
White Asava เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่นักแสดงสาวหมายมั่นที่จะใส่วันสำคัญของชีวิต “แพทใส่ชุดของ Asava มาตั้งแต่เข้าวงการแล้วค่ะ จะใส่ออกงานบ่อยมาก เพราะชอบคัตติ้ง ชอบผ้า เป็นแบรนด์ที่มีความโก้ ใส่แล้วสวยแบบไม่ต้องพยายาม รู้สึกว่าเป็นตัวเรา เพราะแพทไม่ชอบอะไรที่เยอะแยะอยู่แล้ว ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาแพทเห็นหลายคนใส่ชุดแต่งงาน White Asava แล้วสวยมาก เราเลยมีความใฝ่ฝันว่า ถ้าแต่งงานก็อยากใส่ชุดพี่หมูสักชุดหนึ่ง นี่คือฝันที่เป็นจริงค่ะ” แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด เจ้าสาวแสนสวยของโน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ เอ่ยความรู้สึกถึงชุดที่เธอใส่ประกอบพิธีหมั้นตอนเช้าวันที่ 20 ธันวาคม 2565

“แพทไม่อยากได้เดรส อยากได้เป็นเสื้อกับกระโปรง เพราะรู้สึกว่าทะมัดทะแมงดี แล้วก็เป็นตัวเรา คือมีทั้งความเท่ แต่ในเวลาเดียวกันก็อยากใส่ความเฟมินีนลงไป แพทอยากได้ชุดที่ดูไทม์เลส ไม่เชย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังชอบ พอปรึกษากับพี่หมูก็ได้ออกมาเป็นแบบนี้ แพทชอบความลงตัวของชุดค่ะ มีทั้งความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ เรียบร้อยและเท่ในเวลาเดียวกัน แล้วก็แตกต่างจากชุดอื่นๆ ด้วย เพราะว่าจะเป็นชุดเดียวที่เป็นสองชิ้นค่ะ”
“ตอนแรกรู้สึกแอบเกร็งค่ะ เพราะคิวพี่หมูก็แน่นด้วย เกรงใจสุดๆ แต่พอเข้าไปคุย พี่หมูก็รับฟังไอเดียของเรา แล้วก็คอยแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาที่ดีมาก เราเลยสบายใจ ตอนแรกได้ลองหลายชุดเลยค่ะ คนละแบบหมดเลย ทั้งชุดเรียบๆ ชุดพอง เพื่อที่จะดูว่าเราชอบแบบไหน แล้วแพทก็ไปทำการบ้านต่อ ส่วนใหญ่จะดูภาพตามเน็ตนี่แหละค่ะ แล้วก็มาสะดุดตารูปที่เป็นเสื้อกับกระโปรง มีความเป็นฝรั่ง แล้วก็ดูสบายๆ ค่ะ เลยกลับมาแชร์ไอเดียกับพี่หมู โชคดีที่พี่หมูเข้าใจ แล้วก็ดีไซน์ออกมาเป็นแบบที่ตรงใจเลยค่ะ” แพทเล่าอย่างมีความสุข



ส่วนฝั่งดีไซเนอร์คนดัง หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ เล่าถึงการทำงานกับแพทให้เราฟังว่า “ถ้าเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือสไตล์ The New Look ครับ ตัวบนเป็นผ้าวูลเนื้อเบา (Light Thread Wool) ซึ่งเราไม่ได้เห็นผ้าชนิดนี้กับชุดเจ้าสาวบ่อยนัก นอกจากเจ้าสาวที่มีความเป็นตัวเองเด่นชัดมาก เป็นลุคที่ไม่เหมือนเจ้าสาวทั่วไป แพทเองก็ชอบ ส่วนชิ้นล่างคอนทราสต์ด้วยผ้าซิลค์ผสมโพลีเอสเตอร์ ข้างในเป็นผ้าทูลปั๊มวอลุ่มให้รับทรงกับพลีต เน้นเส้นเอวที่เล็ก ความโค้งของบาร์แจ๊กเก็ต ตกแต่งด้วยเข็มขัดเส้นเล็ก และดอกพีโอนี ทั้งชุดเป็นสีไอวอรี่ ดูละมุน เป็นลุคที่โก้ครับ”

แรงบันดาลใจในการออกแบบล่ะคะ
มาจากน้องแพทเลยครับ ผมถามน้องว่ามีภาพในฝันไหม น้องบอกอยากให้ดูเท่ โก้ มินิมัล และไทม์เลส ก็มีเรเฟอเรนซ์มาหลายไดเร็กชั่น สุดท้ายก็เหลือไดเร็กชั่นที่ชอบสุด คือ Skirt Suit จากนั้นก็ค่อยๆ มองหาว่าต้องทำยังไงให้ได้อย่างที่น้องต้องการ แฟ็กตอร์สำคัญคือต้องมีความตระการตาด้วย เพราะว่าน้องเป็นซูเปอร์สตาร์ มันจะมินิมัลยังไงให้รู้สึกว่าไม่นิ่งจนเกินไป เราต้องมองหาซิลลูเอตที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นตัวแพทริเซีย ขณะเดียวกันต้องได้ว้าวเอฟเฟ็กต์ด้วย ชุดนี้ใช้สำหรับพิธีหมั้น เราต้องคำนึงด้วยว่าต้องนั่งสวย ยืนสวย ก้มได้ เพราะน่าจะเป็นช็อตที่คนถ่ายเยอะมาก
เราอยากได้ชุดที่ effortless ดูประดิษฐ์แต่ไม่ประดิษฐ์ แพทเป็นเจ้าสาวที่ไม่ได้เกร็ง สบายๆ เขาชิลตั้งแต่แรกแล้ว ความจริงผมรู้จักทั้งคู่มานานแล้ว เลยมองหาชุดที่เป็นตัวเขาทั้งสองคน คือสวย แฟชั่น มีความพิเศษ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความสบายแฝงอยู่ เรียกว่าหารายละเอียดที่ตอบโจทย์ความเป็นตัวเขามากที่สุด ทกคนคงอยากเห็นภาพที่รู้สึกว่ามันอิ่มไปด้วย ตอนแรกน้องอยากได้กระโปรงสอบ เราบอกลองปั๊มให้ดูมีวอลุ่มดีไหมจะได้มีอะไรขึ้นมาอีกนิดนึง เลยเติมพลีตเข้าไป เพื่อให้ดูมีรายละเอียดที่วิจิตรและน่าสนใจขึ้น

คุณมองคาแร็กเตอร์ของแพทก่อนจะออกแบบชุดว่าเป็นแบบไหน
ตอนแรกแปลกใจเหมือนกันว่าน้องชอบอะไรที่มินิมัล เท่ๆ เขาค่อนข้างเปิดใจพอสมควร แล้วก็เป็นคน forward thinking แพทริเซียก็คือความเป็นธรรมชาติ ชอบเสื้อผ้าแฟชั่น สวย ฟอร์เวิร์ด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็น essence ในงานที่ผมทำอยู่แล้ว เจ้าสาวที่สบายๆ ชอบอะไรที่ไม่ได้ประดิษฐ์มากจนออกจากความเป็นตัวเอง สุดท้ายแล้วมันจะสวยที่สุด เพราะมันเป็นสิ่งที่เราใส่ สิ่งที่เราเป็น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันแต่งงานเป็นพาร์ตหนึ่งของชีวิต ถ้าทุกอย่างลงตัวได้ง่าย สุดท้ายแล้วมันจะสวย ยั่งยืน มองทีไรก็สวยเสมอ
สำหรับผม ความเป็นธรรมชาติคือสิ่งที่สวยที่สุด สำหรับทุกอย่าง สำหรับมนุษย์ หรืออะไรก็ตามที่หาธรรมชาติของตัวเองเจอ เจ้าสาวคนไหนที่หาธรรมชาติของตัวเองเจอ และพบเส้นนั้น ใส่อะไรก็สวย เพราะมันจะดูเป็นหนึ่งเดียวกับตัวตนของเขา จิตวิญญาณของเขา ผมว่าการรู้จักตัวเองและเลือกสิ่งที่้เหมาะกับจิตวิญญาณ สุดท้ายแล้วคือคำตอบที่ถูกต้อง


การทำงานกับเจ้าสาวที่ชื่อแพทริเซียล่ะคะ
ผมว่าผมเป็นคนโชคดีมาก เฮาส์ของเรามีภาพที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสาวหรือดาราที่เข้ามาหาเรา ส่วนใหญ่มีวิธีคิดที่ใกล้เคียงกับเรา มีปรัชญาความงามที่คล้ายกัน โดยเฉพาะแพทริเซีย เราทำงานกันง่าย น้องเป็นคนสบายๆ เห็นอะไรที่เราสเก็ตช์ก็ชอบหมด ความยากคือเขาชอบไปหมด นั่นก็ชอบ นี่ก็ชอบ แต่ความง่ายก็คือเขาเป็นคนที่แฮปปี้กับชีวิตอยู่แล้ว ไม่ได้มานั่งจุ๊กจิ๊กๆ เขาเป็นเจ้าสาวที่มีความสุข เพราะฉะนั้นคนทำงานก็มีความสุข ด้วยความที่นิสัยของผมคือดีเทลเป็นสิ่งสำคัญ เราไม่เคยปล่อยผ่านอยู่แล้ว การที่น้องไว้ใจเรา มันก็ทำงานง่าย เอเนอร์จี้มันซิงก์กัน แล้วก็ง่ายที่จะทำอะไรให้กัน เพราะว่าตัวเราเองก็อินสไปร์ที่จะทำโน่นทำนี่
สำหรับเจ้าสาวทุกคนเราเต็มที่อยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีอะไรที่ผมทำแล้วรู้สึกเหนื่อย หรือไม่เต็มใจ ลูกค้าที่เข้ามาหาอาจจะชอบสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว มีมุมมองที่ใกล้เคียงกับผม เลยทำให้โปรเซสการทำงานสนุก อาจจะเหนื่อยกาย เหนื่อยชั่วโมงการทำงาน เพราะการทำงานกับเจ้าสาว แน่นอนที่สุดว่าเป็น once in a lifetime ของเขา เพราะฉะนั้นถือว่าเรากดดันตัวเอง ยิ่งเจ้าสาวสบายๆ เรายิ่งกดดัน เพราะเรารู้สึกว่าเขาเชื่อใจ ยิ่งต้องทำเต็มที่ เราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุด เพราะเราอยากให้เขาได้อย่างที่ฝันมากที่สุด

ในมุมมองของดีไซเนอร์ คุณอยากเห็นเจ้าสาวทุกคนเป็นแบบไหน
ผมอยากให้เจ้าสาวเป็นอย่างที่เขาเป็น เพราะเป็นวันของเขา แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกเจ้าสาวทุกคนคือการเป็นตัวของตัวเอง หาธรรมชาติของตัวเองดีที่สุด เจ้าสาวบางคนเครียด อยากจะลดน้ำหนัก ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็น เราควรแฮปปี้กับตัวเราเอง ผมเชื่อว่าเจ้าบ่าวที่เขาแต่งกับคุณไม่ใช่เพราะน้ำหนักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่ากดดันตัวเอง ทุกอย่างจะออกมาสวยที่สุด มีความสุขที่สุด ไม่ใช่ที่ชุดอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการทั้งหมด ต้องมีความเป็นธรรมชาติของเจ้าบ่าวเจ้าสาวและทั้งสองครอบครัว เพราะฉะนั้นหาความพอดีให้เจอ มันคือแมจิกของการใช้ชีวิต แน่นอนที่สุดว่าการแต่งงานถือเป็นแมจิกของชีวิต ถ้าคุณหาแมจิกนั้นเจอ ทุกอย่างก็ราบเรียบ แมจิกเส้นนั้นจะใช้เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตครอบครัวได้อย่างมีความสุขเช่นเดียวกัน คนเราอยู่ด้วยกัน ความเป็นธรรมชาติคือสิ่งสำคัญ ผมว่าสิ่งนี้สะท้อนออกมาตั้งแต่การเลือกชุด เลือกงานแต่ง ทุกสิ่งอย่าง ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการรู้จักตัวเองและเป็นตัวของตัวเองอย่างมีความสุข

เอกลักษณ์ที่จะต้องมีอยู่ในชุดแต่งงาน White Asava
Graceful, Effortless, Timeless เป็นสามคำที่เราคิดว่าเหมาะที่จะอยู่บนตัวเจ้าสาว เรามีความรู้สึกว่าภาพของเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวเป็นภาพที่อยู่ไปได้อีกหลายศตวรรษหลายเจเนอเรชั่น เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่มีสามสิ่งนี้เป็นองค์ประกอบ อีกร้อยปีก็ยังสวย เราชอบความงามแบบนั้น เราชอบความงามที่ไม่ประดิษฐ์ คำว่าไม่ประดิษฐ์ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงไม่ใช่ไม่ประดิษฐ์ แต่ในความไม่ความประดิษฐ์นั้นมันวิจิตร มันประดิษฐ์เสียยิ่งกว่า แต่เมื่อไปอยู่บนตัวคนคนนั้น มันเหมือนไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา แต่มันเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน
หรือในความที่ดู effortless มันพยายามยิ่งกว่า ในทุกๆ รายละเอียด ทุกๆ แพตเทิร์น ทุกๆ ฝีเข็ม การเลือกเฟ้นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเจ้าสาวคนนั้น มันคือที่สุดของความประดิษฐ์ และเมื่อมาเจอกับตัวตนที่ลงตัว มันจึงดูเป็นความไม่ประดิษฐ์ สำหรับผม มันก็กลับไปที่เดิม คือความเป็นธรรมชาติ พอเจอความเป็นธรรชาติแล้ว มันจะอยู่ได้ยาว เราเป็นเฮาส์ที่มากับความวิจิตร ความลุ่มลึก เราทำงานกับความละเอียดอ่อนของวิธีคิด แล้วก็แปลงวิธีคิดมาเป็นความละเอียดอ่อนของเสื้อผ้า เพราะฉะนั้นมันก็คือเขาเลือกเรา เราเลือกเขา มันเหมือนเสื้อผ้าเลือกคนใส่ คนใส่เลือกเสื้อผ้า ถึงบอกว่าเราโชคดีที่ตัวตนของลูกค้าเราเหมาะกับเสื้อผ้าที่เราทำ เลยไม่ได้มีอะไรที่มันซับซ้อน
Photographers: Ponpisut Pejaroen, Thanut Treamchanchuchai