แง่มุมที่งดงาม และความต่างของสองนคร ‘เสียมเรียบ’ ‘พนมเปญ’

บอกตามความสัตย์ว่าเพิ่งได้ไปกัมพูชาครั้งแรกในชีวิต และเป็นทริป 4 คืน 5 วันที่รู้สึกว่าเอนโดรฟินหลั่งเป็นพิเศษ กัมพูชาอยู่ใกล้ไทย ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินแค่หนึ่งชั่วโมงก็ถึง ยังไม่ทันจะได้งีบ สายการบินบางกอกแอร์เวย์สก็ลงจอดที่ ‘เสียมเรียบ’ ท่าอากาศนานาชาติซึ่งอยู่ใกล้นครวัด (Angkor Wat) ใช่แล้ว…นี่ล่ะแม่เหล็กดึงดูดให้เราลากกระเป๋ามาเที่ยวกัมพูชา

เราเข้าพักที่โรงแรม Raffles Grand Hotel d’Angkor เพราะเดินทางสะดวกเนื่องจากใกล้สนามบินและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งนครวัดและปราสาทบายน ซึ่งแพลนว่าวันรุ่งขึ้นจะไปแต่เช้า เพราะแดดยังไม่ร้อนมาก หลังจากเช็คอินเสร็จสรรพก็ได้ความว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่อยู่คู่เสียมเรียบมานานถึง 90 ปี! เปิดตั้งแต่ปี 1932 เดิมใช้ชื่อ Grand Hotel d’Angkor ผ่านการบูรณะใหญ่มาแล้วประมาณสามครั้ง ทว่ายังคงสภาพโครงสร้างตึกเดิมเอาไว้ตลอด และล่าสุดเพิ่งเปิดบริการในเดือนตุลาคมปี 2019 หลังปิดปรับปรุงให้หมดจดอีกครั้ง หนึ่งในความขลังที่สะดุดตา (แต่ไม่น่ากลัว) คือลิฟต์ไม้อายุกว่ายี่สิบปีซึ่งเป็นพยานวัตถุชิ้นสำคัญที่ยังใช้งานได้จริง เก๋สุดๆ

ภายนอกอาคารสไตล์โคโลเนียลที่งดงามเรียบง่าย แฝงความคลาสสิกร่วมสมัยไว้ภายในด้วยสไตล์อาร์ตเดโค ของตกแต่งชิ้นน้อยใหญ่จากทุกสารทิศจัดวางอย่างสวยงาม หลายชิ้นที่โดดเด่นต้องยกให้งานคราฟต์แสนวิจิตรของเจ้าบ้าน เครื่องทำความหอมกระจายกลิ่นฟุ้งอ่อนๆ เคล้าบรรยากาศสงบ

เราว่าที่นี่ต้องถูกจริตคนรักสันโดษ ชอบความเป็นส่วนตัว ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน แต่ไม่ยักรู้สึกเดียวดาย แม้ว่าอาณาบริเวณจะกว้างใหญ่แต่ผู้คนไม่พลุกพล่าน โรงแรมมีห้องพัก 119 ห้อง รวมห้องสวีทและวิลล่า ทุกห้องมีระเบียงให้สูดอากาศพร้อมชมวิว มีกิจกรรมให้เอ็นจอยทั้งยิม สปา สระว่ายน้ำ และคอร์ตเทนนิส

ต้องศิโรราบให้กับฝีมือเชฟที่ทำให้เราเจริญอาหาร ไม่ว่าจะเป็น Café d’Angkor ซึ่งเปิดตลอดวันด้วยตัวเลือกหลากหลายทั้งอาหารยุโรปและอาหารเอเชีย 1932 เพลินกับมื้อค่ำแบบไฟน์ไดนิ่งที่สอดแทรกวัฒนธรรมของคนกัมพูชา ยอมรับว่าเด็ดจริงตั้งแต่คำแรกของเมนูคาวจนถึงขนมหวานคำสุดท้าย แต่ละเมนูจับคู่กับไวน์ได้อย่างลงตัว

ความเพลิดเพลินระหว่างนั่งทานคือการได้รับรู้ที่มาของแรงบันดาลใจ รวมถึงไฮไลต์อย่างอาหารตำรับราชสำนักเขมร ซึ่งทางร้านได้รับการถ่ายทอดมาจากห้องเครื่องในวัง โดยเป็นการอนุญาตตามพระราชกฤษฎีกา Elephant Bar จะนั่งดื่มกี่แก้วก็แล้วแต่ ขอแนะว่าอย่าพลาดซิกเนเจอร์อย่าง Airavata ในส่วนของบริเวณ The Conservatory คือมุมโปรดของเรายามชิล ประหนึ่งล็อบบี้โรงแรมที่สามารถสั่งเครื่องดื่ม หรือนั่งจิบชายามบ่ายกับเพื่อนในบรรยากาศสบายๆ ที่มองเห็นวิวโดยรอบ

เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว คืนที่สองเลยเปลี่ยนบรรยากาศไปทานมื้อค่ำที่ Mouhot’s Dream หนึ่งในร้านอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุดของเสียมเรียบ ตั้งอยู่ในโรงแรมหรู Sofitel Angkor Phokeethra Golf & Spa Resort ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก รสชาติของอาหารที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและอาหารฝรั่งเศส ปรุงจากฝีมือของเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ Eric Berriguad ชายผู้หลงรักการทำอาหารซึ่งมีประสบการณ์มานานถึงยี่สิบปี เมนูเด่นๆ ได้แก่ Roasted Imported Brittany Cod Fish, Pan-fried Scallops with Lobster Bisque Risotto, Oxtail and Duck Liver Terrine, Organic Egg, Cambodia Chocolate

ครึ่งทริปที่เหลืออีกสองคืนเราตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปเยือนเมืองหลวง เที่ยวบินจากเสียมราฐมาถึงพนมเปญเป็นไฟลต์ดึกเลยทำให้มองเห็นความวิบวับของเมืองก่อนเครื่องจะลงจอด หลังเช็คอินที่ TRIBE Phnom Penh Post Office Square โรงแรมสุดฮิปแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนสิงหาคม ความเก๋ไม่ได้ซุกซ่อนหรือต้องตามหา ทว่าโดดเด่นมาแต่ไกล เชื่อว่าถ้าเปิดเต็มรูปแบบ ที่นี่จะต้องเป็นที่เลื่องลือแน่นอน เพราะมีครบทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องการ

ด้วยสีสันของบรรยากาศที่ไม่หยุดนิ่ง บวกแนวคิดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม น้ำดื่มในห้องจะถูกบรรจุในขวดแก้วที่พร้อมเติมใหม่เมื่อพร่อง แชมพูในห้องน้ำเป็นแบบรีฟิล ไม่มีอุปกรณ์เครื่องใช้อย่างแปรง ยาสีฟัน หวี ที่โกนหนวด ฯลฯ ยกเว้นว่าจะขอ (โดยไม่ชาร์จเพิ่ม) และไม่ใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

พื้นที่ส่วนกลางตรงชั้นล็อบบี้เป็นดั่งสถานที่พบปะพูดคุย นั่งทำงาน กระทั่งจริงจังถึงขั้นนั่งประชุม มีมุมอาหารและเครื่องดื่ม TRIBE Express ให้เลือกทานกรุบกริบแก้หิวตลอดทั้งวัน ควรลองแซนด์วิชซิกเนเจอร์ ‘ABC’ (Awesomest Baguette in Cambodia) พร้อมจิบกาแฟฝีมือบาริสต้า (อร่อยจริง) ชั้นเดียวกันมียิมซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีสระน้ำเกลือกลางแจ้งให้คลายร้อน

ถ้าอาหารเบาๆ ยังเอาไม่อยู่ แนะนำให้ดิ่งไปหาของหนักที่ห้องอาหาร Hemisphere บนรูปท็อปชั้น 11 เลือกนั่งได้ทั้งในร่มและเอาต์ดอร์ถ้าอยากชมวิว 360° ที่นี่เปิดรับอรุณตั้งแต่เช้าพร้อมบริการอาหารนานาชาติ เราติดใจก๋วยเตี๋ยวน้ำ ความอร่อยที่เรียบง่ายแค่บีบมะนาว ถ้าชอบเผ็ดก็เติมพริก ชั้นนี้ยังมีบาร์ Mezcal Mad Memories 21 (MMM 21) เป็นแหล่งรวมตัวแห่งใหม่ของคนตาสว่างที่ยังไม่พร้อมจะนอน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของหนุ่มสาวและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

เกือบจะจบทริปก็ยังมีเรื่องให้ใจฟูได้อีก เพราะมีโอกาสไปชมนิทรรศการ Human & Nature ซึ่งจัดแสดงในห้อง The Gallery ที่โรงแรม Sofitel Phnom Penh Phokeethra ทั้งยังได้พูดคุยและนั่งร่วมโต๊ะทานมื้อกลางวันกับเจ้าของผลงาน Nou Sary ศิลปินชาวกัมพูชาวัย 51 ผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในหลายประเทศ ซารีเริ่มสนใจศิลปะตั้งแต่วัยหนุ่ม แรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากรากเหง้าและสิ่งรอบตัว ผลงานของเขามีหลากหลายรูปแบบทั้งภาพเขียน ภาพวาด และอินสตอลเลชั่น โดยจะจัดแสดงไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ความจริงแล้วนี่เป็นนิทรรศการครั้งที่ 15 ซึ่งทางโรงแรมเป็นแม่งานจัดการ ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนศิลปินและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมของประเทศกัมพูชาให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก

มื้อค่ำวันสุดท้ายจบลงที่ Raffles Hotel Le Royal โรงแรมหรูคู่เมืองพนมเปญที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โรงแรมนี้มีศักดิ์เป็นพี่ของ Raffles Grand Hotel d’Angkor ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และวัดพนม ภายในอาณาบริเวณประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีท 175 ห้อง ยังไม่นับรวมห้องที่มักใช้ต้อนรับอาคันตุกะคนสำคัญระดับประเทศตั้งแต่สมัยอดีต กระทั่งในปัจจุบันอย่าง Le Royal Suite ที่มีความวิจิตรอลังการมาก

ก่อนมื้อค่ำเราได้ชิม Femme Fatale ค็อกเทลซิกเนเจอร์คลาสสิกของร้าน Elephant Bar ซึ่งที่มาไม่ธรรมดานะ แก้วนี้รังสรรค์ขึ้นครั้งแรกในปี 1967 เพื่อแขกคนพิเศษของโรงแรม แจ็กเกอลีน เคนเนดี ระหว่างที่เธอมาพำนักที่นี่ จิบค็อกเทลหมดแก้ว อาหารแสนโอชะก็ค่อยๆ ทยอยลงท้อง แต่ละเมนูช่างเข้าคู่กันดีเหลือเกินกับไวน์รสละมุน ไม่ว่าจะเป็น L’peouv, Kd’arm Trung Kroeung, Amok Bangkong และ Bong Paem Khmer เช่นเดียวกับ Raffles Grand Hotel d’Angkor ห้องอาหารที่นี่พร้อมเสิร์ฟอาหารตำรับราชสำนักเขมร ซึ่งมีเฉพาะแค่สองโรงแรมเท่านั้นในกัมพูชา

คืนนั้นเราเลือกเดินกลับโรงแรม เพราะอยากสูดอากาศหลังฝน พลางนึกขอบคุณ ‘นครวัด’ ที่ดลให้เรามากัมพูชา เสียมราฐและพนมเปญต่างก็มีเสน่ห์ สวยงามคนละแบบ หากได้กลับมาเที่ยวอีกครั้ง ถ้าต้องเลือก…จะเหมาทั้งสองเมืองแบบนี้แหละ

• Raffles Grand Hotel d’Angkor ดูรายละเอียดที่ www.raffles.com/siem-reap
• Raffles Hotel Le Royal ดูรายละเอียดที่ www.rafflesphnompenh.com
• Sofitel Angkor Phokeethra Golf & Spa Resort ดูรายละเอียดที่ WWW.SOFITEL-ANGKOR-PHOKEETHRA.COM
• Sofitel Phnom Penh Phokeethra ดูรายละเอียดที่ WWW.SOFITEL-PHNOMPENH-PHOKEETHRA.COM
• TRIBE Phnom Penh Post Office Square ดูรายละเอียดที่ www.mytribehotel.com