สำหรับชาร์ลีซ เธอรอน นักแสดงหญิงผู้เป็นไอคอนแห่งโลกภาพยนตร์ น้ำหอมที่ยากจะลืมเลือนก็คือ “น้ำหอมที่ทรงพลังพอที่จะสร้างความประทับใจ แต่ก็ละมุนพอที่จะรื่นรมย์ไปได้นานๆ” ดังเช่นน้ำหอม J’adore ผลงานที่ Dior สร้างสรรค์ให้เป็นไอคอนแห่งวงการน้ำหอม ด้วยกลิ่นอันละเมียดละไมและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
ล่าสุดทางเมซงได้สร้างสรรค์ J’adore Parfum d’eau กลิ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งผสมผสานนวัตกรรมจากน้ำและปราศจากแอลกอฮอล์ เราจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับนักแสดงหญิงผู้เป็นเฟซให้กับน้ำหอมระดับตำนานนี้มานานกว่า 15 ปีแล้ว
-น้ำหอมมีความพิเศษอย่างไรในชีวิตคุณ แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลงไหมคะ
“ฉันว่าความมั่นใจส่วนใหญ่มาจากน้ำหอมค่ะ อย่างการเดินเข้าไปในห้องหนึ่งแล้วรู้สึกว่าเราตัวหอม มันรู้สึกดีนะคะที่มีคนชมกลิ่นหอมของเรา ในช่วงหลายปีมานี้ฉันได้รู้ว่าเซนส์เรื่องกลิ่นของเราเชื่อมโยงกับความทรงจำค่ะ ฉันเลยคิดว่าการสร้างความประทับใจแรกเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ”
-คุณเป็นเฟซของน้ำหอม J’adore มานานกว่า 15 ปี จนกลายเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของดิออร์ และเป็นหนึ่งใน ‘วีรสตรี’ ของแบรนด์ อยากทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไร และจะเล่าถึงสายสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างไร
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Dior Beauty มากว่า 15 ปี พวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวของฉันไปแล้ว ซึ่งแต่ละแคมเปญที่ผ่านมาก็มอบความทรงจำและประสบการณ์ต่างๆ มากมายให้ชีวิตฉัน มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษครึ่งที่ผ่านมา ทั้งในชีวิต ในอาชีพ ในครอบครัวฉัน และดิออร์ก็อยู่ตรงนั้นในทุกย่างก้าว สายสัมพันธ์ของเราพัฒนาไปโดยธรรมชาติ จนกลายเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่งและมั่นคง จากโปรดักต์หลากหลายและสารมากมายที่ต้องการจะสื่อออกไป เราได้ลองเสี่ยงและทดลองไอเดียใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ฉันพูดได้เลยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความสุขและความคิดสร้างสรรค์ค่ะ”
-นอกจากจะเป็นน้ำหอมแล้ว J’adore ยังถ่ายทอดภาพลักษณ์และสร้างจักรวาลขึ้นมา คุณสนุกไหมที่ได้ก้าวจากจักรวาลหนึ่งไปอีกจักรวาลหนึ่ง อย่างการได้เข้าไปในเมืองอนาคต หรือได้เห็นตัวเองในฉากสุดอลังการแบบนั้น
“ทุกครั้งที่ก้าวเข้าไปในแคมเปญใหม่ของดิออร์เหมือนได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลยล่ะค่ะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาโลกเหล่านี้เปลี่ยนแปลงและปรับตัวเพื่อสะท้อนภาพสังคมที่เราอยู่ และฉากที่เหมือนฝันก็สร้างแรงบันดาลใจ สนุกดีค่ะที่ได้เฝ้าดูว่าผู้หญิงของ J’adore จะเข้ากับฉากใหม่ๆ เหล่านี้อย่างไร ไม่ว่าจะเดินในโถงทางเดิน วิ่งอยู่ในทะเลทราย หรือลอยละล่องในอากาศ ผู้หญิงของ J’adore รักการค้นหาและไม่เคยหยุดนิ่งเลย เพราะฉะนั้นการนำเสนอแง่มุมนี้ในฉากก็เป็นเรื่องสำคัญด้วยค่ะ”
-คุณคิดว่าผู้หญิงแบบ J’adore เป็นใคร แล้วคุณเชื่อมโยงเธอกับชีวิตตัวเองอย่างไร
“ฉันคิดว่าเป็นผู้หญิงที่เฟมินีน แข็งแกร่ง และสง่างาม เธอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และออกเดินทางเพื่อตามหาสิ่งนั้น ฉันเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ตรงที่ฉันรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และลงมือทำเพื่อให้ได้มาค่ะ นั่นเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตมาเกือบตลอดชีวิตฉัน แล้วฉันก็ชอบที่ว่าผู้หญิงแบบ J’adore จะเดินไปพร้อมๆ กับผู้หญิงคนอื่น และรู้ว่าการที่เราจะแข็งแกร่งได้นั้น เราต้องรวมพลังกันไว้ ฉันเองก็ทำแบบนั้นค่ะ กลุ่มผู้หญิงในชีวิตฉันคือทุกสิ่งทุกอย่างเลยก็ว่าได้ เราช่วยดึงกันขึ้นมาและเป็นพลังสนับสนุนให้กันและกัน”
-เวลาพูดถึง J’adore ความทรงจำแรกที่ผุดขึ้นในใจคืออะไร
“มันยากเหมือนกันนะคะที่จะให้บอกความทรงจำเดียวจากความทรงจำมากมาย ฉันรักทุกนาทีที่ได้ทำงานร่วมกับทีมงานและได้พบกับคนเก่งๆ ในอุตสาหกรรมนี้ ผู้ที่ทำให้ฉันรู้สึกแข็งแกร่งและงดงามตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา”
-ความประทับใจแรกที่คุณมีต่อนำ้หอมกลิ่นใหม่ J’adore Parfum d’eau และรู้สึกอย่างไรตอนได้ลองฉีด
“ฉันชอบที่มันเฟรชมากค่ะ เป็นแนวกลิ่นฟลอรัล ให้ความรู้สีกผ่อนคลาย คุณจะสัมผัสถึงความสดชื่นบนผิวได้เลยล่ะค่ะ เพราะว่าประกอบด้วยน้ำและไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมเอกสิทธิ์ของดิออร์ การเสริมด้วยกลิ่นเนโรลี, ออเรนจ์ บลอสซัม ก็น่าประทับใจมาก เข้ากันได้ดีกับกลิ่นมารีนและกลิ่นกรีนค่ะ”
-ขอสามคำสำหรับน้ำหอม J’adore Parfum d’eau ได้ไหมคะ
“ฟลอรัล เฟรช และพลิกโฉมวงการค่ะ”
-คุณจะใช้น้ำหอมใหม่นี้ในช่วงเวลาไหน จะฉีดทุกวัน หรือเฉพาะโอกาสพิเศษ
“ฉันชอบที่น้ำหอมตัวนี้ใช้ได้หลายโอกาสค่ะ มันเฟรชและเบามากจนฉีดได้ทุกวัน แถมยังมีกลิ่นฟลอรัล แต่ไม่เยอะจนเกินไปสำหรับโอกาสพิเศษค่ะ”
-แล้วสำหรับดีไซน์ขวดใหม่ล่ะคะ
“ขวดใหม่ดูสง่างาม เหมือนทุกๆ ขวดของ J’adore ค่ะ แต่ฉันชอบขวดนี้เป็นพิเศษเพราะเฉดสีขาวและเท็กซ์เจอร์ที่เหมือนผ้ากำมะหยี่ ยังคงมีสร้อยคอไอคอนิกอยู่นะคะ ซึ่งเป็นองค์ประกอบดีไซน์ที่ฉันชื่นชอบมากๆ ค่ะ”
-น้ำหอม J’adore Parfum d’eau เกิดจากการพัฒนานวัตกรรมใหม่และยังปราศจากแอลกอฮอล์ ความเป็นธรรมชาติและความยั่งยืนมีบทบาทสำคัญในชีวิตคุณ รวมถึงโปรเจ็กต์เพื่อสังคมของคุณไหม
“ฉันพยายามจะตระหนักถึงความยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อโลกของเราได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ฉันเองก็เปลี่ยนหลายอย่างในชีวิตเพื่อที่จะใช้ชีวิตแบบธรรมชาติมากขึ้น เช่นการลดการใช้พลาสติก ใส่ใจเรื่องขยะและการทำปุ๋ย…มันเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากขึ้นและช่วยกัน ฉันเองยินดีอย่างยิ่งที่ดิออร์พัฒนานวัตกรรมที่มุ่งไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนค่ะ”
