ปี 2022 โลกนาฬิกากลับมาคึกคักเมื่อสามารถจัดแบบเต็มรูปแบบได้ แถมยังมีเวอร์ชั่นดิจิตัลสำหรับใครที่ยังไม่สะดวกจะเดินทางไปชมด้วยตา…. และต่อไปนี้คือนาฬิกาใหม่ประจำปีที่เราคิดว่าน่าจะถูกใจสาวๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายมินิมัล สปอร์ต หรือสายเพชร รวมทั้งสุดยอดกลไก
1/ Panthère de Cartier
นาฬิกาตัวเรือนเหลี่ยมมุมมนลงตัว พร้อมกับสายรัดข้อมือโลหะที่ flexible สุดๆ ราวกับการเคลื่อนไหวของเสือแพนเตอร์ คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดนี้ยังคงความหรูหรา มีทั้งตัวเรือนโรสโกลด์จับคู่กับหน้าปัดสีพลัม ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์กับหน้าปัดทอง และตัวเรือนสตีลกับหน้าปัดสีมิดไนต์บลู ใครต้องการนาฬิกาที่ดูสง่างามสมฐานะ คอลเลกชั่นนี้คือใช่เลย
เหมาะสำหรับสายมินิมัลแต่ก็ยังรักในประสิทธิภาพ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่พัฒนาเพื่อแบรนด์ลองจินส์โดยเฉพาะ หน้าปัดที่มีพื้นที่ขนาดกว้าง จึงทำให้วงกลมย่อยวินาทีสามารถอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของหน้าปัด สายรัดข้อมือผลิตจากวัสดุธรรมชาติอย่างพืชในสีเทาอมม่วงและสีดำ แถมยังมีให้เลือกทั้งขนาด 34.50 มม. และ 39.00 มม.
3/ TUDOR Royal
นี่คือนาฬิกาสปอร์ตชิคพร้อมสายนาฬิกาแบบชิ้นเดียวกับตัวเรือน ตัวเรือนสตีลผิวสัมผัสแบบซาตินและขัดเงา ขอบตัวเรือนแบบสลักลายร่องทำจากเหล็กกล้า 316L หรือทองคำ และขอบตัวเรือนประดับเพชรสำหรับรุ่น 28 มม. หน้าปัดมุกผิวสัมผัสแบบซาตินซันเรย์หลากหลายแบบ พร้อมตกแต่งด้วยตัวเลขโรมันหรือประดับเพชร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ รับประกัน 5 ปี
4/ ORIS ProPilot X Calibre 400
โดนใจตั้งแต่เห็นหน้าปัดสีแซลมอน แถมดีไซน์ยังมินิมัลสมเป็นนาฬิกายูนิเซ็กส์ ขนาดตัวเรือน 39 มม. กำลังดี ทั้งยังผลิตจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา เข้าได้กับลุคประจำวัน ที่สำคัญคือทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้ยาวนาน 5 วัน และรับประกันยาวนาน 10 ปีด้วย (เพียงลงทะเบียนที่ MyOris)
5/ Chopard Happy Sport 33mm
สาวกโชพาร์ดย่อมรู้จักซิกเนเจอร์เพชรเคลื่อนที่บนหน้าปัดราวกับเริงระบำในคอลเลกชั่น Happy Sport เป็นอย่างดี ล่าสุด ผลงานไอคอนิกนี้สร้างสรรค์จากโรสโกลด์ 18 กะรัตซึ่งเป็นทอง ethical ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความยั่งยืน แถมยังทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ กำลังลานสำรอง 42 ชั่วโมง
6/ Jaeger-LeCoultre Rendez-Vous Dazzling Star
เฉดสีน้ำเงินพร้อมประกายในเนื้อสัมผัสทำให้รู้สึกเหมือนนำฟ้ามยามราตรีมาไว้บนข้อมือ ผลงานใหม่ล่าสุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากดวงดาว ตัวเรือนโรสโกลด์ประดับขอบด้วยเพชรต่างขนาดสองชั้น แถมกลางหน้าปัดยังมีแผ่นดิสก์หมุนรูปดาวตกซึ่งจะเคลื่อนที่ออกมาให้ชมโดยอัตโนมัติหรือแบบออนดีมานด์ก็ได้ เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นสนุกๆ สร้างความเพลิดเพลิน แถมยังไม่มีใครเหมือนด้วย
7/ Hublot Big Bang Tourbillon Automatic Purple Sapphire
สำหรับใครที่ชอบนาฬิกาที่ไม่ธรรมดา ผลงานชิ้นนี้รวมทุกอย่างไว้ในเรือนเดียว ทั้งกลไกทูร์บิญอง คอมพลิเคชั่นชั้นสูงที่ทำหน้าที่ชดเชยความคลาดเคลื่อนของกลไกจากแรงโน้มถ่วง (ฟังก์ชั่นคูลสุดๆ) หน้าปัดใสโชว์กลไกให้เห็นกันแบบชัดๆ แถมยังมาในดีไซน์ที่ไม่คลาสสิกแบบนาฬิกาชั้นสูงปกติ เพราะตัวเรือนแซฟไฟร์สังเคราะห์ซึ่งท้าทายในการผลิต แถมยังเป็นเฉดสีม่วงใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยสายรับเบอร์ซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนสายได้เพียงกดปุ่มตรงกลาง บอกแล้วใช่ไหมว่าเรือนนี้ไม่ธรรมดา
8/ Hermès Kelly
นอกจากจะเป็นชื่อกระเป๋าใบโปรดของสาวๆ แล้ว นาฬิกาเคลลี่ก็น่าจะเป็นนาฬิกาเรือนโปรดของสาวๆด้วย หลังจากผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1975 ทางแอร์เมสก็ตีความนาฬิกาดีไซน์แม่กุญแจใหม่โดยนำมาห้อยกับกำไล หรือใส่ซองหนังเป็นสร้อยคอ แถมยังมีหลากหลายวัสดุให้เลือกด้วย
9/ Zenith Defy Midnight
นาฬิกาแนวสปอร์ตหรูที่ออกแบบเมื่อเพื่อผู้หญิงยุคใหม่ ล่าสุดผสานแรงบันดาลใจจากแสงยามพระอาทิตย์ตกและแสงเหนือในยามค่ำ ออกมาเป็นหน้าปัดไล่เฉดสีโดดเด่นเห็นแต่ไกลในรุ่น Defy Midnight Sunset และ Defy Midnight Borealis ตัวเรือนสตีล 36 มม. ขอบตัวเรือนประดับเพชร แถมยังสามารถเปลี่ยนสายได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ ด้วย
10/ Vacheron Constantin Patrimony self-winding
นาฬิกาตัวเรือนกลมบางคลาสสิกสง่างามแบบ sophisticate สุดๆ เน้นเส้นสายเรียบง่าย พื้นหน้าปัดซึ่งไล่เฉดแบบเกเดียนต์ มีทั้งรุ่นประดับเพชรบนขอบตัวเรือนหรือหมุดนาที ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ และยังมาพร้อมสายรัดข้อมือหนังจระเข้แบบถอดเปลี่ยนได้ในเฉดสีไนต์บลูและชมพูเบจผสานเทคนิคฟินิชชิ่งแบบซาติน