ผลงานจิวเวลรี่ที่งดงามตระการตาเหล่านี้คือตัวอย่างของผลงานนับร้อยที่ทาง Cartier Thailand ได้นำมาจัดแสดงในงานเอ็กซ์คลูซีฟ Les Éléments หรือ The Elements รวบรวมเครื่องประดับชั้นสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในแบบของคาร์เทียร์
นิทรรศการ Les Éléments หรือ The Elements ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในแบบของคาร์เทียร์ และการเล่าเรื่องไฮจิวเวลรีผ่านทฤษฎีปฐมธาติ หรือธาตุทั้งสี่ของโลก คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่เป็นเสมือนปัจจัยของทุกสรรพสิ่งบนโลกทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น หนึ่งชีวิตไม่สามารถเติบโตและอยู่ได้ด้วยตัวเองหากปราศจากการพึ่งพาอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ในปฐมธาติเหล่านี้ เมื่อรวมกันจึงได้สรรสร้างมรดกให้โลกใบนี้ เช่นเดียวกับคาร์เทียร์ที่ได้รังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงที่เป็นเสมือนผลงานทางศิลปะอันล้ำค่าที่จะคงอยู่และกลายเป็นมรดกที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น
เครื่องประดับชั้นสูงหรือไฮจิวเวลรีของคาร์เทียร์นั้นมีเอกลักษณ์และความเป็นมาเฉพาะตัวที่มีเบื้องหลังในการรังสรรค์ ถือกำเนิดขึ้นภายในเวิร์กช็อปของคาร์เทียร์ ณ ใจกลางกรุงปารีส ซึ่งบรรดานักสร้างสรรค์และเหล่าดีไซเนอร์ ผู้เชียวชาญทางหัตถศิลป์ต่างๆ มารวมตัวกันเพื่อสานต่อคุณค่าของเมซง แต่ละชิ้นมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง การถ่ายทอดภาพวาดของชิ้นงานให้ออกมาเป็นชิ้นงานจริงต้องอาศัยความใส่ใจในการเลือกรูปแบบการฝังอัญมณีให้ตรงกับผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการฝังแบบ Grain, การฝังแบบ Claw, การฝังแบบ Fur Setting, การฝังแบบ Bezel, การฝังแบบ Closed, การฝังแบบ Angled และอีกหลากหลายรูปแบบ โดยมีประสงค์ในสมดุลยภาพของขนาดชิ้นงาน โดยมี Openwork ซึ่งถือเป็นเทคนิคพิเศษประจำแผนกไฮจิวเวลรีของคาร์เทียร์เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งช่างจะเพิ่มช่องว่างเล็กๆ ไว้ใต้ฐานของอัญมณีทุกเม็ดเพื่อให้แสงส่องผ่านได้ ทำให้อัญมณีทุกเม็ดยังส่องประกายระยิบระยับล้อแสงยิ่งขึ้น
ในนิทรรศการนี้ รวบรวมผลงานโดดเด่นไว้มากมาย เช่น เครื่องประดับในตระกูล Cactus ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากต้นตะบองเพชรกลางทะเลทราย สร้อยคอและต่างหูชุด Nivalis ประดับอความารีนงดงามดุจสายน้ำ สร้อยคอและต่างหู Cholula ตัวเรือนเพชร ประดับด้วยทับทิมหายากสีแดงสดทรงลูกแพร์ 13 เม็ดจากประเทศโมแซมบิก สร้อยคอ ต่างหูและแหวน ตัวเรือนไวท์โกลด์ชุด Percussion ประดับมรกต ร็อกคริสตัล โอนิกซ์และเพชร เครื่องประดับชุด Percussion รังสรรค์ด้วยเทคนิค Glyptic หรือการสลักอัญมณีเนื้อแข็งและวัสดุมีค่าของคาร์เทียร์
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับชิ้นไอคอนิคอย่างสร้อยคอเพชรจระเข้ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติเเด่ มาเรีย เฟลิซ (María Félix) นักเเสดงหญิงชาวเม็กซิโกผู้เป็นเจ้าของสร้อยคอจระเข้ในตำนานของคาร์เทียร์ รวมทั้งกำไลข้อมือ Panthères Complices ประดุจเสือแพนเตอร์สองตัวโอบรัดข้อมือของผู้สวมใส่ การเลือกใช้คู่สีดำและขาวเป็นเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์เครื่องประดับของคาร์เทียร์มาโดยตลอด เสือแพนเตอร์สีดำทำมาจากหินแจสเปอร์ โดดเด่นเข้ากันกับเสือแพนเตอร์สีขาวที่ทำมาจากพอร์ชเลน เน้นความสง่างามตามธรรมชาติที่ส่งเสริมกัน
สำหรับคาร์เทียร์ การสร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณีอาจตีความได้ว่าเป็นภารกิจแห่งการส่งต่อความคลาสสิกเหนือกาลเวลาจากช่างฝีมือคนรุ่นเก่าที่สุดสู่ช่างฝีมือรุ่นใหม่ที่สุด ทว่ายังเป็นการส่งต่อที่ร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน งานฝีมือระดับธรรมเนียมประเพณีได้ถูกอนุรักษ์ไว้ด้วยผลงานที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันซึ่งพวกเขาได้รับมาด้วยภูมิปัญญา ถึงแม้ว่าจะเลี่ยงการมาถึงของเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ได เหล่าช่างฝีมือแห่งเมซงคาร์เทียร์ก็ยังสานต่อหัตถศิลป์ที่เป็นขนบเพื่อสร้างคุณลักษณะพิเศษให้กับชิ้นงานไฮจิวเวลรี ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการวัดขนาดและความถูกต้องแม่นยำ ตลอดจนการฝึกฝน การค้นหาและค้นพบ การพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งความแน่วแน่ตั้งใจและการเปิดใจเรียนรู้นับเป็นสมบัติของช่างฝีมือที่นับวันจะยิ่งพัฒนาขึ้นไปตามกาลเวลา ความตระหนักในพลังแห่งแรงบันดาลใจในอัญมณีแสนพิเศษและลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละเม็ด การเคลิบเคลิ้มไปกับพลังนั้นในขณะที่ยังยึดมั่นในสัญชาตญาณที่มีร่วมกัน การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และการพัฒนาทักษะที่มีอยู่เดิมให้ดียิ่งขึ้น การตระหนักรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องประดับอัญมณีและร่างกาย การให้ความสนใจกับสิ่งที่มองไม่เห็นและอุทิศตนให้กับสิ่งเหล่านั้นพอๆ กับการใส่ใจในอัญมณีที่เปล่งประกายชวนหลงใหล ทั้งหมดนี่คือวิสัยทัศน์และสไตล์ที่เหล่าช่างฝีมือระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่แผนกไฮจิวเวลรีของคาร์เทียร์ล้วนยึดถือและปฏิบัติตามมาโดยตลอด