เมื่อตำนานอัศวินโต๊ะกลมไม่ได้มีแค่ ‘กษัตริย์อาเธอร์’ บันทึกแห่งความกล้าหาญจะถูกเปิดขึ้นใน ‘The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ’
ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์มาแล้วทั่วโลก สำหรับ ‘The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ’ จากตำนานอันทรงคุณค่าสู่มหากาพย์ภาพยนต์ผจญภัยแฟนตาซีเรื่องเยี่ยมแห่งปี 2021 ผลงานสุดละเมียดจากค่ายคุณภาพชั้นนำ A24 โดยผู้กำกับมือฉมังอย่าง เดวิด โลเวอร์รี (Pete’s Dragon, A Ghost Story) ล่าสุดได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลจากสถาบันชั้นนำอย่าง Gotham Award 2021 ใน 2 สาขาใหญ่ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นการการันตีความน่าสนใจหลังจากที่ภาพยนตร์ Nomadland เคยคว้ารางวัลใหญ่บนเวทีแห่งนี้มาแล้ว
The Green Knight นำเรื่องราวของอัศวินโต๊ะกลมผู้หาญกล้าอย่าง ‘เซอร์กาเวน’ (เดฟ พาเทล The Slumdog Millionaire, Lion) หลานชายของกษัตริย์อาเธอร์ มาบอกต่อถึงการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ของอัศวิน เมื่อเขาต้องเผชิญกับบททดสอบแห่งความตายจาก ‘อัศวินมรกต’ กาเวนจึงต้องเดินทางฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ในดินแดนลึกลับ โดยที่เขาต้องรับมือกับวิญญาณอาฆาต ยักษ์ และโจร เพื่อค้นหาตัวตนและพิสูจน์คุณค่าของเขาต่อครอบครัวและอาณาจักร
ก่อนที่จะไปชมความสนุกตื่นเต้นของตำนานอัศวินผู้กล้าและการผจญภัยสุดแฟนตาซี เราขออุ่นเครื่องโดยการไขข้อสงสัยว่าเซอร์กาเวนคือใคร? กันก่อน
1 เป็นใหญ่เพราะเป็นหลานกษัตริย์
‘เลือดร้อน เจ้าสำราญ มั่งคั่ง’ น่าจะเป็น 3 คำที่ตอบความเป็นเซอร์กาเวนได้ชัดเจนที่สุด เขาคืออัศวินหนุ่มผู้ใช้ชีวิตสุขสบายในฐานะหลานชายของกษัตริย์อาเธอร์ ที่หลายคนคงคุ้นชื่อเพราะถูกนำมาดัดแปลงมากมายหลายเวอร์ชั่น แต่ครั้งนี้ The Green Knight จะเปิดตำนานของเซอร์กาเวนแบบอินไซด์ ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่สามที่ปรากฏขึ้นในโลกภาพยนตร์!
2 อัศวินโต๊ะกลมระดับตำนาน แต่ไม่มีตำนาน
ไม่มีตำนานแล้วจะมีอะไรให้พูดถึง? อย่างที่บอกว่าเซอร์กาเวนเป็นหลานของกษัตริย์อาเธอร์ ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกอัศวินโต๊ะกลมแบบไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องต่อสู้กับใคร และไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ นั่นเป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่เคยเข้าใจความหมายของคำว่า ‘เกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณค่าความเป็นมนุษย์’ ซึ่งผลของการไม่รู้ได้นำมาสู่การหาคำตอบว่าเขาเกิดมาทำไม
3 อาสาสังหารอัศวินมรกต
ในปีหนึ่งของงานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสของกษัตริย์อาเธอร์และบรรดาอัศวินโต๊ะกลม ‘อัศวินมรกต’ ปรากฏกายขึ้นพร้อมคำท้าให้ผู้ใดที่กล้าจงลุกขึ้นมาบั่นหัวเขาให้ขาด สิ่งแลกเปลี่ยนเดียวที่ต้องการคืออีกหนึ่งปีข้างหน้า เขาจะเป็นฝ่ายลงมือคืนบ้างเท่านั้น ท่ามกลางความว้าวุ่นใจของบรรดาอัศวินโต๊ะกลม เซอร์กาเวนเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่อาสาสังหารอัศวินมรกต หรือเขาจะเกิดมาเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความกล้าหาญ
4 ณ จุดที่สว่างที่สุด เขาจะส่องสว่างที่สุด
ถึงแม้ว่าเซอร์กาเวนจะไม่ใช่อัศวินที่สมบูรณ์แบบ แต่การรักษาสัจจะก็เป็นหัวใจสำคัญของอัศวิน เมื่อครบกำหนดสัญญาที่ให้ไว้กับอัศวินมรกต เขาจึงมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจ คว้าขวาน คลุมเสื้อสีเขียว ควบม้าคู่ใจออกเดินทางพร้อมกับพรวิเศษที่ว่า “เขาจะไม่มีทางแพ้ศึกใด ตราบใดที่แสงอาทิตย์ส่องถึงตัวเขา”
5 บททดสอบของความ ‘กล้าหาญ’ สัตว์ร้าย โจรป่า ภูติผี สาวสวย และ “…”
อัศวินในปราสาทใหญ่กลายเป็นเพียงชายหนุ่มในโลกความเป็นจริง การเดินทางครั้งนี้เปรียบเสมือนการค้นหาตัวตนของเซอร์กาเวน เขาต้องรับมือกับสัตว์ร้าย โจรป่า ภูติผี สาวสวย โดยเฉพาะการเอาชนะอีโก้ของตัวเอง The Green Knight จึงไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ แต่เป็นทริปสั้นๆ เพียง 2 ชั่วโมง 10 นาที ที่จะพาเราออกผจญภัย ทบทวนศักยภาพในตัวเอง และความกล้าหาญที่ทำให้เติบโตขึ้น
ร่วมสร้างตำนานบทใหม่ไปพร้อมกับเซอร์กาเวนได้ใน ‘The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ’ 11 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์