Salvatore Ferragamo เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้อย่างน่าดึงดูดแปลกใหม่เกินคาดในคอลเลกชั่น Autumn-Winter 2021 ภายใต้ชื่อ Future Positive ที่มาพร้อมเสน่ห์ของความล้ำสมัยสู่โลกอนาคตที่แฝงไปด้วยความคลาสสิกเรียบง่ายที่โดดเด่นด้วยสีสันและเครื่องหนังอันเลื่องชื่อ
และแน่นอนว่าในการเปิดซีซั่นใหม่ในแต่ละครั้ง ซัลวาทอเร่ เฟอร์รากาโม มักจะมีภาพแคมเปญและภาพยนตร์อันน่าติดตามอยู่เสมอ ครั้งนี้ในการถ่ายภาพยนต์สั้นของแบรนด์นั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ภูมิใจนำเสนอเลยก็ว่าได้เพราะได้ผู้กำกับมีชื่อผู้ถูกเสนอเข้ารับรางวัล Academy Award มากถึงสามครั้งด้วยกันอย่าง “Wim Wenders” มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวให้เราเห็นในมุมมองใหม่ทั้งของคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังในการถ่ายทำครั้งนี้
A Future Together คือชื่อของโฆษณาภาพยนตร์ตัวสั้นที่ Wim Wenders ร่วมกำกับในครั้งนี้ โดยเรื่องราวจะเกิดที่ City Life ในกรุงมิลาน คุณจะพบสถานที่อันแปลกตาหลากสีสันและสถาปัตยกรรมที่ก้าวไกลพร้อมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกองถ่ายทำอันล้ำสมัยของภาพยนตร์ Sci-Fi แห่งโลกอนาคตที่ล้ำสมัยยิ่งกว่า ผ่านนักแสดงสาว Gaia Girace ซึ่งเธอมารับบทผู้กำกับ เสมือน Wim Wenders มาถ่ายทอดเองในอีกมุมที่แตกต่างกัน
ภาพยนตร์หนังสั้นครั้งนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอให้เห็นถึงเบื้องหลังเท่านั้น เพราะคุณจะเห็นเรื่องราวของมนุษย์ที่กำลังเดินต่อไปอย่างต่อเนื่องแบบ “เรื่องเล่าซ่อนเรื่องเล่า” แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกหรือความรักของปัจจุบันสู่อนาคตพร้อมๆ กัน ทั้งตัวนักแสดง นางแบบที่เล่าเรื่องอนาคต และเธอ Gaia Girace ผู้เล่าเรื่องปัจจุบันที่ขณะถ่ายทำแคมเปญอยู่นั้นก็ได้พบกับ Sound Engineer ผู้มีเสน่ห์ลึกลับแสดงโดย Felix Sandman นายแบบและนักดนตรีที่กำลังมาแรง มาเติมเต็มในภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สมบูรณ์และมีสีสันปนความอบอุ่น อีกทั้งยังมีภาพถ่ายอีกแคมเปญเป็นภาพพอร์ทโฟลิโอจำนวน 24 รูปซึ่งถ่ายโดย Vito Fernicola เพื่อสร้างองค์ประกอบซ้อนเข้าไปในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกหนึ่งชั้น
ในระหว่างที่เราได้ชมภาพยนตร์นี้คุณจะเห็นความแปลกใหม่ทั้งในการตัดสลับซับซ้อนของเทคนิคในการถ่ายหนังเล่าเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณจะหลงใหลเช่นกันก็คือเสื้อผ้าเครื่องประดับของพวกเธอในคอลเลกชั่นที่มาพร้อมกับเฉดสีอันมากสีสันแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยและแนวคิดของอนาคตทำให้เราเข้าใกล้และสัมผัสได้ถึงการรวมตัวกันของเครื่องแต่งกายและแอ็คเซสซอรี่ในปัจจุบันที่แสดงถึงความทันสมัยที่สวมใส่ได้อย่างแท้จริงมากกว่าที่เคยเป็นมา
การที่ Wenders ร่วมกำกับในครั้งนี้เขาก็ได้มุ่งเน้นแคมเปญให้เติมเต็มไปด้วยชีวิตชีวาซึ่งมอบความสดใสและให้แง่มุมอันลึกซึ้ง แถมเขายังได้กล่าวอีกว่า
“การสร้างเรื่องราวที่มอบพลังอันสดใสภายใต้รูปแบบของโลกอนาคตเป็นสิ่งที่ท้าทายเมื่ออนาคตดูจะมืดมนและน่าสะพรึงกลัว แต่ในบางครั้งเมื่อคุณเผชิญอุปสรรคและต้องต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ที่กีดขวางคุณอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งมีความงดงามเปล่งประกายมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการถ่ายทำภาพยนตร์สำหรับเฟอร์รากาโมของเรา นอกจากแสงอาทิตย์ท่ามกลางท้องฟ้าสีหม่นของมิลานซึ่งเปิดโอกาสให้สถานที่ถ่ายทำของเราได้เฉิดฉายอย่างเต็มที่แล้วนั้น นักแสดงรุ่นใหม่ทั้งสองของเราก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เปล่งประกายเช่นเดียวกัน เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่จากคอลเลกชั่นนี้งดงามน่าตื่นตาเกินกว่าที่เราคาดไว้เมื่อถึงเวลาที่ถูกเผยออกมาผ่านการสวมใส่ของเหล่านักแสดง หน้าที่ของเราในฐานะทีมสร้างภาพยนตร์คือการจับเอาช่วงเวลาแห่งความงามอันล้ำค่าที่อยู่ต่อหน้าเราไว้ให้คงอยู่ต่อไป”
สำหรับ Salvatore Ferragamo นั้นที่มี Paul Andrew ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ได้ทำให้เห็นวิสัยทัศน์ที่แตกต่างไปจากเดิม เรียกได้ว่าผลงานครั้งนี้ของเขาเต็มไปด้วยสีสันและให้ความอ่อนเยาว์พร้อมมอบความมุ่งหวังและแง่บวกผ่านคอลเลกชั่น
“ในโลกแฟชั่น อดีตคือสิ่งที่มีแรงโน้มถ่วงดึงดูดเราเข้าไปเสมอ ในซีซันนี้ผมต้องการเปลี่ยนกฎดังกล่าวโดยเป้าหมายคือการสร้างสรรค์คอลเลกชั่นที่มองปัจจุบันผ่านเลนส์แห่งโลกอนาคตจนเกิดเป็นมุมมองหลากหลายที่แปลกใหม่กว่าเคย โดยภาพยนตร์คลาสสิคแนว Sci-Fi จากยุคก่อนปี 2000 ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคอลเลกชั่นนี้มีทั้ง Gattaca, Until The End Of The World และ The Matrix ซึ่งภาพยนตร์เหล่านั้นแสดงถึงภาพของโลกอนาคตจากมุมมองของอดีตที่ส่งอิทธิพลมาถึงปัจจุบัน สำหรับคอลเลกชั่น “Future Positive” ผมจินตนาการถึงรูปแบบของยูนิฟอร์มในปัจจุบันในฐานะเศษซากที่หลงเหลือจากอดีตอันยาวนาน ปราศจากการเชื่อมโยงกับชนชั้น สีผิว หรือความเชื่อทุกประการ คอลเลกชั่นนี้นำเสนอยูนิฟอร์มแบบใหม่สำหรับโลกยูโทเปียในอนาคตที่ความหลากหลายและมุมมองในแง่บวกต่างรวมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นกว่าเดิม และเช่นเดียวกับที่ซัลวาทอเร่ เฟอร์รากาโมเคยกล่าวเกี่ยวกับผลงานของเขา คอลเลกชั่นนี้ถูกอุทิศ “ถึงทุกคนที่ต้องก้าวเดิน” ในช่วงเวลาที่เราต้องมุ่งมั่นสร้างสรรค์และจินตนาการกันอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกันกับพัฒนาไปข้างหน้าในขณะเดียวกัน” Paul Andrew กล่าว
ถือได้ว่าการร่วมงานกันระหว่าง Wim Wenders และ Salvatore Ferragamo ถือเป็นแคมเปญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่มีความเชื่อมโยงกับวิวัฒนาการแห่งโลกภาพยนตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่จุดเริ่มต้นของร้าน Hollywood Boot Shop โดยซัลวาทอเร่ เฟอร์รากาโมในปี 1923 ก็ว่าได้ และโดยผลงานของ Wenders นั้นทำให้เราจดจำและเข้าใจเฟอร์รากาโมมากยิ่งขึ้นอีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของแบรนด์ที่เป็น “มรดกตกทอด” ยกย่องแนวคิดของการพัฒนาไม่หยุดนิ่งไปตลอดกาลซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จของแบรนด์ โดยเป็นการผสมผสานนวัตกรรมทันสมัยเข้ากับการคิดค้นผลงานที่งดงามซึ่งเป็นตัวแทนของช่วงเวลาในปัจจุบัน ทั้งยังมีความเหนือกาลเวลาในอนาคตข้างหน้าเช่นเดียวกัน
