แฟชั่นคืองานสร้างสรรค์เฉกเช่นเดียวกับประติมากรรมและสถาปัตยกรรม ที่ความคิดสร้างสรรค์นั้นไร้กรอบขอบเขตและอิสระ Nicolas Ghesquière จึงนำเสนอคอลเล็กชันนีโดยบอกเล่าถึงเมืองในอุดมคติ ในสถานที่จริงอย่างสวนประติมากรรม The Major Axis ที่ไม่ไกลจากกรุงปารีส
จุดหมายของการท่องเที่ยวด้วยคอลเล็กชั่นนี้คือสถานที่ที่เป็นเมืองอุดมคติหรือยูโทเปียแห่งใหม่ ซึ่งได้จำลองมาไว้ที่สวนประติมากรรมในเมืองใหม่ Cergy-Pontoise ที่ชื่อ Axe Majeur (The Major Axis)ผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ของศิลปินที่เกิดในอิสราเอล Dani Karavan (7 ธันวาคม ค.ศ.1930 – 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2021)ผู้ล่วงลับไปก่อนหน้าที่จะมีการโชว์คอลเลกชั่น ณ ผลงานที่เขาสร้างสรรค์เพียงไม่ถึงเดือน
Axe Majeur อยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีส การกำหนดเส้นแกนหลักของสถานที่นี้ก็เชื่อมสัมพันธ์กับกรุงปารีส ด้วยเส้นทางวงแหวน Oise ที่เชื่อมให้สถานที่นี้กับปารีส แต่ Cergy-Pontoise คือ เขตปกครองที่เรียกว่า Agglomeration communities ที่เป็นการรวมตัวชุมชนที่ตั้งขึ้นตามปี ค.ศ.1999 เป็นการแบ่งเขตการปกครองของประเทศฝรั่งเศส จึงไม่แปลกที่คนจะมองว่าการปกครองพื้นที่แบบนี้เสมือนการสร้างเมืองในอุดมคติ โดย Cergy-Pontoise ก็มี Axe Majeur ที่เสมือนสวนประติมากรรมหรือการออกแบบผังเมืองที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ เปลี่ยนทางเดินเล่นให้เป็นภวังค์อันน่าพิศวง ประติมากรรมที่รังสรรค์ให้เหมือนดินแดนในอุดมคติ ‘ยูโทเปีย’ที่สวยงามโดยศิลปินอย่าง Dani Karavan ซึ่งมีผลงานที่ทำให้รับรู้ถึงความอาทรและสงบสุขตั้งกระจายอยู่ทั่วโลก ณ ที่แห่งนี้ทุกคนสามารถมาเยือนได้อย่างเสรี ทุกเมื่อ ทุกเวลา และไม่มีค่าเข้าชม
ที่แห่งนี้คือสถาปัตยกรรมแห่งความสมานฉันท์ ที่ซึ่งน้ำ แสง ลม ทราย คอนกรีต หินและเหล็กกล้าสร้างสัมพันธภาพด้วยกันอย่างน่าปิติ ระหว่างธรรมชาติ ห้วงอวกาศ และเวลา ด้วยคอลเล็กชัน Cruise 2022 ของ Louis Vuitton ได้นำพาเราก้าวเข้าสู่เรขาคณิตเอกพจน์นี้(ส่วนหนึ่งของระยะทางจริง 3 กิโลเมตรที่เต็มไปด้วยผลงานประติมากรรมของศิลปินท่านนี้และจนบัดนี้ก็ยังไม่ถึว่าเสร็จสมบูรณ์ รันเวลย์ของโชว์นี้เร่ิมจากประติมากรรม “lle Astronomique” ถึง “Le Douze Colonnes” และ ‘Le Jardin des Droits de I’Homme” ปิดท้ายด้วย “La Passerelle” ที่สร้างจินตภาพให้ได้สำรวจบรรยากาศและทำไมจะไม่ลองสัมผัสความไม่สิ้นสุดดู เสมือนการร่วมกันมองโลกในแง่ดี
บนทางเดินที่เป็นเส้นแกนตรงบนพื้นที่สูงต่ำตามธรรมชาติ บางส่วนก็ทำเป็นสะพานลอยทอดข้ามยาวมีประติมากรรมตั้งอยุ่เป็นจุดๆ ซึ่งคอลเล็กชันนี้ก็ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาสอดคล้องกับนิยามของความเป็นเมืองในอุดมคติ ซิลลูเอทที่ไม่ยึดติดกับยุคสมัย ไม่ล้ำยุคจนกลายเป็นคอสตูม Nicolas Ghesquière ครีเอทีฟฯ แห่งแฟชั่นสุภาพสตรีของ Louis Vuitton นำเอาซิลลูเอทที่เขาพัฒนามาตลอดการกุมบังเหียนแบรนด์นี้มาต่อยอดให้มีรูปทรงใหม่ๆ แต่ก็ไม่ยากในการสวมใส่ และขานรับกับสิ่งที่คนแฟชั่นในยุคนี้พร้อมที่จะหลงรักสิ่งที่เป็น‘หนึ่งเดียว’ที่ไม่สามารถทำได้ทั่วๆ ไป จะด้วยการคัดสรรวัสดุอย่างผ้าที่มีความหลากหลาย หนังและวัสดุสังเคราะห์ที่เสมือนการสมานฉันท์ของวัสดุเฉกเช่นเดียวกันงานสร้างสรรค์ของ Nadi Karavan จึงยากที่ทำได้เหมือนแต่คนที่พยายามทำให้คล้ายหรือมีกลิ่นอายก็อาจจะทำได้แต่จะเสียอัตลักษณ์ของการผสมผสานวัสดุซึ่งยากที่จะทำได้เหมือน
เราได้เห็นการต่อยอดจากไบเกอร์แจ็คเก็ต รวมทั้งรองเท้าบู้ตปลายแหลม แต่มาครั้งนี้ลูกเล่นใหม่ของเขากับแขนเสื้อที่ชวนให้เรานกึถึงช่วงบนของชุด “Traje de Mestiza” ของสตรีผู้ดีชาวฟิลิปปินส์ กับแขนเสื้อพองเป็นทรงกระดิ่งยกสูงตรงหัวไหล่ บางตัวก็เป็นแขนกระดิ่งที่พองตรงไหล่แต่ปลายแคบเข้า(นึกถึงเสื้อตัวบนของการ์ตูนสโนไวท์) เสื้อบางตัวแขนยาวปลายบานทรงปากแตรเช่นเดียวกับที่เราเห็นในภาพถ่ายโบราณ และเขายังก้าวข้ามไปถึงแขนเสื้อทรงกลีบมะเฟืองที่ล้ำไปกว่าจะเป็นการเอามาจากเครื่องแต่งกายใดๆ และเสื้อตัวบนที่มีแขนเหมือนเสื้อคลุมเคปตัวสั้นเมื่อมองจากด้านหลัง เพราะนี่คือการรังสรรค์แฟชั่นที่ไม่ใช่ทำชุดคอสตูม ดังนั้นเราจึงไม่ได้กลิ่นอายของความย้อนยุคหรือเป็นชุดในประวัติศาสตร์ใดๆ เพราะเขานำเอาวัสดุใหม่ๆ มาใช้กับโครงแขนเสื้อแบบนี้โดยเฉพาะหนังที่ฟอกนิ่มและบางเสมือนผ้าที่เพิ่มความมาสคิวลีน ไม่ได้ใช้ผ้าลูกไม้ที่แสนจะแฟมินีนตามขนบเดิม นอกจากนี้ยังจับคู่เสื้อตัวบนกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าแบบไบเกอร์แต่ตัวหลวมไม่ได้ฟิตตามรูปขา กางเกงขายาวแบบเรซซิ่งทรงตรงที่ซ่อนปลายไว้ในไบเกอร์บู้ตสูงถึงครึ่งน่อง
คล้ายกับ “วงโยธวาทิต” ที่ส่องสว่างด้วยสีสันที่สนุกสนาน คอลเล็กชันของรูปลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจในเชิงบวกที่ก้าวหน้า
ไปอย่างมั่นคง เป็นภาพแห่งความผสมกลมกลืนในสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดอบอุ่น เราจึงเห็นการต่อชิ้นผ้าหลากสีบนเสื้อตัวบนหรือการประดับลายแถบด้านข้างของกางเกงด้วยสีที่สดใส แม้แต่กระเป๋าถือใบหนึ่งก็เป็นการต่อหนังชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีต่างๆ มีความนูนเข้าด้วยกันเป็นรูปกระเป๋าถือทรงสี่เหลี่ยมที่เหมือนประกอบขึ้นจากตารางสี่เหลี่ยมหลากสี นอกจากนี้เขายังนำเอารูปทรงที่เชื่อมโยงกับเรขาคณิตมาตัดปะต่อกันด้วยการใช้สีของวัสดุที่ต่างการ ตกแต่งด้วยการทำครุยระบายฟรุ้งฟริ้งหรือเชิ้ตแบบคาวบอยที่มีแผ่นผ้าทรงเหลี่ยมปิดด้านหน้า(ไม่ได้เป็นเสื้อเชิ้ตผ่าอกติดกระดุมแบบสามัญ) เช่นเดียวกับแจ็คเก็ตของวงโยธวาทิตในช่วงปี 1940s ที่จะนิยมใช้เทคนิคนี้ซึ่งมาจากเครื่องแบบของทหารยุคโคโลเนียล
แต่เฌสกีแยร์ ก็นำเอาเสื้อปีกค้างคาวแบบร็อคเกอร์ยุคเซเวนตี้ส์มาขยายให้เหมือนเสื้อคลุมที่ทิ้งชายยาวไปด้านหลังแต่ด้านหน้าตัวเสื้อจะสั้นแค่เอวแต่ชายเชื่อมโค้งไปกับแขนเสื้อจึงทำให้เห็นด้านหน้าเป็นเสื้อตัวสั้น แต่ถ้าดูจากด้านหนังจะเหมือนเสื้อคลุมแขนค้างคาวตัวยาว แน่นอนว่าไม่มีแต่ความกรุยกราย แต่แจ็คเก็นคอปกทักซีโด้ตั้งปลายแหลมตั้งมี โดยคอปกเสื้อจะต่างสีกับตัวแจ็คเก็ตที่มีกระดุมสองแถวแต่ตัดเข้าตัวไม่หลวมโคร่ง เราจะเห็นว่าการสร้างสรรค์ของเฌสกีเยร์ นั้นไร้กรอบและขอบเขตจำกัดตัวเอง เขาผสมผสานทุกสิ่งให้ออกมาดูใหม่และเป็นสิ่งที่ชวนให้เรานึกถึงดินแดนในอุดมคติที่งดงาม
ไกลออกไป ไร้พรมแดนและเปิดกว้างสำหรับการผจญภัย คนหนึ่งๆ ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าพาสปอร์ตแห่งความสวยงาม
นั่นก็คือ การสร้างสรรค์(Creation)ซึ่งเช่นเคย เป็นสิ่งที่ไม่จำกัดและเสรี
Credits
Hair : Duffy
Make Up : Pat Mcgrath
Music
Arcade Fire « Reflektor »
Courtesy Of Sony Music France And Sony Atv France
Photos Looks Runway : Giovanni Gianonni
Photo Empty Set : Grégoire Vieille
Video Empty Set : Albert Moya