Saturday, October 5, 2024

สรุปไฮไลท์เด็ด Galaxy Unpacked 2021

ครั้งแรกของการรวมที่สุดแห่งประสบการณ์การเชื่อมต่อบนกาแลคซี่ดีไวซ์

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ประเดิมต้นปีอย่างยิ่งใหญ่ในงาน Galaxy Unpacked 2021 พร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกรวมถึงกาแลคซี่แฟนชาวไทย สำหรับการเปิดตัวสมาร์ทดีไวซ์ใหม่ล่าสุดที่จะพาทุกคนก้าวข้ามขีดความสามารถที่เคยมีให้ไปได้ไกลกว่าเดิมด้วยสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิปอย่าง Galaxy S21 Series 5G รวมถึงเติมเต็มอีโคซิสเต็มด้วยหูฟังเอียร์บัดไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด Galaxy Buds Pro อุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะ Galaxy SmartTag และประสบการณ์การเชื่อมต่อเทคโนโลยีอัจฉริยะทั้งในบ้านและในรถ เพื่อตอบสนองเทรนด์ความต้องการแห่งอนาคต

เรียกน้ำย่อยด้วยการเปิดตัว Galaxy Buds Pro หูฟังเอียร์บัดไร้สายที่มาพร้อมคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดจากซัมซุง โดดเด่นด้วยดีไซน์ระดับพรีเมี่ยมที่พัฒนามาเพื่อให้ผู้ใช้สวมใส่ได้สบายในเวลาที่ยาวนานมากขึ้น

  • โหมด Ambient Sound ที่ปรับการใช้งานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของผู้ใส่ได้ถึง 4 ระดับ สูงสุด +20dB อีกทั้งเก็บรายละเอียดของเสียงได้ดียิ่งขึ้น
  • มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิมเมื่อสลับการใช้งานจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตผ่านฟีเจอร์ Auto Switch ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมนวัตกรรม Active Noise Cancelling ครั้งแรกที่สลับโหมดฟังเสียงรอบข้างด้วยเสียงพูด โดยไม่ต้องสัมผัส อีกทั้งยังสามารถลดระดับเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุดถึง 99 เปอร์เซ็นต์

เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อของเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ จึงนำมาสู่การเปิดตัวอีกหนึ่งดีไวซ์ใหม่ล่าสุด Galaxy SmartTag อุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะชิ้นใหม่ที่ช่วยในการระบุตำแหน่งผ่านการเชื่อมต่อของบลูทูธ ช่วยให้สามารถค้นหาสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพียงแขวนไว้กับสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นกุญแจบ้าน กุญแจรถ กระเป๋า หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง พร้อมพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นสำหรับอัลตร้าไวด์แบนด์ (UWB) บน SmartTag+ ให้ค้นหาได้ไกลยิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล

เข้าสู่ไฮไลท์สำคัญกับการเปิดตัว Galaxy S21 5G และ Galaxy S21+ 5G แฟลกชิปรุ่นล่าสุด ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคลได้ดีกว่าเดิม

  • Galaxy S21 series 5G มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม บางเบา นำเสนอจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O 120Hz พร้อมอัตราการปรับรีเฟรชเรทโดยอัตโนมัติตามประเภทของเนื้อหา โดย Galaxy S21 5G มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ในขณะที่ Galaxy S21+ 5G โดดเด่นด้วยจอใหญ่เต็มตาขนาด 6.7 นิ้ว
  • สร้างความแตกต่างด้วยการดีไซน์กล้องหลังโฉมใหม่สไตล์ ‘คอนทัวร์ คัท (Contour cut)’ สุดไอคอนิกที่ผสานเข้ากับกรอบโลหะเพรียวบางบนวัสดุผิวด้านแบบ Haze Finish บริเวณด้านหลัง สะท้อนความเรียบหรู อีกทั้งยังมีหลายสีใหม่ให้เลือก รวมถึงสี Phantom Violet อันเป็นเอกลักษณ์
  • ให้ภาพที่ดีที่สุดกับฟีเจอร์ใหม่ Director’s View กับการแสดงมุมมองได้หลากหลายเลนส์ก่อนถ่ายจริง เพื่อให้ผู้ใช้เลือกเปลี่ยนเลนส์ได้ง่ายๆ ว่าจะถ่ายซูม หรือมุมกว้าง Vlogger View ที่สามารถบันทึกภาพจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน รวมถึงการแสดงภาพตัวอย่าง ด้วย Live Thumbnails เพื่อนำเสนอมุมมองผ่านเลนส์อื่นๆ การซูมภาพ หรือการเปลี่ยนเป็นภาพมุมกว้างได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
  • กล้องสามเลนส์ระดับโปรที่ทำงานร่วมกับ AI ให้ผลลัพธ์ของภาพที่คมชัดมากกว่าเดิม ด้วย Zoom Lock ใหม่ที่ให้ AI กำหนดจุดโฟกัสให้อยู่ตรงกลางเฟรม เพื่อลดผลกระทบจากอาการมือสั่นเมื่อบันทึกภาพด้วยการซูม 30 เท่า
  • วิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งขึ้นในโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode) กล้องจะใช้ระบบการวิเคราะห์แบบ 3 มิติเพื่อแยกวัตถุออกจากพื้นหลัง รวมถึงยังมีตัวเลือกสำหรับการจัดแสงในสตูดิโอเสมือนจริง (Virtual studio) และเอฟเฟกต์พื้นหลังจาก AI เพื่อให้วัตถุโดดเด่นขึ้นมา
  • มาพร้อมกับ One UI 3.0 ใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดสรรการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างอิสระ พร้อมแบ่งวิดเจดการแจ้งเตือนออกเป็นหมวดหมู่ที่สังเกตได้ง่าย สามารถใช้งานร่วมกับพีซี รวมถึงปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับหน้าจอแบบอัตโนมัติ
  • ความจุแบตเตอรี่ที่มากขึ้นเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์และสายซีรีส์ได้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดย 4,000 mAh สำหรับ Galaxy S21 5G และ 4,800 mAh สำหรับ Galaxy S21+ 5G
  • เพิ่มระบบความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย Samsung Knox Vault ให้ผู้ใช้สามารถลบข้อมูล Metadata ของตำแหน่งที่อยู่ออกจากรูปภาพก่อนทำการแชร์ได้ และด้วยฟังก์ชัน Private Share  ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดรายชื่อบุคคลที่จะเข้าถึงเนื้อหา พร้อมทั้งระยะเวลาในการเข้าใช้งาน เพื่อการแบ่งปันเนื้อหาได้อย่างไร้กังวล

เรียกเสียงฮือฮาขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Galaxy S21 Ultra 5G แฟลกชิปที่พร้อมมอบประสบการณ์ความเป็นที่สุดในทุกด้าน

  • ถูกออกแบบให้ทนทานยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอกระจก Corning® Gorilla® Glass Victus™ ซึ่งนับเป็น Gorilla Glass ที่แข็งแรงที่สุด โดย Galaxy S21 Ultra 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Phantom Black และ Phantom Silver บนวัสดุผิวด้านแบบ Haze Finish สุดคลาสสิก
  • หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ครั้งแรกกับการมอบประสบการณ์ การแสดงผลที่ลื่นไหลจากอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และจอแสดงผล Quad HD+ พร้อมกัน โดยอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอนั้น ยังสามารถปรับระดับที่ 10Hz ถึง 120Hz ตามเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ
  • กล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงเซ็นเซอร์แบบโปรเวอร์ชั่นใหม่ขนาด 108MP ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนซัมซุง ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพ 12 bit HDR ด้วยสีสันที่คมชัดมากขึ้นถึง 64 เท่า และช่วงไดนามิกกว้างขึ้นกว่า 3 เท่ารวมถึงการบันทึกไฟล์ Raw 12-bits[3] มาตรฐาน DSLR ไม่เสียรายละเอียดความคมชัด
  • ครั้งแรกกับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่ 60fps ได้จากทุกกล้อง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
  • มาพร้อมกับ Space Zoom 100x ที่ขับเคลื่อนโดยระบบเลนส์เทเลแบบคู่ (Dual-tele) ตัวแรกของซัมซุง ซึ่งแบ่งเป็นออพทิคอล (Optical) 3x จำนวน 1 กล้อง และออพทิคอล 10x จำนวน 1 กล้อง โดยทั้งคู่ติดตั้ง Pixel (2PD) AF ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน
  • เซ็นเซอร์ Bright Night เวอร์ชั่นใหม่ ลดจุดรบกวนของภาพ (Noise reduction) และเทคโนโลยี Nona-binning 12MP ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพภายในห้องที่มีแสงน้อย หรือทิวทัศน์ในเวลากลางคืนได้ดียิ่งขึ้น
  • ครั้งแรกของ Galaxy S series ที่รองรับปากกาอัจฉริยะ S Pen ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาดภาพ จดโน้ต แต่งภาพ และเซ็นเอกสารได้ไม่ต่างจาก Galaxy Note หรือ Galaxy Tab อีกทั้งยังรองรับ S Pen Pro ที่รองรับ Air Action ได้อีกด้วย
  • สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ Wi-Fi 6E[4] ซึ่งจะมอบแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ที่มากกว่า และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม

ขั้นกว่าของการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดบนกาแลคซี่ อีโคซิสเต็มในทุกที่ทุกเวลา

  • เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสมาร์ทโฮม (Smart Home) อย่างง่ายดายด้วยการทำงานร่วมกับ Google Nest ในการเชื่อมต่อกับ Google Assistant เพื่อเป็นตัวกลางในการเข้าควบควบคุมอุปกรณ์ IOT ต่างๆภายในบ้าน
  • ให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Galaxy S21 series 5G เพื่อควบคุมสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ที่อยู่ในบ้านได้ตรงจากรถของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิในบ้าน เปิดปิดประตูไฟฟ้า ความสว่างของบ้าน เครื่องซักผ้า รวมถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพียงแค่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถยนต์ที่รองรับ Android Auto ผ่านแอปพลิเคชัน SmartThings

สุดท้ายนี้ ซัมซุงยังมีการดำเนินงานสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการเปิดตัว Generation17 ที่ผสานพลังของสมาร์ทโฟนกาแลคซี่เข้ากับแพลตฟอร์ม UNDP เพื่อบรรลุเป้าหมาย 17 ประการบน Samsung Global Goals ในการขจัดขจัดความหิวโหย ต่อสู้กับความไม่เสมอภาค และทำให้โลกกลับมาสะอาดอีกครั้ง โดยผู้ใช้งานแอปพลิเคชันสามารถมีส่วมร่วมในการเคลื่อนไหวระดับโลกนี้ เนื่องจากบริษัทอยากสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่สดใสกว่าเดิม

Other Articles