Wednesday, December 11, 2024

คุณตกหลุมรัก Chris Hemsworth จากบทไหน

เหตุผลที่ผมเป็นนักแสดงก็เพราะชอบหนังและละคร แต่ก็เป็นเพราะว่าครอบครัวเราไม่มีเงินด้วย ผมอยากจ่ายค่าบ้านให้พ่อกับแม่” พระเอกหนุมออสซี่ซึ่งเป็นลูกชายคนกลางของสามพี่น้องเฮมส์เวิร์ธให้สัมภาษณ์ไว้ แน่นอนว่าเขาทำสำเร็จ ตลอด 10 กว่าปีในโลกฮอลลีวูด เขาเป็นที่รู้จักในฐานะพระเอกทำเงินลำดับต้นๆ ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ต่างๆ สามารถดูแลครอบครัว เพื่อนๆ รวมทั้งช่วยเหลือสังคมด้วย

คริส เฮมส์เวิร์ธ ดาราหนุ่มวัย 36 จากออสเตรเลีย เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงจาการแสดงละครโทรทัศน์ในประเทศบ้านเกิด Home and Away ก่อนจะย้ายไปอเมริกาในปี 2007 ผลงานเรื่องแรกของเขาในฮอลลีวูดคือ Star Trek (2009) ซึ่งตอนนั้นสูงเกินจะรับบทตัวเอกเลยได้แสดงเป็นพ่อของคริส ไพน์ในเรื่อง  ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกในบทเทพเจ้าสายฟ้า Thor (2011) หลังแต่งงานกับนักแสดงและนางเแบบ เอลซ่า พาทากีได้เพียงแค่ 5 เดือน  ปัจุบันนี้ คริสใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและลูกๆ ทั้งสามที่ไบรอนเบย์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แต่เขาก็มีผลงานออกมาให้เราได้รับชมอย่างต่อเนื่อง ว่าแต่คุณชื่นชอบผลงานของเขาเรื่องไหนกันบ้างล่ะ

Thor

ตอนที่ประกาศชื่อว่า คริส เฮมส์เวิร์ธ รับบทเป็นธอร์ในภาคแรก มีแต่คนวิจารณ์ค่ายมาร์เวลที่กล้าเดิมพันสร้างหนังฟอร์มยักษ์ด้วยการเลือกพระเอกโนเนม แต่ในวันนี้สิ ปฏิเสธไม่ได้ว่า บทธอร์ของคริส เฮมส์เวิร์ธคือหนึ่งในบทที่น่าจดจำ ทั้งยังเป็นแกนหลักของภาพยนตร์รวมซูเปอร์ฮีโร่ Avengers ทุกๆ ภาค (ต้องกราบขอบคุณ ซาร่าห์ ฟินน์ แคสติ้งไดเร็กเตอร์ที่เห็นแววพ่อหนุ่มออสซี่คนนี้) จากธอร์คิ้วทองผมยาวในภาคแรก มาสู่ธอร์ผมสั้นกล้ามแน่นใน Thor: Ragnarok และธอร์อ้วนเพราะซึมเศร้าใน Anvengers Endgame ทำให้เราเรียกเขาว่าเทพพระเจ้าสายฟ้าไปโดยปริยาย แถมความนิยมของคาแร็กเตอร์นี้นำไปสู่การสร้างธอร์ภาคสี่ Thor: Love & Thunder ซึ่งจะได้ดูกันในปี 2022 และถึงแม้บทธอร์อ้วนอาจทำให้แฟนๆ คร่ำครวญ แต่มันก็ทำให้เราเห็นถึงความกล้าและไม่ติดหล่อของคริสเฮม ว่ากันว่าจริงๆ แล้ว ผู้กำกับไม่ได้จะให้อ้วนตลอดทั้งเรื่อง แต่เป็นความอยากของพ่อพระเอกเองต่างหาก “ผมชอบที่ว่าอะไรก็เป็นไปได้ ไม่ต้องยึดติดอยู่กับความคาดหวัง ผมเอ็นจอยกับธอร์เวอร์ชั่นนี้นะ”  คริสเฮมกล่าว

The Huntsman

ในภาพยนตร์ Snow White and The Huntsman บทเด่นน่าจะตกอยู่ที่คริสเตน สจวร์ต ซึ่งรับบทสโนว์ไวท์ผู้ไม่บอบบางเหมือนในเทพนิยาย และควีนราเวน่า แม่เลี้ยงใจร้าย ซึ่งรับบทโดยชาร์ลีซ เธอลอน แต่การหลบหนีเงื้อมมือควีนแม่มดของนางเอกก็จะขาดความยินดีให้บริการตลอดเส้นทางของเอริค พรานป่าซึ่งรับบทโดยคริสเฮมไปไม่ได้เลย บทบู๊ในโลกแฟนตาซีเหมาะกับพระเอกหนุ่มคนนี้ราวกับว่าเกิดมาเพื่อจะใส่ชุดหนัง ไว้ผมยาว ทั้งยังเชี่ยวชาญการขี่ม้า ฟันดาบ ยิงธนู และเอี้ยวตัวหลบทุกสิ่งยามสู้กับอมนุษย์ได้ในคราวเดียว หรือแม้แต่ในภาคต่อ The Huntsman: Winter’s War ที่เนื้อหาเล่าถึงความเป็นมาของเหล่าพรานรวมไปถึงเมื่อครั้งยังมีราชินีพี่น้องสององค์ ขณะที่สาวๆ ในเรื่อง ทั้งชาร์ลีซ เธรอน เอมิลี่ บลันต์ และเจสสิก้า ชาสเตนต้องมาประชันกันว่าใครงามล้ำเลิศในปฐพี คริสเฮมมิต้องแข่งกับผู้ใดเลย ถึงเขาจะออกมาเผยในภายหลังว่าไม่ได้ปลื้มภาคนี้สักเท่าไหร่เพราะโทนของเรื่องที่เปลี่ยนไปจากภาคแรก แต่ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดูเพลินได้อยู่ 

Ghostbusters

คริสตัวจริงเป็นคนตลก เพื่อนๆ นักแสดงยืนยันเรื่องนี้ได้ดี เพราะงั้นคงน่าเสียดายหากไม่เห็นเขาแสดงภาพยนตร์คอเมอดี้บ้าง ซึ่งถ้าใครอยากดู เราขอแนะนำ Ghostbusters ภาพยนตร์รีเมกของผู้กำกับพอล ฟีค เกี่ยวกับบริษัทกำจัดผีทีมหญิงล้วนที่ต้องมารับจ้างกำจัดปีศาจที่ต้องการครองโลก และได้คริสเฮมมารับบทเควิน เลขาหนุ่มหล่อแสนทึ่ม กับรอยยิ้มที่ทำให้เขาเป็นขวัญใจของสาวๆในออฟฟิศ คริสเฮมให้สัมภาษณ์ว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้ improvise จริงๆ “ก่อนหน้านั้นผมเคยแต่ยึดติดกับบทที่เขียนไว้นในหน้ากระดาษ เล่นแบบเซฟไว้ก่อน แต่พอได้แสดงเรื่องนี้ผมสลัดทุกอย่างออกไป” เขาบอกว่ามันเปิดโลกและทำให้เขาเจอวิธีการแสดงของเขาเอง “มันเป็นอิสระกว่า สร้างสรรค์ได้มากกว่า สนุกกว่า แล้วมันก็มีความต่อเนื่องบางอย่างแบบที่บทที่ถูกเขียนไว้ก่อนมันเอาออกมาไม่ได้” 

Men In Black

ถ้าแอดโฆษณาของแบรนด์ Hugo Boss ทำให้คุณตกหลุมรักคริสเฮมในชุดสูทหรือเสื้อเชิ้ตเท่ๆ จนอยากเห็นเขาในมาดหล่อสะอาดบ้างล่ะก็ เราขอให้คุณดู Men In Black: International  ที่ใช้ทุนสร้างไป 110 ล้านเหรียญ ที่จริงเนื้อเรื่องก็ออกจะแฟนตาซี แต่เป็นแฟนตาซีแบบโลกอนาคต เต็มไปด้วยมนุษย์ต่างดาว และเทคโนโลยีสุดไฮเทคมากมาย  ถ้าคุณฝันถึงสายลับในชุดสูทดำที่ต้องบู๊สะบั้นหั่นแหลก แต่ก็มีซีนเท่ ซีนอารมณ์ และซีนขำๆ ด้วยในคราวเดียวกัน คุณน่าจะต้องชอบคริสเฮมในบทเอเจนต์เอช ขนาดมนุษย์ต่างดาว คนละสปีชี่กับเรายังคิดว่าตาคนนี้ yummy เลย  แถมในเรื่องนี้ เอช ‘เอเจนต์ที่ดีที่สุดผู้เซฟโลกนี้ด้วยตัวเองและกึ๋น’ ยังโคจรมาประกบคู่กับเทสซ่า ธอมป์สัน ผู้รับบทเอเจนต์เอ็มและเคยป๊ะกันมาก่อนใน Thor Ragnarok  ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือของคริสเฮมในหนังที่ทุกคนจับตาหลังจาก MIB ทั้งสามภาคก่อนหน้าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เอฟ แกรี่ เกรย์ ผู้กำกับบอกว่าคริสเฮมเป็นตัวเลือกแรกของเขา “ซูเปอร์สตาร์กับนักแสดงที่ฝึกฝีมือมาอย่างดีมีความแตกต่างกัน เขาคือส่วนผสมของทั้งสองอย่าง”

Extraction

คริส เฮมส์เวิร์ธ กับบทบาทล่าสุด ไทเลอร์ เรก  ทหารตลาดมืดที่รับจ้างให้ไปช่วยชีวิตลูกชายมาเฟียที่ถูกลักพาตัวไปยังเมืองธาการะหว่างที่พ่อติดคุก  แน่นอนว่ามันเป็นภารกิจเสี่ยงตายสุดๆ แต่ก็ไม่ได้มีแค่ระเบิดตูมตามหรือยิงกันกระจุยเท่านั้น เพราะเนื้อหายังเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความผูกพันของตัวละคร ลองดูตัวอย่างภาพยนตร์คุณก็จะเข้าใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้เดิมตั้งชื่อว่า Dkaka เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แนวแอ็กชั่นผสมทริลเลอร์ซึ่งจะฉายทาง Netflix ทั้งยังเป็นผลงานแรกของผู้กำกับ แซม และฮาร์เกรฟ เขียนบทโดยโจ รุสโซ ที่เรารู้จักดีผ่านผลงานอย่าง Avengers นอกจากถ่ายทำที่อินเดียและบังกลาเทศแล้ว ยังยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทยตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2018-2019 (ถ้ายังจำคลิปคริสเฮมกับรถติดในกรุงเทพฯ และคริสเฮมกินผัดไทยที่โรงแรมเพนนินซูล่าได้ ช่วงนั้นนั่นแหละ) แถมเรายังได้เห็นภาพเบื้องหลังกองถ่ายที่คริสเฮมเนื้อตัวมอมแมมแต่หล่อทะลุคราบ ซึ่งคุณผู้กำกับบอกว่า “เราพยายามจะทำให้เขาสกปรก เลอะเลือด และให้เขาไว้หนวดไว้เคราแล้วเพื่อให้เขาดูโทรมเหมาะกับเนื้อเรื่อง แต่เหมือนยิ่งให้เปื้อนโคลนและเปื้อนเลือดแค่ไหน เขาก็ยิ่งหล่อขึ้นอีก เราทำไม่สำเร็จจริง ๆ” แถมในเรื่องยังมีฉากแอ็กชั่นที่คริสบอกว่าซับซ้อนที่สุดเท่าที่เขาเคยแสดงมา “และอย่างกับซับซ้อนไม่พอนะ ผู้กำกับยังตัดสินใจถ่ายแบบ oner (ช็อตยาวต่อเนื่องหลายช็อตเรียงต่อกันให้เป็นช็อตเดียว) ยาวเกือบ 12 นาทีซึ่งดูแล้วลุ้นจนเหนื่อยๆพอๆกับตอนถ่าย” พ่อว่ามาแบบนั้น เตรียมรอชมกันได้เลย

Extraction เริ่มฉายทาง Netflix วันที่ 24 เมษายน 2020

Feature Image: Getty Images

Other Articles