เดิมผ้าทวีด (Tweed) คือผ้าพื้นถิ่นของชาวสก็อตโดยเกิดจากการนำเส้นใยขนสัตว์มาทอด้วยมือ ในภาษาสก็อต เรียกว่า tweel ซึ่งหมายถึงผ้าทอลายทแยง แต่อาจจะเริ่มเพียนไปตามชื่อ Tweed ซึ่งเป็นชื่อแม่น้ำที่ไหลคั่นอังกฤษกับสก็อตแลนด์
นับตั้งแต่มาดมัวแซล ชาเนลได้พบรักกับดยุคแห่งเวสมินสเตอร์ในช่วงทศวรรษที่ 1920s ทำให้เธอได้เยือนสก็อตแลนด์และตกหลุกรักผ้าพื้นถิ่นนี้ไปด้วย เธอเป็นดีไซเนอร์คนแรกที่นำผ้าทวีดซึ่งนิยมใช้ตัดชุดผู้ชายมาใช้ตัดเย็บเสื้อผ้าผู้หญิง จนต่อมาได้นกลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ชาเนลซึ่งจะว่าไปก็น่าจะ 100 ปีแล้วสินะ
ผ้าทวีดซึ่งในภาษาสก็อตดั้งเดิมเรียกว่า Twill และน่าจะเพี้ยนมาจาก ทวีด ซึ่งเป็นชื่อแม่น้ำที่กั้นระหว่างอังกฤษกับสก็อตแลนด์ เป็นแรงบันดาลใจให้ผลงานอื่นๆ ของชาเนล รวมถึงคอลเลกชั่นไฮจิวเวลรี่ล่าสุดในชื่อ Tweed de Chanel ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าทวีดทั้งคอลเลกชั่นเป็นครั้งแรก ประกอบด้วยผลงาน 45 ชิ้น ทั้งสร้อยคอ แหวน กำไล รวมทั้งนาฬิกาอีก 3 รุ่น แต่ละชิ้นโดดเด่นด้วยเฉดสีและเท็กซ์เจอร์ที่จำลองมาจากผ้าทวีด ซึ่งเป็นเทคนิคการทอแบบเก่าแก่ของสก็อตแลนด์ และพัฒนาจนกลายมาเป็นผ้าที่ประณีตนุ่มนวลสมกับเป็นงานฝีมือโดย เมซง เลอซาจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของชาเนล
ปาทริซ เลอเกโร ผู้อำนวยการฝ่ายสตูดิโอจิวเวลรี่ของชาเนลได้เดินทางไปดูกรรมวิธีการทอผ้าทวีดที่เมซง เลอซาจ “ฉันสงสัยมานานแล้วว่าเราสามารถจำลองเทคนิคการทอมาใช้กับจิวเวลรี่เพื่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์แบบเดียวกันได้ไหม เพราะฉะนั้นคอลเลกชั่นนี้จึงเปรียบเสมือนการเดินทางไปสู่ดินแดนที่ไม่มีใครรู้มาก่อน”
การจะถ่ายทอดความอ่อนนุ่มของผ้าไปสู่ชิ้นงานจิวเวลรี่โดยใช้วัสดุที่มีความแข็งอย่างทอง นับได้ว่าท้าทายทีเดียว แต่ผลงานที่ออกมาก็ดูนุ่มนวล มีเท็กซ์เจอร์โดดเด่น และเต็มไปด้วยความเฟมินีนอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเช่นผลงานไฮไลต์ Tweed Couture Necklace ซึ่งใช้เวลาสร้างสรรค์นานถึง 980 ชั่วโมง งดงามราวกับเพชร แซฟไฟร์ ทับทิม และมุกที่นำมาร้อยเรียงเป็นเส้นยืนตัดกับเส้นพุ่งอย่างทองที่บิดเป็นเกลียว หรือชุด Tweed Contraste ที่ประดับเพชร ออนิกซ์ มุก ตัดกับตัวเรือนทองและโซ่สีทองที่ดูราวกับงานทอจริงๆ คอลเลกชั่นนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ความสามารถและจินตนาการอันไร้ที่สิ้นสุดของเมซงเมื่อยามก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่อย่างแท้จริง
“To translate the flexibility of fabric in jewelry, using materials that are hard and weighty was a real challenge,”
Patrice Legguerau
