แค่ฟังว่ารันเวย์ครั้งนี้จัดกลางสุสานอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ก็ชวนให้ขนลุกสะพรึง!
ยังคงไม่หมดมุก ‘ความงามจากอารยธรรมโลกเก่า’เอาง่ายๆ สำหรับผลงานลายเซ็นของ ‘อเลซซานโดร มิเคเล่’ ที่คงถวิลหาความรุ่งเรืองสูงสุดจากวัฒนธรรมหลากเชื้อชาติ จับมาทวิสต์บนแนวคิด ‘ชำแหละ สับเปลี่ยน’ กลายเป็นธรรมเนียมการแต่งกายแบบใหม่ของหนุ่มสาวกุชชี่ ที่เฝ้ารอคอยเตรียมถอยไอเท็มเด่นจากรันเวย์ไว้เติมพื้นที่ในตู้เสื้อผ้า เพื่อเตรียมรอแมตช์ลุคโรแมนติกร่วมสมัยในฤดูกาลถัดไป
เช่นเดียวกับ กุชชี่ ครูซ คอลเลกชั่น 2019 ครั้งนี้ที่นักออกแบบหนุ่มมือฉมัง ยังคงแสดงจุดยืนทางสุนทรียะแห่งงานออกแบบเหนือชั้น ด้วยแนวคิดที่มองเห็นความงดงามจากจินตนาการ ‘โลกหลังความตาย’ กลายเป็นจุดตั้งต้นให้มิเคเล่ปลุกชีพงานออกแบบเหนือกาลเวลา กลับมาโลดแล่นอีกครั้งบนรันเวย์กลาง ‘เลซา ลิส์คองส์’ (Les Alyscamp) สุสานโรมันโบราณอันโด่งดังที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ที่ตั้งอยู่ริมกำแพงเมือง อาร์ลส์ (Arles) ดินแดนอารยธรรมริมแม่น้ำโรน ฟากแคว้นโพรวองซ์ (Provence) ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งเปิดประตูต้อนรับแขกเหรื่อฟร้อนต์โรว์กว่า 400 ชีวิต ที่มาร่วมชื่นชมผลงานคอลเลกชั่นคั่นฤดูกาล 2019 ในบรรยากาศแสนวังเวงจากเสียงสวดอ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้าในบทเพลง Vespers for the Blessed Virgin ซึ่งปกคลุมด้วยหมอกควันราวและแสงเทียนรำไรจุดรายล้อมรอบไปทั่วราวกับอยู่ในโบสถ์ยุคโกธิคโบราณ ก่อนที่เปลวไฟจะลุกโชนเป็นทางยาวไปทั่วสุสานเก่าแก่แห่งนี้ เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่า ประตูโลกหลังความตายได้เปิดออก พร้อมให้วิญญาณหนุ่มสาวกุชชี่กว่า 114 ชีวิตได้มาอวดโฉมลุคหลบพักร้อนจาก ครูซ คอลเลกชั่น 2019
ที่อบอวลไปด้วยความงดงามจากอดีตกาล กลิ่นอายอารยธรรมความเชื่อของชาวกรีก โรมันเกี่ยวกับเทพปกรณัมและโลกหลังความตาย ถูกหยิบยกมาตีความอย่างเหนือจินตนาการ เข้ากับองค์ประกอบจอมขบถจากหลากยุคสมัย ทั้งรายละเอียดเครื่องแต่งกายสุดฟูฟ่าของร็อกสตาร์คนดัง รูปลักษณ์ของเหล่านายแบบ นางแบบ ดูสลับเพศไร้ซึ่งกฎเกณฑ์จากที่เคยมีมา ลายพิมพ์โลโก้ดับเบิ้ลจีที่คงกลับมาหลอกหลอน แทรกตัวอยู่ในองค์ประกอบเครื่องแต่งกายตั้งแต่เสื้อคลุมนักบวชยุควิคตอเรียน เดรสกำมะหยี่ปักลายโครงกระดูก เดรสพันไหล่เบี่ยง กางเกงแต่งเลื่อมละลานตา ชุดกระโปรงลายพ้าผันคอ เลกกิิ้งเพ้นต์คีย์เวิร์ด Memento Mori ที่สื่อถึงศิลปะของการตาย ไปจนถึงชุดเจ้าสาวแต่งระบายที่ทิ้งท้ายภาพหลอนของเลดี้ที่ตื่นขึ้นจากหลุมศพ
เชื่อมโยงกับเรื่องราวความเป็นมาของสุสานมรดกโลกแห่งนี้ด้วยรายละเอียดที่แฝงนัยยะทั้งถ้อยคำบอกเล่าในบทกวี นำมาผสมผสานจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ใหม่ในแบบของกุชชี่ ร่วมกับบรรดาแอ๊กเซสเซอรีชิ้นเด่น ซึ่งถูกตกแต่งแฝงซ่อนกิมมิกด้วยสัญลักษณ์แห่งความตาย ทั้งหัวกะโหลก โรงศพแก้ว เข้ากับสไตลิ่งเหนือชั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องหัวแต่งขนนกที่อุทิศแด่ Frank Olive ดีไซเนอร์หมวกผู้โปรดปรานของ Diana Ross ทรงผมดัดหยิกก้นหอยเลียนแบบ Mary Queen of Scots ราชินีผู้โด่งดังจากคดีกบฎแผ่นดินในอดีตกาล
โดยทุกชิ้น อเลซซานโดร มิเคเล่ ล้วนมอบความหมายให้กับการแต่งกายของหนุ่มสาวกุชชี่ได้มองย้อนถึงอดีตอันแสนรุ่งเรือง ที่กลายเป็นรากเหง้าของจุดเริ่มต้นแนวคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ถูกนำมาสะท้อนอย่างมีเรื่องราวล้ำลึก ผ่านมุมมองของผู้สวมใส่ให้สามารถแสดงตัวตน ความคิด และจุดยืนทางแฟชั่นที่แม้จะแตกต่างกันทั้งสไตล์ ยุคสมัย ไปจนถึงกาลเวลา แต่กลับอยู่รวมกันได้อย่างกลมกลืน จนกลายเป็นภาพลักษณ์ใหม่ของหนุ่มสาวในยุค พ.ศ. นี้