Friday, April 19, 2024

ตากอากาศที่ มาร์เซย เมืองท่าสำคัญของฝรั่งเศส

ถ้าพูดถึงฝรั่งเศส แน่นอนว่าเราต้องนึกถึงปารีส ปารีส และปารีส! คงเรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะบอกว่า “เราจะไปเที่ยวมาร์เซย” นะ เพราะในสายตาของคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาร์เซยคงไม่ได้ถูกมองในฐานะเมืองท่องเที่ยวนักถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆ อย่างปารีส นีซ หรือคานส์ แต่เมื่อกาตาร์ แอร์เวย์ชวนเราไปสัมผัสจริงๆแล้ว เราพบว่าเมืองนี้ก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย

หนึ่งในความรู้เกี่ยวกับมาร์เซยที่นักเรียนฝรั่งเศสอย่างเราจำได้ขึ้นใจคือ มาร์เซยเป็นเมืองท่าสำคัญของฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากปารีส แต่ความรู้ใหม่ที่เราได้จากทริปนี้คือมาร์เซยยังเป็นเมืองที่มีแสงแดดมากที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส ว่ากันว่าที่นี่มีวันที่แสงแดดสดใสซึ่งเป็นที่ปรารถนาของชาวยุโรปมากกว่า 300 วันต่อปีเลยทีเดียว ที่นี่จึงเป็นคล้ายๆเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่แสวงหาแสงแดดและท้องทะเลสวยๆ

วิเยอ ปอร์ต
ในวันที่อากาศดีๆ เราจะได้เห็นชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวออกมาเดินเล่นรับไออุ่นที่วิเยอ ปอร์ตหรือท่าเรือเก่ากันเต็มไปหมด ปัจจุบันนี้ทางเมืองมาร์เซยได้ทำถนนคนเดินแบบกว้างสุดๆ ให้ผู้ที่สัญจรเดินชมวิวกันได้อย่างสบายอารมณ์ นับเป็นมุมหนึ่งที่น่ารักมากของเมืองนี้ แถมในมุมหนึ่งยังเป็นที่ตั้งของ Vieux Port Pavilion ผลงานของบริษัทสถาปนิก Foster + Partners ที่สร้างขึ้นในวาระที่มาร์เซยได้รับตำแหน่งเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปีค.ศ. 2013

เลอ ปานิเยร์
ถ้าพูดถึงเขตเมืองเก่าจริงๆ คงต้องเป็นย่านเลอ ปานิเยร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดในยุคที่มาร์เซยยังเป็นเมืองกรีก (เมืองนี้เป็นเมืองที่ก่อตั้งโดยชาวกรีก) และแม้อาคารส่วนใหญ่จะเสียหายจากแรงระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองแต่หลังจากที่มาร์เซยได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปประจำปีค.. 2013 บริเวณนี้ก็ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ ปัจจุบันเลอ ปานิเยร์เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น

เวิร์กช็อปทำสบู่
แน่นอนว่ามาถึงมาร์เซยแล้วต้องแวะร้านทำสบู่ซึ่งเป็นเหมือนสินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ สำหรับสบู่ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายนั้น ของแท้ต้องเป็นสีเขียว เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก ใช้บำรุงผิวดีแท้ โดยร้านขายสบู่ที่เก่าแก่ของเมืองอย่าง La Grande Savonnerie จะมีการสาธิตการทำสบู่ให้ดู พร้อมให้ลองปั๊มตราบนสบู่เพื่อเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกด้วย

หมู่บ้านชาวประมง
วัลลง เดส์ โซฟฟ์ คือหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่โด่งดังจากเมนูเด็ดขึ้นชื่อ นั่นคือบุยยาแบสหรือซุปปลาที่ทำจากปลาห้าชนิด ร้านที่เราได้ลองชิมก็คือ Chez Fonfon ซึ่งเป็นร้านดังของเมือง

มหาวิหารโนเทรอดาม เดอ ลา การ์ด
มหาวิหารแบบนีโอไบแซนไทน์แห่งนี้ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปแล้วสร้างขึ้นในปีค.. 1214 และโดดเด่นด้วยรูปปั้นพระแม่มารีสีทองที่คอยพิทักษ์เหล่านักเดินเรือและชาวประมงของเมืองว่ากันว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ณมุมไหนของมาร์เซยคุณก็จะมองเห็นพระแม่อยู่เสมอนอกจากด้านนอกแล้วภายในยังเป็นที่ประดิษฐานพระแม่มารีองค์สีดำที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวมาร์เซย์และคริสตศาสนิกชนทั่วโลกด้วย

ลา ซิเต้ ราดิเยิร์ส
ผลงานที่เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ในตำนานที่ออกแบบโดยเลอ คอร์บูซิเยร์ อาคารคอนกรีตแห่งนี้นับเป็นต้นกำเนิดของคอนโดมิเนียมในยุคปัจจุบัน และเนื่องจากสถาปนิกต้องการให้ที่นี่เป็นเมืองในเมืองอีกทอดหนึ่ง (เพื่อแก้ปัญหาไร้บ้านหลังเกิดสงคราม) ภายในจึงประกอบด้วยพื้นที่สำหรับพักอาศัย พร้อมสาธารณูปโภคที่จำเป็น ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงเนิร์สเซอรี่ สระว่ายน้ำ ลู่วิ่ง พร้อมดาดฟ้าที่เปิดรับแสงแดดและมองเห็นทะเลที่อยู่ไม่ไกล นี่แหล่ะยูโทเปียในตำนาน

Marseille Travel Guide

Where to Stay

โรงแรม Intercontinental Hotel Dieu คือโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นโรงพยาบาลมาก่อน นอกจากห้องพักอันแสนสะดวกสบายแล้ว ที่นี่ยังมาพร้อมกับวิวสุดอลังการ พร้อมสาธารณูปโภคเพียบพร้อม ทั้งร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และสปาของคลาแรงส์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ marseille.intercontinental.com

How to Go

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ ให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯโดฮานีซ และจากนีซ คุณสามารถเดินทางต่อไปยังมาร์เซย์ทางรถยนต์ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองตั๋วโดยสารที่เว็บไซต์ qatarairways.com

More Information

เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวมาร์เซย์มีข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเมือง แผนที่ รวมถึงบริการทัวร์ต่างๆ ให้เลือกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ marseille-tourisme.com   

PHOTOS: COURTESY OF MARSEILLE TOURISM

Other Articles