ลอฟฟีเซียลได้พูดคุยกับคุณหมิว-ณัฐกานต์ แห่ง La Couture บริษัทเวดดิ้ง แพลนเนอร์ที่มาพร้อมกับบริการครบวงจรและประสบการณ์ 5 ปี โดยเป็นการต่อยอดกิจการของคุณพ่อที่ดูแลเรื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับเวดดิ้ง สตูดิโอ กว่า 800 ร้านทั่วประเทศ
ตั้งแต่ระบบไฟ ระบบฉาก ไปจนถึงงานสีและการพิมพ์รูป รวมไปถึงบุคลิกที่เป็นคนชอบพูดคุยของคุณหมิวเอง “พอทำแล้วรู้สึกว่ามีอะไรที่อยู่ในตัวเองที่ตอนแรกไม่รู้ เหมือนอยู่ในสายเลือดค่ะ ยิ่งทำก็ยิ่งรัก เพราะเราหลงเสน่ห์ของเรื่องราวความรักของแต่ละคู่มากๆ อยากจะถ่ายทอดให้คนที่มาร่วมงานรู้สึกได้ค่ะ” นอกจากนี้คุณหมิวยังดูแลลูกค้าทุกคู่ด้วยตัวเอง (ซึ่งในปีนี้มีทั้งหมดกว่า 85 คู่แล้ว!) โดยมีผู้ช่วยที่คอยติดต่อ ทีมกราฟิกที่ช่วยกันคิดแบบ
ถึงแม้ว่าจะมีปัญหายิบย่อยมากมาย แต่เธอก็จัดการได้ด้วยความมองโลกในแง่ดี “ที่จริงหมิวไม่มองมันเป็นปัญหานะ เหมือนเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่า เรามองว่ามันเป็นวันเดียวของเขา” ตั้งแต่วันแรกที่เตรียมงานที่คนหลายๆคนที่มีอำนาจตัดสินใจ (ซึ่งมักจะเป็นเจ้าสาวและคุณแม่เจ้าบ่าว) อาจมีความเห็นความชอบไม่ตรงกัน การตกลงแบบของงานแต่งงานอาจจะต้องใช้เวลาเสนองานและแก้ไขกลับไปกลับมาเกือบปี ไปจนถึงวันงานที่อาจเกิดปัญหาเมื่อไหร่ก็ได้ คุณหมิวจึงต้องอยู่ในงานเพื่อแก้ไขทุกสถานการณ์ “ในบรรยากาศที่สวยงาม ต้องไม่มีใครรู้ว่าออแกไนเซอร์เคร่งเครียดวุ่นวายกันอยู่มากๆ”
“เพราะความที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวส่วนมากก็คงจะแต่งครั้งเดียว แต่เราจัดเป็นอาชีพ ก็จะรู้จุดที่ต้องระวัง แนะนำให้ดีกว่า แถมคนสมัยนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วย” นั่นคือเหตุผลหลักที่ควรจะใช้บริการเวดดิ้ง แพลนเนอร์ “แต่ถ้ามีเวลาที่จะค่อยๆเลือกทีละอย่าง ค่อยๆหาข้อมูล ก็มีความสุขดีที่จะค่อยๆจัดงานของตัวเองขึ้นมา แต่คนสมัยนี้ไม่ได้มีเวลา บางคนไม่ได้มีใจที่อยากจะต้องขวนขวายขนาดนั้น ก็ยกงานให้เราช่วยก็น่าจะดี ที่จริงเราก็เหมือนเป็นที่ปรึกษาให้เขา เป็นอีกมือหนึ่งที่จะช่วยให้มั่นใจได้มากขึ้นว่าวันแต่งงานของคุณจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบค่ะ”